หน้า:ประมวลกฎหมาย รัชกาลที่ ๑ (๑) - ๒๔๘๑.pdf/352

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๓๓๘
ภญาน

กล่าวคดีสม ท่านให้เอาเปนทิพพญาณ ชะนะแก่ความ บาปบุญคุณโทษไว้แก่ผู้กล่าว
13
๑๓อนึ่ง ลักษณพญาณอันจะฟังเอาเปนมูลคดีนั้น คือว่า อยู่ด้วยกัน ไปด้วยกัน ทำกินด้วยกัน จะฟังเอาเปนพญาณได้แลหมีได้นั้น มีดั่งนี้
คือ เมียน้อยเมียหลวงวิวาทกัน อ้างผัวเปนพญาณ ท่านหมีให้ฟังเอาได้ เหตุผัวมืดมัวด้วยเสน่หรักษใคร่แลอาไลยอยู่ในทรัพยสิ่งของ หมีได้กล่าวแต่ที่อันจริง ท่านให้ฟังเอาแต่ชาวเกลอแลเพื่อนบ้านเปนพญาณในมูลคดีความ
ประการหนึ่ง ในคงคามหาสมุท ชาวเรือ
สำเภา
วิวาทกัน เพื่อนเรือ
สำเภา
เปนพญาณ
ประการหนึ่ง ชาวเรือ
สำเภา
ลำเดียวกัน ผู้ไปเรือ
สำเภา
ลำเดียวกันเปนพญาณ
ประการหนึ่ง เดิรหนทางด้วยกันวิวาทกัน ผู้เดิรหนทางด้วยกันเปนพญาณ
ประการหนึ่ง เดิรหนไปอาไศรยศาลาด้วยกันวิวาทกัน[1] ผู้เดิรหนอาไศรยศาลาด้วยกันเปนพญาณ
ประการหนึ่ง ไปกลางป่ากลางดงห้วยเขาด้วยกันวิวาทแก่กัน เอาพรานป่าแลโขมดป่าผู้ไปด้วยกันเปนพญาณ

  1. ก: คำว่า กัน ขาดไป
ม.ธ.ก.