คำอุทิศกุศลเมื่อพระยาโบราณราชธานินทร์รับราชการครบ ๓ รอบ

แม่แบบผิดพลาด: มีการลบช่องที่ไม่ได้ใช้ออก โปรดเติมกลับเข้าไป (โปรดดูเอกสารกำกับแม่แบบ)
คำอุทิศกุศล
เมื่อพระยาโบราณราชธานินทร์รับราชการครบ ๓ รอบ

ด้วยนับจำเดิมตั้งแต่ข้าพเจ้ารับราชการในตำแหน่งอาจารย์รองในโรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบ ในพระบรมมหาราชวัง มาตั้งแต่วันที่ ๘ มิถุนายน พระพุทธศักราช ๒๔๓๒ มาจนถึงวันที่ ๘ มิถุนายน พระพุทธศักราช ๒๔๖๘ บรรจบครบ ๓ รอบ นักษัตรบริบูรณ์ ด้วยความสวัสดีมีความเจริญเป็นลำดับมา และทั้งข้าพเจ้าได้รับราชการอยู่ในพระนครศรีอยุธยายืนนานมากกว่าผู้อื่น เป็นเหตุให้ข้าพเจ้าเกิดปีติปราโมทย์ในสุจริตกิริยาที่ได้ปฏิบัติมาแต่ต้นจนบัดนี้และระลึกถึงคุณูปการแห่งบุรพการี มีชนกชนนีผู้บังเกิดเกล้าที่บำรุงกล่อมเกลี้ยงเลี้ยงดูมาตั้งแต่เป็นทารกจนเจริญวัย ทั้งคุณแห่งบุรพาจารย์ทั้งหลายทั้งที่เป็นเจ้านายและอำมาตย์ราชบุรุษ ที่ได้อบรมสั่งสอนในนานาศิลปศาสตร์แก่ข้าพเจ้ามา กับทั้งระลึกถึงพระเดชพระคุณในพระบาทสมเด็จพระรามาธิบดีศรีสินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งได้ทรงพระมหากรุณาโปรดเกล้าฯ ชุบเลี้ยงพระราชทานยศบรรดาศักดิ์แก่ข้าพเจ้า ตั้งแต่ชั้นต่ำขึ้นมาจนถึงบรรดาศักดิ์พระยาและยศชั้นมหาอำมาตย์ตรี พระราชทานเครื่องราชอิสสริยาภรณ์ชั้นสูงอีกหลายอย่าง และเครื่องยศตั้งแต่โต๊ะทอง กาทอง ขึ้นมาจนถึงพานทอง ซึ่งเป็นเครื่องยศสำหรับข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ในเวลาที่ข้าพเจ้ายังมีอายุอยู่ในมัชฌิมวัย และทั้งยังได้พระราชทานปูชนียวัตถุกับอาภรณ์และเครื่องอุปโภคบริโภค เป็นพิเศษอีกหลายอย่าง มีพระราชทานพระบรมฉายาลักษณ์และหีบบุหรี่ทองหลังฝามีตราพระปรมาภิไธยลงยาราชาวดีเป็นอาทิ บางสมัยแม้พันธุ์ไม้อันเป็นผลาหารซึ่งทรงปลูกไว้ในพระราชอุทยานแรกเริ่มมีผล ก็ยังทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เฉลี่ยมาพระราชทานข้าพเจ้า ทั้งโปรดเกล้า ฯ พระราชทานพระราชกระแสในวิชาโบราณคดี นับว่าพระองค์เป็นเจ้าชีวิตและเป็นบุรพาจารย์ของข้าพเจ้า อนึ่งพระบาทสมเด็จพระรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราวุธ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ก็มีพระเดชพระคุณแก่ข้าพเจ้าเป็นเอนกประการ มีพระราชทานบรรดาศักดิ์ให้เป็นพระยา ดำรงศักดินา ๑๐,๐๐๐ เป็นองคมนตรี และเลื่อนยศขึ้นเป็นมหาอำมาตย์โท และมหาเสวกโท เลื่อนตำแหน่งขึ้นเป็นอุปราช ทั้งเป็นนายเสือป่าตั้งแต่ชั้นต่ำจนถึงนายกองใหญ่ เป็นราชองครักษ์ พระราชทานเครื่องราชอิสสริยาภรณ์ชั้นสูงในส่วนราชการและในส่วนพระองค์ ทั้งพระราชทานพระบรมฉายาลักษณ์ซึ่งเป็นพระมหากรุณาธิคุณพิเศษเมื่ออภิลักขิตสมัยมงคลมาถึง

ข้าพเจ้าจึงปรารภที่จะบำเพ็ญกุศลสนองพระคุณบุรพการีและบุรพาจารย์และสนองพระเดชพระคุณในสมเด็จพระรามาธิบดีทั้งอดีต และปัตยุบัน จึงได้สร้างพระพุทธปฏิมากรปางถวายพระเนตร อุทิศกุศลให้เฉพาะท่านขุนฤทธิ์ดรุณเสรฐผู้เป็นชนกองค์หนึ่ง พระพุทธปฏิมากรปางทรงพระรำพึง อุทิศกุศลฉะเพาะท่านไผ่ผู้ชนนี กับพระพุทธปฏิมากรทรงอุ้มบาตรไว้สำหรับสักการะองค์หนึ่ง กับสร้างหนังสือนิบาตชาดกตอนปัญจกนิบาตและฉักกนิบาต ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระราชประสงค์ที่จะให้แปลลงพิมพ์ในภาษาไทยไว้สำหรับ ผู้ศึกษาที่มิได้รู้ภาษาบาลีให้แพร่หลาย อุทิศกุศลถวายในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระองค์นั้น

ครั้นถึง ณ วันอาทิตย์ที่ ๗ มิถุนายน พระพุทธศักราช ๒๔๖๘ ได้เชิญพระพุทธคันธารราฐ ซึ่งข้าพเจ้าสร้างอุทิศกุศลถวายในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวในอภิลักขิตสมัยเมื่อทรงพระชนม์ครบ ๕๐ พรรษา และเป็นปีแรกที่ข้าพเจ้ารับตำแหน่งหน้าที่สมุหเทศาภิบาลมณฑลอยุธยามาเป็นประธาน กับเชิญพระพุทธรูปถวายพระเนตร พระพุทธรูปทรงพระรำพึง พระพุทธรูปทรงอุ้มบาตร กับพระชัย ของโบราณ และพระพุทธรูปสำคัญ ซึ่งข้าพเจ้าได้ปฏิบัติบูชามาแต่ยังเยาว์ ขึ้นประดิษฐานบนม้าหมู่ ประกอบด้วยเครื่องบูชาอันประดิษฐ์ด้วยหิรัญ เชิญพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทั้งสองพระองค์ และพระรูปเจ้านายที่มีพระเดชพระคุณประดิษฐานในที่อันควร ประดับด้วยนานาบุปผชาติตั้งเครื่องสักการะ เวลาบ่ายนิมนต์พระสังฆเถร ๙ รูป เท่าจำนวนพระเนาวโลกุตรธรรม ถวายไตรจีวรให้ครองแล้วเจริญพระพุทธมนต์ ในพรพินิตอันเป็นจวนสถิตย์แห่งอุปราชมณฑลอยุธยาเวลาค่ำ มีการเลี้ยงอาหารแก่ผู้มาสโมสรสันนิบาต และมีนานามหรสพ จุดดอกไม้เพลิงเป็นพุทธบูชา

รุ่งขึ้นณวันที่ ๘ มิถุนายน เวลาเช้าถวายอาหารบิณฑบาตและไทยทานอุทิศเป็นจตุปัจจัยทั้ง ๔ แด่พระสังฆเถร ๙ รูป กับถวายสังฆทานแด่พระสงฆ์ ๓๖ รูปเท่าจำนวนปีที่รับราชการมาแล้วมีพระธรรม เทศนา เมื่อจบพราหมณ์จักได้เบิกแว่นเวียนเทียนสมโภชพระพุทธรูปและพระบรมรูป กับพระรูป ตามคติไสยศาสตร์ เพื่อปรารถนาจะให้สมเด็จพระราชาธิบดี และเจ้านายผู้มีพระเดชพระคุณ เจริญศิริสวัสดิ์สถาพร

ข้าพเจ้าขออุทิศกุศลให้แด่ท่านขุนฤทธิ์ดรุณเสรฐชนก และท่านไผ่ชนนี กับทั้งบรรพบุรุษบรรพสตรี ในสกุลเดชะคุปต์ สกุลกันตามระ และอุทิศให้แด่บุรพาจารย์ มีท่านพระยาศรีสุนทรโวหาร (น้อย อาจารยางกูร) ท่านพระยาโอวาทวรกิจ (แก่น โอวาทสาร) กับอาจารย์อื่นๆ ทั้งที่เป็นคนไทยและต่างประเทศ ซึ่งล่วงลับไปยังปรโลกแล้วและที่ยังคงชนมชีพอยู่ อนึ่งข้าพเจ้าขออุทิศกุศลถวายสนองพระเดชพระคุณในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระปิยมหาราชาธิราช ซึ่งทรงพระคุณธรรมอันประเสริฐ กับสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนารถ และถวายอดีตมหาราชทุกพระองค์ ซึ่งทรงปกครองสยามรัฐสีมาอาณาจักรณพระนครศรีอยุธยา และกรุงธนบุรี กับอุทิศถวายในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมราชวงศ์จักรี ณ กรุงรัตนโกสินทร์ทั้ง ๔ พระองค์ กับอุทิศถวายพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมขุนมรุพงศ์ศิริพัฒน์ ปฐมสมุหเทศาภิบาลมณฑลอยุธยา ซึ่งสิ้นพระชนม์ล่วงลับไปแล้วส่วนหนึ่ง กับข้าพเจ้าขอถวายพระราชกุศลในพระบาทสมเด็จพระรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราวุธ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ให้ทรงพระเจริญพระราชศิริสวัสดิ์ เสด็จสถิตย์สถาพรอยู่ในรัตนราไชสวรรย์ กับถวายพระพรในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ผู้เป็นพระบุรพาจารย์และมีพระเดชพระคุณมา ขอกุศลที่ได้บำเพ็ญในครั้งนี้จงบันดาลให้พระเจ้าบรมวงศ์เธอพระองค์นั้น ทรงพระเจริญพระชนมสุขสถาพรพิพัฒน์ ปราศจากสรรพโรคาพาธภัยพิบัติทุกประการ.