ประชุมพงศาวดาร/ภาคที่ 17 (2463)

ดูฉบับอื่นของงานนี้ที่ ประชุมพงศาวดาร ภาคที่ 17
ตราของหอพระสมุดวชิรญาณ
ตราของหอพระสมุดวชิรญาณ
ประชุมพงศาวดาร ภาคที่ ๑๗
ตำนาน เรื่อง เลิกหวยแลบ่อนเบี้ยในกรุงสยาม
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระดำรงราชานุภาพ
ทรงนิพนธ์
พิมพ์ครั้งที่ ๒
แจกในงานศพนางยิ้ม มารดาคุณหญิงอินทรมนตรี
ปีวอก พ.ศ. ๒๔๖๓
โรงพิมพืโสภณพิพรรฒธนากร

คำนำ

หลวงโสภณอักษรกิจมาแจ้งความณหอพระสมุดวชิรญาณสำหรับพระนครว่า คุณหญิงอินทรมนตรีจะปลงศพสนองคุณนางยิ้มผู้เปนมารดา เจ้าภาพงานศพนี้ให้หลวงโสภณอักษรกิจมาขออนุญาตพิมพ์หนังสือประชุมพงศาวดาร ภาคที่ ๑๗ ซึ่งว่าด้วยเรื่องตำนานการเลิกหวยแลบ่อนเบี้ย เปนของแจกเนองในการกุศลทักษิณานุปทานที่บำเพ็ญนั้น

กรรมการหอพระสมุดวชิรญาณอนุญาตให้พิมพ์ตามประสงค์ แลขออนุโมทนากุศลบุญราศีทักษิณานุปทานซึ่งเจ้าภาพได้บำเพ็ญในการปลงศพสนองคุณบุรพการี ทั้งที่พิมพ์หนังสือเรื่องนี้ให้ได้อ่านกันแพร่หลายอิกครั้งหนึ่ง หวังใจว่า ผู้ที่ได้รับหนังสือเรื่องนี้ไปคงจะอนุโมทนาด้วยทั่วกัน

  • สภานายก
  • หอพระสมุดวชิรญาณ
  • วันที่ ๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๖๓

คำอธิบาย

เรื่องตำนานการเลิกหวยแลบ่อนเบี้ยที่พิมพ์ในสมุดเล่มนี้ ข้าพเจ้าเก็บเนื้อความจากหนังสือจดหมายเหตุต่าง ๆ ซึ่งมีอยู่ในหอพระสมุดวชิรญาณสำหรับพระนคร คือ หนังสือราชกิจจานุเบกษา เปนต้น มาเรียบเรียงขึ้นเปนเรื่องตำนาน เพื่อจะให้ทราบเรื่องราวของอากรหวยแลอากรบ่อนเบี้ยตั้งแรกมีขึ้นในเมืองไทย จนกระทั่งได้เลิกหมดมิให้เล่นกันต่อไป ความข้อใดไม่มีหนังสือจะสอบสวน ก็ได้ไต่ถามตามผู้รู้เห็นซึ่งยังมีตัวอยู่ แลถามเจ้าพนักงานในกระทรวงพระคลังบ้าง แต่งประกอบกับความรู้แลความคิดเห็นของข้าพเจ้าเอง จนตลอดเรื่อง ข้าพเจ้าขอขอบคุณท่านทั้งหลายที่ได้ช่วยสงเคราะห์นั้นทั่วกัน

หนังสือเรื่องนี้ เห็นว่า เปนเรื่องพงศาวดาร จึงได้พิมพ์รวบรวมไว้ในหนังสือประชุมพงศาวดาร นับเปนภาคที่ ๑๗ ได้พิมพ์ครั้งแรกเมื่อปีมแม พ.ศ. ๒๔๖๒ แต่เมื่อพิมพ์ครั้งนั้น มีเวลาน้อย แต่งพลางส่งลงพิมพ์พลาง ไม่มีเวลาที่จะสอบสวนได้กว้างขวาง ได้คิดเห็นอยู่แต่ครั้งนั้นว่า เรื่องราวที่แต่งไปคงจะยังมีวิปลาศแลบกพร่องอยู่ ครั้นพิมพ์หนังสือนั้นแล้ว วานพระยาโบราณราชธานินทร์ตรวจ ก็ปรากฎว่า ยังบกพร่องจริง ด้วยยังมีความในกฎหมายเก่าว่าด้วยบ่อนเบี้ยซึ่งยังมิได้ตรวจอยู่หลายแห่ง คือ

ในพระธรรมนูญว่า ตราปักษาวายุภักษ์ของพระยาราชภักดีเปนผู้ตั้งนายอากรบ่อนเบี้ย แห่ง ๑

ในลักษณะเบ็จเสร็จ ห้ามมิให้ข้าราชการเล่นเบี้ย และว่าด้วยการเล่นเบี้ยเงินติดค้าง แห่ง ๑

ในลักษณพยาน ห้ามมิให้ฟังคำนักเลงเล่นเบี้ยบ่อนเปนพยาน เว้นแต่โจทย์จำเลยยอมให้ฟังทั้ง ๒ ฝ่าย แห่ง ๑

สามแห่งที่กล่าวมานี้ เข้าใจว่า เปนกฎหมายตั้งครั้งกรุงเก่า แลยังมีกฎหมายตั้งครั้งรัชกาลที่ ๑ เนื่องด้วยบ่อยเบี้ยอิก ๓ บท คือ

ในพระราชกำหนดใหม่ บทที่ ๒ เพิ่มพระราชอาญาลงแก่ข้าราชการที่เสพสุราแลเล่นเบี้ย แห่ง ๑

พระราชกำหนดใหม่ บทที่ ๒๖ กำหนดอัตราเงินที่นายบ่อนขาดรองให้คนเล่นเบี้ย

ในพระราชบัญญัติ บทที่ ๘ ว่าด้วยกระทรวงศาลที่จะพิจารณาความซึ่งเกิดด้วยการเล่นเบี้ย แห่ง ๑

รวมกฎหมายเก่าเกี่ยวด้วยการบ่อนเบี้ยซึ่งตั้งในรัชกาลที่ ๑ กรงรัตนโกสินทร์ ๓ แห่งด้วยกัน ถ้าว่าโดยเนื้อเรื่อง ก็เปนแต่ปรากฎความพิศดารขึ้น แต่หาได้ลบล้างความสำคัญข้อใดที่ได้เรียบเรียงไว้ไม่

นอกจากกฎหมายเก่าที่ได้กล่าวมา ยังได้พบในสำเนาตราตั้งนายอากรบ่อนเบี้ย ได้ความแปลกออกไปอิกอย่าง ๑ ว่า บ่อนเบี้ยแต่ก่อนนั้น กำหนดเปน ๒ อย่าง เรียกว่า บ่อนเบี้ยจีน อย่าง ๑ บ่อนเบี้ยไทย อย่าง ๑ ต่างกันด้วยวิธีเล่น บ่อนจีนยอมให้เล่นติดคิดบาญชีหักใช้กันได้ตามประเพณีจีน แต่บ่อนไทยให้เล่นเงินสด แต่เดิมตั้งบ่อนแยกกัน ต่อมาจึงรวมเปนบ่อนเดียวกัน

ข้าพเจ้าได้ตั้งใจว่า มีโอกาศเมื่อใด จะแก้ไขหนังสือเรื่องตำนานบ่อนเบี้ยให้ตรงตามความรู้ที่ได้ใหม่ให้บริบูรณ แต่ยังไม่มีโอกาศจะทำได้ บัดนี้ หลวงโสภณอักษรกิจจะขออนุญาตพิมพ์หนังสือประชุมพงศาวดาร ภาคที่ ๑๗ เปนครั้งที่ ๒ ข้าพเจ้าจะแก้ไขให้บริบูรณไม่ทัน จึงแต่งแจ้งความนี้ไว้ให้ทราบ


บรรณานุกรมแก้ไข

  • ดำรงราชานุภาพ, พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระ. (2463). ประชุมพงศาวดาร ภาคที่ 17. (พิมพ์ครั้งที่ 2). พระนคร: โรงพิมพ์โสภณพิพรรฒธนากร. (พิมพ์ครั้งที่ 2 แจกในงานศพนางยิ้ม มารดาคุณหญิงอินทรมนตรี ปีวอก พ.ศ. 2463).
 

งานนี้ ปัจจุบันเป็นสาธารณสมบัติแล้ว เพราะลิขสิทธิ์ได้หมดอายุตามมาตรา 19 และมาตรา 20 ของพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ซึ่งระบุว่า

ถ้ารู้ตัวผู้สร้างสรรค์ ในกรณีที่ผู้สร้างสรรค์เป็นบุคคลธรรมดา
  1. ลิขสิทธิ์หมดอายุเมื่อพ้น 50 ปีนับแต่ผู้สร้างสรรค์ถึงแก่ความตาย
  2. ถ้ามีผู้สร้างสรรค์ร่วม ลิขสิทธิ์หมดอายุ
    1. เมื่อพ้น 50 ปีนับแต่ผู้สร้างสรรค์ร่วมคนสุดท้ายถึงแก่ความตาย หรือ
    2. เมื่อพ้น 50 ปีนับแต่ได้โฆษณางานนั้นเป็นครั้งแรก ในกรณีที่ไม่เคยโฆษณางานนั้นเลยก่อนที่ผู้สร้างสรรค์ร่วมคนสุดท้ายจะถึงแก่ความตาย
ถ้ารู้ตัวผู้สร้างสรรค์ ในกรณีที่ผู้สร้างสรรค์เป็นนิติบุคคล หรือถ้าไม่รู้ตัวผู้สร้างสรรค์
  1. ลิขสิทธิ์หมดอายุเมื่อพ้น 50 ปีนับแต่ได้สร้างสรรค์งานนั้นขึ้น
  2. แต่ถ้าได้โฆษณางานนั้นในระหว่าง 50 ปีข้างต้น ลิขสิทธิ์หมดอายุเมื่อพ้น 50 ปีนับแต่ได้โฆษณางานนั้นเป็นครั้งแรก