หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๓) - ๒๔๕๗.pdf/87

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๗๗

ครั้นศักราช ๑๑๔๗ ปีมะเสง สัปตศก ครั้งทัพลาดหญ้าพม่ายกมาล้อมเมืองนครลำปางแลตีหัวเมืองฝ่ายเหนือ จึงโปรดเกล้าฯ ให้กรมพระราชวังบวรสถานพิมุขฝ่ายหลังกับเจ้าพระยามหาเสนายกไปตีทัพพม่าณหัวเมืองฝ่ายเหนือ ทัพหลวงก็เสด็จหนุนขึ้นไปตั้งอยู่ณเมืองนครสวรรค์ ครั้นพม่าถอยไปสิ้นแล้ว จึงโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ กรมหลวงจักรเจษฎา แบ่งคนในกองทัพหลวงยกไปบรรจบทัพเจ้าพระยามหาเสนาไปรบพม่าตามลำน้ำพิงซึ่งตั้งอยู่ณเมืองกำแพงเพ็ชร เมืองตาก แล้วไปช่วยเมืองนครลำปาง ฝ่ายพม่าที่ล้อมเมืองนครลำปางได้ทราบว่า กองทัพไทยขึ้นไปช่วย ก็เลิกทัพกลับไป

ครั้นศักราช ๑๑๔๘ ปีมะเมีย อัฐศก พม่าซึ่งตั้งอยู่เมืองเชียงแสนจะยกมาตีเมืองฝางลาว พระยาแพร่ที่อะแซวุ่นกี้เอาตัวไปเมืองพม่าแต่ครั้งทัพเมืองพระพิศณุโลกนั้น พระยาแพร่มาอยู่ที่เมืองเชียงแสนคิดกับพระยายอง จับอาปะกามะนีนายทัพพม่าซึ่งมาตั้งอยู่ณเมืองเชียงรายจำโตงกพาครอบครัวเข้ามาสามิภักดิ์สู่พระบรมโพธิสมภาร พระยากาวิละเจ้าเมืองนครลำปางบอกส่งลงมา โปรดให้พระยายองกลับขึ้นไปอยู่กับพระยากาวิละที่เมืองนครลำปาง แต่พระยาแพร่นั้นให้ทำราชการอยู่ณกรุงเทพฯ

แล้วได้ข่าวว่า พม่าจะยกมาตีเมืองฝางลาว เมืองนครลำปางอิก จึ่งโปรดเกล้าฯ ให้กรมพระราชวังบวรฯ เสด็จขึ้นไปจัดการณเมืองเชียงใหม่ ครั้นเสด็จขึ้นไปถึงเมืองนครลำปาง จึงมีพระราช