พระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา ฉบับพระจักรพรรดิพงศ์ (จาด)/ตอน 9
สมเด็จพระราเมศวรเจ้าผู้เป็นพระราชกุมารขึ้นเสวยราชสมบัติ ทรงพระนามชื่อ สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ ยกวังทำเป็นวัดพระศรีสรรเพ็ชญ์ เสด็จมาอยู่ริมน้ำ จึงให้สร้างพระที่นั่งเบญจรัตน์มหาปราสาทองค์หนึ่ง สร้างพระที่นั่งสรรเพชญปราสาทองค์หนึ่ง[1] แล้วพระราชทานชื่อขุนนางตำแหน่งนา ให้เอาทหารเป็นสมุหพระกลาโหม เอาพลเรือนเป็นสมุหนายก เอาขุนเมืองเป็นพระนครบาลเมือง เอาขุนวังเป็นพระธรรมาธิกร เอาขุนนาเป็นพระเกษตรา เอาขุนคลังเป็นโกษาธิบดี ให้ถือศักดินาหมื่น แลที่ถวายพระเพลิงสมเด็จพระรามาธิบดีที่พระองค์สร้างกรุงนั้น ให้สถาปนาพระมหาธาตุแลพระวิหารเป็นพระอาราม ให้นามชื่อ วัดพระราม
ศักราช ๘๐๒[2] ปีวอก โทศก ครั้งนั้น ออกทรพิษตายมากนัก
ศักราช ๘๐๓[3] ปีรกา ตรีนิศก แต่งทัพไปเอาเมืองมะละกา
ศักราช ๘๐๔[4] ปีจอ จัตวาศก แต่งทัพไปเอาเมืองศรีสพเถิน ครั้งนั้น เสด็จหนุนทัพขึ้นไปตั้งทัพหลวงตำบลบ้านโคน
ศักราช ๘๐๕[5] ปีกุญ เบญจศก เข้าเปลือกแพงเป็นทะนานละ ๘๐๐ เบี้ย เบี้ยเฟื้องละ ๘๐๐ เบี้ย[6] เกวียนหนึ่งเป็นเงินสามชั่งกับสิบบาท
ศักราช ๘๐๖[7] ปีชวด ฉศก ให้บำรุงพระพุทธศาสนาบริบูรณ์ แลหล่อพระรูปพระโพธิสัตว์ ๕๕๐ พระชาติ
ศักราช ๘๐๘[8] ปีขาล อัฐศก เล่นการมหรสพฉลองพระ แลพระราชทานสมณชีพราหมณ์แลวรรณิพกทั้งปวง ครั้งนั้น พญาเชลียงคิดกบฏ พาครัวทั้งปวงไปแต่มหาราช
ศักราช ๘๐๙[9] ปีเถาะ นพศก พญาเชลียงนำมหาราชมาเอาเมืองพิษณุโลก เข้าปล้นเมืองเป็นสามารถมิได้ จึงยกทัพเปรไปเอาเมืองกำแพงเพชร เข้าปล้นเมืองถึง ๗ วันมิได้ สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถเจ้าแลสมเด็จพระอินทราชาเสด็จขึ้นไปช่วยเมืองกำแพงเพชรทัน แลสมเด็จพระอินทราชาเจ้าตีทัพพญาเกียรติแตก ทัพท่านมาปะทัพหมื่นนคร ได้ชนช้างด้วยหมื่นนคร แลข้าศึกลาวทั้งสี่ช้างเข้ารุมเอาช้างพระที่นั่งช้างเดียว ครั้งนั้น พระอินทราชาเจ้าต้องปืน ณ พระพักตร ทัพมหาราชนั้นเลิกกลับคืนไป
ศักราช ๘๑๐[10] ปีมะโรง สัมเรทธิศก สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถเจ้าสร้างวิหารวัดจุลามณี
ศักราช ๘๑๑[11] ปีมะเส็ง เอกศก สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถเจ้าทรงพระผนวชวัดจุลามณีได้แปดเดือนแล้วลาพระผนวช
ศักราช ๘๑๓[12] ปีมะแม ตรีนิศก ครั้งนั้น มหาท้าวบุญ[13] ชิงเมืองเชียงใหม่แก่ท้าวลูก
ศักราช ๘๑๕[14] ปีระกา เบญจศก สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ช้างเผือก
ศักราช ๘๑๖[15] ปีจอ ฉศก สมภพพระราชโอรสท่าน
ศักราช ๘๑๘[16] ปีชวด อัฐศก เสด็จไปเมืองเชลียง
ศักราช ๘๒๑[17] ปีเถาะ เอกศก แรกตั้งเมืองนครไทย
ศักราช ๘๒๒[18] ปีมะโรง โทศก พระสีห์ราชเดโชถึงแก่กรรม
ศักราช ๘๒๔[19] ปีมะเมีย จัตวาศก พญาลานช้างถึงแก่กรรม พระราชทานให้อภิเษกพญาซ้ายขวา[20] เป็นพญาลานช้าง
ศักราช ๘๒๖[21] ปีวอก ฉศก ทรงพระกรุณาให้เล่นการมหรสพฉลองพระศรีรัตนมหาธาตุ ๑๕ วัน
ศักราช ๘๒๘[22] ปีจอ อัฐศก พระบรมราชาผู้เป็นพระราชโอรสทรงพระผนวช
ศักราช ๘๒๙[23] ปีกุญ นพศก สมเด็จพระโอรสเจ้าลาผนวช ประดิษฐานพระองค์ไว้ในที่พระมหาอุปราช
ศักราช ๘๓๐[24] ปีชวด สัมเรทธิศก สมเด็จพระบรมราชาธิราชเจ้าไปวังช้างตำบลสำฤทธิบริบูรณ์
ศักราช ๘๓๑[25] ปีฉลู เอกศก มหาราชท้าวลูกพิราลัย
ศักราช ๘๓๒[26] ปีขาล โทศก สมเด็จพระบรมราชาธิราชเจ้าเสด็จยกทัพไปตีเมืองทวาย แลเมืองทวายเสียนั้น[27] เกิดอุบาทว์เป็นหลายประการ โคตกลูกตัวหนึ่งแปดเท้า ไก่ฟักฟองตกลูกตัวหนึ่งเป็นสี่เท้า ไก่ฟักฟองคู่ขอนตกลูกเป็นหกตัว อนึ่ง ข้าวสารงอกเป็นใบในปีนั้น สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถเสด็จสวรรคต อยู่ในราชสมบัติ ๓๘ ปี
ศักราช ๘๓๔[28] ปีมะโรง จัตวาศก แรกให้ก่อกำแพงเมืองพิชัย
- ↑ ฉบับพันจันทนุมาศไม่มีข้อความที่ว่า "สร้างพระที่นั่งสรรเพชญปราสาททององค์หนึ่ง"
- ↑ ฉบับหลวงประเสริฐว่า ศักราช ๘๑๖ จอศก
- ↑ " " ศักราช ๘๑๗ กุรศก
- ↑ " " ศักราช ๘๑๘ ชวดศก
- ↑ " " ศักราช ๘๑๙ ฉลูศก
- ↑ ฉบับพันจันทนุมาศว่า เบี้ย ๘๐๐ ต่อเฟื้อง เกวียนหนึ่งเป็น ๓ ชั่งกับ ๑๐ บาท
- ↑ ฉบับหลวงประเสริฐว่า ศักราช ๘๒๐ ขาลศก
- ↑ " " ศักราช ๘๒๒ มะโรงศก
- ↑ " " ศักราช ๘๒๕ มะแมศก
- ↑ " " ศักราช ๘๒๖ วอกศก
- ↑ ฉบับหลวงประเสริฐว่า ศักราช ๘๒๙ ระกาศก
- ↑ " " ศักราช ๘๓๐ ชวดศก
- ↑ ฉบับพันจันทนุมาศไม่มีคำว่า ครั้งนั้น
- ↑ ฉบับหลวงประเสริฐว่า ศักราช ๘๓๓ เถาะศก
- ↑ " " ศักราช ๘๓๔ มะโรงศก
- ↑ " " ศักราช ๘๓๖ มะเมียศก
- ↑ " " ศักราช ๘๓๙ ระกาศก
- ↑ " " ศักราช ๘๔๑ กุรศก
- ↑ " " ศักราช ๘๔๒ ชวดศก
- ↑ ฉบับพระราชหัตถเลขาว่า พระราชทานให้อภิเษกพระยาเมืองขวาเป็นพระยาล้านช้าง
- ↑ ฉบับหลวงประเสริฐว่า ศักราช ๘๔๔ ขาลศก
- ↑ " " ศักราช ๘๔๖ มะโรงศก
- ↑ " " ศักราช ๘๔๗ มะเส็งศก
- ↑ " " ศักราช ๘๔๘ มะเมียศก
- ↑ " " ศักราช ๘๔๙ มะแมศก
- ↑ " " ศักราช ๘๕๐ วอกศก
- ↑ ฉบับพันจันทนุมาศว่า "แลเมอเมืองทวายจะเสียนั้น"
- ↑ ฉบับหลวงประเสริฐว่า ศักราช ๘๕๒ จอศก