เสร็จแล้ว ได้ฝังศพพระยาศรีสมบัติแลพระยาสงขลาไว้ที่เขาแหลมสนแห่งเดียวกัน[1] ได้จาฤกอักษรไว้ในศิลาแล้ว แลพระยาศรีสมบัติได้สร้างพระอุโบสถแลโรงธรรมวัดโพไว้ พระยาสงขลา หลวงนายฤทธิ ได้ครองเมืองสงขลาเจ็ดปี ได้สร้างอุโบสถไว้วัดสุวรรณคิรี แล้วทำนุบำรุงพระบวรพุทธสาสนาให้สถาปนารุ่งเรืองสืบมา กับสร้างสำเภาไว้ลำหนึ่ง ต่อถึงอนิกรรมครั้งนั้น นายพลพ่าย หลวงพิทักษ์ราชา กับพ่อแพะ บุตรพระสุนทรนุรักษ์ ถือบอกถวายพระราชกุศลเข้าไปให้นำขึ้นกราบบังคมทูลทรงทราบแล้ว โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ตั้งพระสุนทรนุรักษ์ (เซง) เปนที่พระยาวิเชียนคิรี ศรีสมุท วิสุทธิศักดา มหาพิไชยสงคราม รามภักดี พิริยะพาหะ ผู้สำเร็จราชการเมืองสงขลา เลื่อนนายพลพ่าย มหาดเล็ก เปนที่หลวงสุนทรนุรักษ์ เลื่อนหลวงพิทักษ์ราชาเปนพระพิเรนทรภักดี ตั้งพ่อแพะเปนหลวงสมบัติภิรมย์ ผู้ช่วยราชการ ออกมา ภายหลัง จึงโปรดตั้งพ่อเหมเปนที่หลวงอนุรักษ์ภูเบศ์ร พ่อยกเซ่งเปนที่หลวงอุดมบริรักษ์ พ่อหมีเปนที่หลวงพิทักษ์สุนทร แลในปีขาล สัมฤทธิศก ศักราช ๑๑๘๐ นั้น พระยาถลางบอกเข้าไปให้กราบบังคลทูลพระกรุณาว่า พม่ามาตั้งต่อเรืออยู่ที่เมืองมฤท เมืองตะนาว สองร้อยลำ แต่หารู้ว่าจะยกไปแห่งใดไม่ ทรงทราบแล้วไม่ไว้พระไทย โปรดเกล้าโปรด
- ↑ ที่แหลมสนมีที่ฝังผู้ว่าราชการเมืองสงขลา เข้าใจว่า ฝังแต่ศพเจ้าพระยาสงขลาคนแรก ต่อมา เผาศพ แล้วฝังอิฐ