พระธรรมนูญศาลยุติธรรม แก้ไขเพิ่มเติม พุทธศักราช 2476

ตราพระบรมราชโองการ
ตราพระบรมราชโองการ
พระธรรมนูญศาลยุตติธรรม แก้ไขเพิ่มเติม
พุทธศักราช ๒๔๗๖

นริศรานุวัดติวงศ์
ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์
(ตามพระราชกฤษฎีกา ลงวันที่ ๑๑ มกราคม พ.ศ. ๒๔๗๖)

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาประชาธิปก พระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการดำรัสเหนือเกล้าฯ สั่งว่า

โดยที่สภาผู้แทนราษฎรถวายคำปรึกษาว่า สมควรแก้ไขเพิ่มเติมพระธรรมนูญศาลยุตติธรรม

จึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้ โดยคำแนะนำและยินยอมของสภาผู้แทนราษฎร ดั่งต่อไปนี้

มาตรา  พระราชบัญญัตินี้ให้เรียกว่า "พระธรรมนูญศาลยุตติธรรม แก้ไขเพิ่มเติม พุทธศักราช ๒๔๗๖"

มาตรา  ให้ใช้พระราชบัญญัตินี้ตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

มาตรา  ให้ยกเลิกมาตรา ๓๒ แห่งพระธรรมนูญศาลยุตติธรรม ร.ศ. ๑๒๗ (พ.ศ. ๒๔๕๑) มาตรา ๒ แห่งประกาศแก้พระธรรมนูญข้าหลวงพิเศษและตั้งศาลมณฑลพายัพและศาลมณฑลมหาราษฎร์ ลงวันที่ ๓๐ มีนาคม พุทธศักราช ๒๔๕๘ และประกาศตั้งตำแหน่งข้าหลวงพิเศษศาลยุตติธรรม ลงวันที่ ๕ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๔๗๒

มาตรา  ให้เลิกศาลมณฑล และให้ศาลมณฑลแต่เดิมมีฐานะเป็นศาลจังหวัด กับให้ยุบตำแหน่งอธิบดีผู้พิพากษาศาลมณฑล

มาตรา  ให้มีข้าหลวงยุตติธรรมซึ่งจะได้ประกาศตั้งตามจำเป็นแก่ราชการ มีอำนาจเหมือนกับอธิบดีผู้พิพากษาตามเขตต์ซึ่งจะได้ระบุไว้ในประกาศนั้น

มาตรา  คดีซึ่งเกี่ยวกับบุคคลในบังคับต่างประเทศที่ต้องพิจารณาตามสัญญาทางพระราชไมตรี ให้พิจารณาในศาลซึ่งมีอำนาจตามสัญญาทางพระราชไมตรีตามเดิม

ประกาศมาณวันที่ ๑๙ มีนาคม พุทธศักราช ๒๔๗๖ เป็นปีที่ ๙ ในรัชชกาลปัจจุบัน
  • ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
  • นายพันเอก พระยาพหลพลพยุหเสนา
  • นายกรัฐมนตรี

บรรณานุกรม แก้ไข

 

งานนี้ไม่มีลิขสิทธิ์ เพราะเป็นงานตามมาตรา 7 (2) แห่งพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ของประเทศไทย ซึ่งบัญญัติว่า

"มาตรา 7 สิ่งต่อไปนี้ไม่ถือว่าเป็นงานอันมีลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัตินี้
(1) ข่าวประจำวัน และข้อเท็จจริงต่าง ๆ ที่มีลักษณะเป็นเพียงข่าวสาร อันมิใช่งานในแผนกวรรณคดี แผนกวิทยาศาสตร์ หรือแผนกศิลปะ
(2) รัฐธรรมนูญ และกฎหมาย
(3) ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ คำสั่ง คำชี้แจง และหนังสือโต้ตอบของกระทรวง ทบวง กรม หรือหน่วยงานอื่นใดของรัฐหรือของท้องถิ่น
(4) คำพิพากษา คำสั่ง คำวินิจฉัย และรายงานของทางราชการ
(5) คำแปลและการรวบรวมสิ่งต่าง ๆ ตาม (1) ถึง (4) ที่กระทรวง ทบวง กรม หรือหน่วยงานอื่นใดของรัฐหรือของท้องถิ่น จัดทำขึ้น"