แผ่นดินสมเด็จพระอาทิตยวงษ์ ๖ เดือน
ขุนนางถวายราชสมบัติแก่เจ้าพระยากลาโหมสุริวงษ์
น่า
๒๖๕

แผ่นดินสมเด็จพระอาทิตยวงษ์

 ฝ่ายเสนาพฤฒามาตย์ปโรหิตทั้งหลายจึงเอาเครื่องเบญจราชกกุธภัณฑ์ไปถวาย เจ้าพระยากลาโหมสุริวงษ์มิได้รับ ว่า เราทำราชการครั้งนี้ จะชิงเอาสมบัติหามิได้ เพราะไภยมาถึงตัวแล้ว ก็จำเปน พระอาทิตยวงษ์ซึ่งเปนพระราชบุตรพระมหากษัตริย์นั้นยังมีอยู่ ควรจะยกพระอาทิตยวงษ์ขึ้นผ่านสมบัติโดยราชประเพณี จึงจะชอบ ปฤกษาเสนาบดีทั้งปวงพร้อมแล้ว ก็ราชาภิเศกพระอาทิตยวงษ์ขึ้นผ่านพิภพกรุงพระนครศรีอยุทธยา พระอาทิตยวงษ์ได้ผ่านสมบัติครั้งนั้น พระชนม์ได้ ๙ พรรษา ยังทรงพระเยาวราชอยู่นัก มิได้รู้ที่จะว่าราชการกิจสิ่งใด มีแต่เที่ยวประพาศจับแพะจับแกะเล่น เจ้าพนักงานต้องนำเครื่องทรงแลเครื่องเสวยตามไปถวายทุกแห่ง แต่ทำดังนี้เปนนิจนิรันดรได้ประมาณ ๖ เดือน มุขมนตรีทั้งปวงปฤกษากันว่า พระมหากษัตริย์เปนดังนี้ การแผ่นดินจะเสียไป จำจะยกพระอาทิตยวงษ์ลงเสียจากเสวตรฉัตร ควรจะเอาราชสมบัติถวายเจ้าพระยากลาโหมสุริวงษ์ ปฤกษากันแล้ว ก็นำเอาเครื่องเบญจราชกกุธภัณฑ์มาถวายเจ้าพระยากลาโหมสุริวงษ์ ทูลประพฤดิเหตุซึ่งพระอาทิตยวงษ์จะครองแผ่นดินไปมิได้ ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลายขอถวายราชสมบัติแก่พระองค์ จงทรงพระกรุณารับทำนุบำรุงสมณชีพราหมณ์อาณาประชาราษฎรไพร่ฟ้าข้าแผ่นดิน จะได้อยู่เย็นเปนศุขเพราะพระเดชเดชานุภาพของพระองค์นั้นเถิด. ๚