หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๓) - ๒๔๕๗.pdf/103

หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
๙๓

ลงมาหาได้ไม่ เจ้าพระยามุขมนตรีก็นำเจ้านายเมืองเชียงใหม่ เมืองนครลำปาง เมืองลำพูนไชย เข้าเฝ้าทูลลอองธุลีพระบาท จึงมีพระบรมราชโองการปฤกษาด้วยพระบรมวงษานุวงษ์ แลท่านอรรคมหาเสนาธิบดี ว่าเมืองลาวพุงขาว เมืองแขก เมืองเขมร ซึ่งเปนเมืองประเทศราชเชื้อวงษ์เปนเจ้า ก็ได้ทรงพระมหากรุณาตั้งขึ้นเปนเจ้าทุก ๆ เมือง แต่ลาวพุงดำเมืองเชียงใหม่ เมืองนครลำปาง เมืองลำพูน ตั้งแต่พระเจ้าเชียงใหม่กาวิละ พระเจ้านครลำปางดวงทิพ พระเจ้าลำพูนไชยบุญมา ถึงแก่พิราไลยแล้ว ตั้งเจ้าเมือง อุปราช ราชวงษ์ เมืองแก้ว ครั้งใด ก็ตั้งเปนพระยาทุก ๆ ครั้ง ครั้งนี้จะทรงพระมหากรุณาตั้งเจ้าเมือง อุปราช ราชวงษ์ ราชบุตร เมืองแก้ว ขึ้นเปนเจ้าทั้ง ๓ เมือง ให้สมควรที่ได้ยกขึ้นเปนเมืองประเทศราชอันใหญ่ แต่เจ้าเมือง อุปราช ราชวงษ์ ราชบุตร เมืองแก้ว เมืองขึ้นนั้น ให้คงเปนพระยาอยู่ตามเดิม พระบรมวงษานุวงษ์แลท่านอรรคมหาเสนาธิบดี ก็เห็นชอบด้วยดังกระ แสพระราชดำริห์ทุกประการ จึงโปรดเกล้า ฯ ปฤกษาด้วยท่านเสนาธิบดีทั้งปวงว่าจะตั้งพระยาอุปราชพิมพิสารขึ้นเปนเจ้านครจางวาง ให้ว่ากล่าวการสิทธิ์ขาดในเมืองเชียงใหม่ เมืองนครลำปาง เมืองลำพูนไชย จะตั้งพระยาเมืองแก้วสุริยวงษ์ เปนเจ้านครเชียงใหม่ จะตั้งนายน้อยมหาพรหมเปนเจ้าอุปราช ให้ท่านเสนาบดีปฤกษาพร้อมด้วยพระยาลำพูนไชย พระยาอุปราชเมืองนครลำปาง จะเห็นชอบด้วยประการใด ปฤกษากันยังหาตกลงไม่ พอพระยารัตนอาณาเขตร เจ้าเมือง