หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๕๓) - ๒๔๗๖.pdf/112

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๑๐๘

เสีย พม่าก็เอาไฟเผาบ้านเมืองเสียทั้ง ๒ เมือง แล้วยกมาตีเมืองนครศรีธรรมราช ๚

ขณะนั้น เจ้าพระยานคร พัฒน์ ได้ข่าวว่า เมืองชุมพร มืองไชยา เสียแก่พม่าแล้ว จึงแต่งให้กรมการคุมพลพันเศษมาตั้งขัดตาทัพพม่าอยู่ที่ท่าต่อแดนเมืองไชยา ครั้นพม่ายกไป ยังไม่ได้รบ พม่าคิดอุบายให้คนชาวเมืองไชยาไปร้องบอกลวงชาวเมืองว่า กรุงบางกอกเสียแก่พม่าแล้ว อย่าสู้รบเลย ให้ออกมาเสียโดยดีเถิด กรมการนำความไปแจ้งแก่นคร พัฒน์ เจ้านคร พัฒน์ สำคัญว่า จริง เพราะมิได้เห็นทัพกรุงออกไปช่วย ด้วยในเวลานั้น กรุงเทพฯ ยังรบติดพันกับพม่าทางเมืองกาญจนบุรีอยู่ จึงยังมิได้ยกไปช่วย เจ้าพระยานคร พัฒน์ จึงทิ้งเมืองเสีย พาพรรคพวกครอบครัวหนีไปอยู่นอกเขาตำบลจันดี ปลายคลองคุดด้วน แขวงอำเภอฉวาง ที่ซึ่งเจ้าพระยานคร พัฒน์ ไปตั้งทับอาไศรยอยู่ เรียกว่า ทับเจ้าพระยา ยังปรากฎอยู่จนทุกวันนี้ พม่าได้เมืองนครศรีธรรมราช ก็เข้าตั้งอยู่ในเมือง ให้รวบรวมรี้พลกองทัพจะยกไปตีเมืองพัทลุง เมืองสงขลา ต่อไป ๚

ฝ่ายข้างเมืองพัทลุง เจ้าเมือง กรมการ ได้แจ้งว่า เมืองชุมพร เมืองสงขลา เมืองนครศรีธรรมราช เสียแก่ข้าศึกแล้ว จึงปฤกษากันคิดจะยกครอบครัวหนี ยังมีพระสงฆ์องค์ ๑ ชื่อ มหาช่วย เปนเจ้าอธิการวัดในแขวงเมืองพัทลุง สำแดงวิชาเวทมนต์ลงเลขยันต์