แผ่นดินสมเด็จพระไชยราชาธิราช
จุลศักราช ๘๗๖–๘๘๙
แรกให้พูนดินวัดชีเชียง
น่า
๑๕
เสด็จไปเชียงกราน
"
๑๕
เสด็จไปตีเมืองเชียงใหม่ ครั้งที่ ๑
"
๑๕
ไฟไหม้ใหญ่ในพระนคร
"
๑๕
เสด็จไปตีเมืองเชียงใหม่ ครั้งที่ ๒
"
๑๖
สมเด็จพระไชยราชาธิราชสวรรคต
"
๑๖

แผ่นดินสมเด็จพระไชยราชาธิราช

 ศักราช ๘๗๖ ปีจอ ฉศก พระไชยราชาธิราชเจ้าซึ่งเปนราชวงษ์สมเด็จพระรามาธิบดีคิดประทุษฐร้ายจับพระรัฏฐาธิราชกุมารสำเร็จโทษเสีย สมเด็จพระไชยราชาธิราชเจ้าได้เสวยราชสมบัติ.

 ศักราช ๘๘๐ ปีขาล สำเรทธิศก แรกให้พูนดินวัดชีเชียง ถึงเดือน ๑๑ เสด็จไปเชียงกราน ถึงเดือน ๔ ขึ้น ๙ ค่ำ เพลาประมาณยามหนึ่ง เกิดลมพยุพัดหนัก ฅอเรืออ้อมแก้วแสนเมืองมานั้นหัก เรือไกรแก้วนั้นแตก.

 อนึ่ง เมื่อเสด็จมาถึงเมืองกำแพงเพ็ชรนั้น พระยานารายน์เปนกระบถ ให้กุมเอาพระยานารายน์ฆ่าเสียในเมืองกำแพงเพ็ชร.

 ศักราช ๘๘๗ ปีรกา สัปตศก ณวัน ค่ำ สมเด็จพระไชยราชาธิราชเจ้าเสด็จไปเมืองเชียงใหม่ ให้พระยาพิศณุโลกเปนแม่ทัพ ยกพลออกตั้งทัพไชยตำบลบางบาล ณวัน ๑๔ ฯ  ค่ำ จึงยกทัพหลวงจากที่ทัพไชยไปถึงเมืองกำแพงเพ็ชร ณวัน ๑๔ ค่ำ ยกทัพไปตั้งเมืองเชียงทอง แล้วยกไปถึงเมืองเชียงใหม่ เข้าตีไม่ได้เมือง ครั้นณวัน ค่ำ เสด็จยกพยุบาตราทัพหลวงกลับคืนยังพระนครศรีอยุทธยา อยู่ณวัน ค่ำ เกิดเพลิงไหม้ในพระนครแต่ท่ากลาโหมไปถึงพระราชวังท้ายท่อตลาดยอด ลมหอบเอาลูกเพลิงไปตกลงตะแลงแกงไหม้ลามลงไปป่าตองโรงครามฉะไกรสามวันจึงดับ มีบาญชีเรือนศาลากุฎีพระวิหารไหม้แสนห้าสิบหลัง.

 ศักราช ๘๘๘ ปีจอ อัฐศก ณวัน ๑๑ ฯ  ค่ำ สมเด็จพระไชยราชาธิราชเจ้าเสด็จยกพยุหบาตราทัพไปเมืองเชียงใหม่ ดำรัศให้พระยาพิศณุโลกถือพล ๒ หมื่นเปนกองน่า เสด็จยกพยุหแสนยากรร้อนแรมไปโดยระยะทาง ๑๒ เวนถึงเมืองกำแพงเพ็ชร เสด็จประทับแรมอยู่ ๑๕ เวน ครั้นณวัน ค่ำ เสด็จตั้งทัพไชย ถึงณวัน ค่ำ จึงยกทัพหลวงจากที่นั้น ครั้นณวัน ค่ำ ตีได้เมืองลำพูนไชย ถึงณวัน ค่ำ ตีได้เมืองเชียงใหม่ ณวัน ๑๓ ฯ  ค่ำ บังเกิดอุบาทว์นิมิตร เห็นโลหิตตกอยู่ณประตูบ้านแลเรือนชนทั้งปวงในเมืองนอกเมืองทุกตำบล ครั้นณวัน ๑๔ ค่ำ เสด็จยกพยุหบาตราทัพหลวงจากเมืองเชียงใหม่จะมายังพระนครศรีอยุทธยา.

 ศักราช ๘๘๙ ปีกุญ นพศก ทรงพระประชวรปัจจุบัน เสด็จสวรรคตณมัชฌิมวิถีประเทศ มุขมนตรีเชิญพระบรมศพเข้าพระนครศรีอยุทธยา สมเด็จพระไชยราชาธิราชเจ้าเสด็จอยู่ในศิริราชมไหสวรรย์ ๑๕ พระพรรษา มีพระราชโอรสสองพระองค์ พระราชโอรสผู้พี่ทรงพระนาม พระแก้วฟ้า พระชนม์ได้ ๑๑ พระพรรษา พระราชโอรสผู้น้องทรงพระนาม พระศรีศิลป์ พระชนม์ได้ ๕ พระพรรษา ครั้นถวายพระเพลิงพระไชยราชาเสร็จแล้ว ฝ่ายพระเทียรราชาซึ่งเปนเชื้อพระวงษ์สมเด็จพระไชยราชานั้นจึงดำริห์ว่า จะอยู่ในฆราวาศ บัดนี้ เห็นไภยจะบังเกิดมีเปนมั่นคง ไม่เห็นสิ่งใดที่จะเปนที่พึ่งได้ เห็นแต่พระพุทธสาสนาแลผ้ากาสาวพัตรอันเปนธงไชยแห่งพระอรหัตจะเปนที่พำนักพ้นภยุปัทวันตราย ครั้นดำริห์แล้วก็ออกไปอุปสมบทเปนภิกษุภาวอยู่ณวัดราชประดิษฐาน.