จากท้องพระโรง พระครูธรรมโมฬี พระครูญาณโมฬี พระถานา ๑๑ รูป ที่นั่งคอยท่าจะถวายพระพรไชยันโตอยู่ที่พระที่นั่งเย็น ก็ถวายไชยันโตขึ้น เข้าใจว่า จะเสด็จลงเรือ ยกพระหัดถ์ขึ้นห้ามว่า ยังไม่ไปก่อน พระครูถานาทั้งนั้นก็หยุดอยู่ เสด็จลงไปวัดแดดที่น่าพลับพลาน้ำ เสร็จแล้ว กลับขึ้นมาทรงประทับที่พระที่นั่งเย็นกับพระครูธรรมโมฬี พระครูญาณโมฬี พระถานาทั้งปวง ทรงตรัสว่า เมืองนี้รู้จักแต่พระครูหมีองค์เดียว เมืองนครรู้จักมหาจู มหารุ่ง แลขรัวแก้ว หลายองค์ วัดวาอารามเมืองนครมาก แต่ชำรุดหักพังไม่มีผู้จะบุรณปฏิสังขรณ์คร่ำคร่าเสียมาก อารามที่เมืองสงขลาดูก็เปนใหม่ปนเก่าอยู่บ้าง แล้วตรัสถาทหลวงอนุรักษ์ภูเบศร์ ผู้ช่วยราชการเมืองสงขลา ว่า กระเบื้อง ถ้าให้ตัวอย่างมาอย่างใด ทำได้เหมือนอย่างนั้นฤๅ กราบทูลว่า ทำได้ แล้วตรัสกับเจ้าคุณผู้สำเร็จราชการเมืองสงขลาว่า ถ้าก่อพระเจดีย์เสร็จแล้ว เรือกำปั่นไฟก็มี จะออกมาฉลองพระเจดีย์สักทีก็ได้ แต่รับรองเลี้ยงขุนกันแขงแรงดังนี้ จะพากันยากจนเสีย เจ้าคุณผู้สำเร็จราชการเมืองสงขลากราบทูลว่า พระบารมีปกเกล้าปกกระหม่อมอยู่แล้ว ไม่ยากจนมิได้ ทรงพระสรวลแล้วเสด็จขึ้น รับสั่งเรียกเอาเป๋าทองคำที่เจ้าคุณผู้สำเร็จราชการเมืองสงขลาถวาย แลเป๋าหลวงสมบัติภิรมย์ หลวงอนุรักษ์ภูเบศร์ หลวงวิเศษภักดี ผู้ช่วยราชการเมืองสงขลา แลเป๋าพระยาแขกหัวเมืองทั้งปวงถวาย เอามากองลงที่ท้องพระโรง แล้วตรัสว่า จะออกมาเที่ยวทอดพระเนตร
หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๕๓) - ๒๔๗๖.pdf/94
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๙๐