ผลต่างระหว่างรุ่นของ "จดหมายเหตุโหร"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
Bitterschoko (คุย | ส่วนร่วม)
เปลี่ยนทางหน้าไปยัง ประชุมพงศาวดาร/ภาคที่ 8
ป้ายระบุ: เปลี่ยนทางใหม่
บรรทัดที่ 1:
#REDIRECT [[ประชุมพงศาวดาร/ภาคที่ 8]]
'''[[หมวดหมู่:จดหมายเหตุโหร'''ไทย]]
 
[[หมวดหมู่:งานที่ปีสร้างสรรค์ไม่แน่ชัด]]
ปีมะเส็ง จ.ศ. ๒๘๓ ณ วัน ๔ ๖ ค่ำ เวลารุ่งแจ้ง เกิดพระเจ้าพรหม ราชกษัตริย์ที่ ๔๑ เชียงแสน ซึ่งปราบขอมพ่ายแพ้ ลงมาถึงแดนชะเลียง ปีเถาะ จ.ศ. ๔๓๕ ณวัน ๓๕ ค่ำ ยามใกล้รุ่ง เกิดขุน เจื๋องบรมราชา ธิราช ชนมายุ ๓๖ ปี ได้ราชสมบัติเชียงแสน ครอง ราชสมบัติ ๒๔ ปีชนะล้านช้าง ครองล้านช้าง ๓ ปี ชนะญวนแกว ครองแผ่นดินแกว ๑๔ ปี ปีขาล จ.ศ. ๔๙๖ ณวัน ๓ ๖ ค่ำ ขุนเจื๋องรับอ๋องจีนแผ่นดินซอง ชนมายุ ๗๗ ปี จึงทิวงคตในท่ามกลางสงคราม ปีรกา จ.ศ. ๕๗๕ เมืองเสียงแตก พม่าอังวะชนะ ปีมแม จ.ศ. ๕๘๕ ฝรั่งมาเผาเมืองมัตมะ ครั้งนั้นศึกฝรั่ง ( รับสั่งว่า ฝรั่งยุโรปยังไม่มา ) ปีจอ จ.ศ. ๖๐๐ ณวัน ๑ ๓ ค่ำ เวลายามรุ่ง เกิดพระยามังรายผู้ สร้างเชียงใหม่ ชนะหริภุญไชย ได้ราชสมบัติใน เมืองเงินยวง
 
๒ ปีจอ จ.ศ. ๖๐๐ ณ วัน ๕๖ ค่ำ เวลาใกล้รุ่ง เกิดพระยางำเมือง กษัตริย์พเยา เปนศิษย์เทพฤาษีดอยด้วน แลพระ ศุกรทันต์ฤาษีกรุงละโว้ครูพระร่วง ศักราช ๖๒๐ ได้ผ่านสมบัติ ปีขาล จ.ศ. ๖๗๖ ณวัน ๒๕ ค่ำ เวลารุ่ง เกิดพระเจ้าอู่ทองรามาธิบดี ปีเถาะยังเปนโทศก ณวัน ๖๕ ค่ำ เวลา ๓ นาฬิกา ๙ บาท สร้าง จ.ศ. ๗๑๒ กรุงศรีอยุทธยา ปีกุญ จ.ศ. ๗๒๑ ณวัน ๖๔ ค่ำ ท้าวอู่ทองสร้างกรุงศรีอยุทธยา ธิกูลครั้งที่ ๒ เมืองพะโคเสีย ปีมเสง จ.ศ. ๗๕๕ เสียเมืองรงมละ ปีฉลู จ.ศ. ๗๗๑ เสียเมืองสะถ้อย ปีเถาะ จ.ศ. ๗๗๓ เสียเมืองตละเช เสียเมืองทละ เสียเมืองย่างกุ้ง ปีเถาะ จ.ศ. ๗๗๓ มาจนถึง จ.ศ. ๗๗๔ ใช้ไปเมืองหนาถูกต้องดีแล ปีมโรง จ.ศ. ๗๗๔ พญาน้อยคิดขบถในเมืองย่างกุ้ง ปีมแม จ.ศ. ๗๗๗ ศึกพญาตองอู ฝรั่งมังพลูเปนวันเสาร์ยกลงมา อายุได้ ๒๖ ปี ปีวอกศักราช ๗๗๘ ตายในเมือง พะโค ปีวอก จ.ศ. ๗๗๘ พระอาทิตย์อยู่ราษีมินองษา ๗ จึงได้ชนะมังพลู ตัวมังพลูมหากษัตริย์ทำลายเสีย
 
๓ ปีเถาะ จ.ศ. ๘๖๙ เกิดพระไชยเชษฐาธิราชเจ้าล้านช้าง ณวัน ๑ ๑ ค่ำ เวลายามแตรเที่ยง อายุ ๑๕ ปี ได้เปนกษัตริย์ พระชนม์ ๓๙ ปี ทิวงคต ปีกุญ จ.ศ. ๘๘๙ ครั้งนั้นพญาองค์หนึ่งได้ครองเมืองใน ๒๑ พญา องค์หนึ่งนิพพาน เอา ๒๑ นั้นบวกลงใน ๙๔๖ ได้ ๙๖๗ พญาที่ได้ครองเมืองโหมนั้นนิพพานแล ปีมแม จ.ศ. ๙๐๙ ณวัน ๗๕ ค่ำ เศษ ๘ ( พระยอดฟ้า ) เสด็จออก พลับพลาทอดพระเนตรชนช้าง พญาช้างงาหัก ครั้นอยู่มาช้างร้องเปนอัศจรรย์ ปีวอก จ.ศ. ๙๑๐ ณวัน ๑๘ ค่ำ เศษ ๐ ข้าราชการคิดขบถ จับ ( พระยอดฟ้า ) พระเจ้าแผ่นดินสำเร็จโทษ ชิงเอาราชสมบัติ ปีรกา จ.ศ. ๙๑๑ มีสุริยุปราคาเวลาไถอ่อน เปนสัพคราธกลมมณฑล พระอาทิตย์มืด ปีมโรง จ.ศ. ๙๑๘ ณวัน ๗๙ ค่ำ เศษ ๘ เสียพระนครศรีอยุทธยา แก่เจ้าหงษาวดี ณวัน ๖๑๒ ค่ำ พระมหาธรรมราชาได้ราชสมบัติ ( หมายเหตุอิกฉบับหนึ่งว่า ปีมเสง จ.ศ. ๙๓๑ ณวัน ๑๙ ค่ำ เสียกรุงศรีอยุทธยาแก่เจ้าหงษา ฯ
 
๔ สมเด็จพระมหาธรรมราชาปราบดาภิเษกณวัน ๖๑๒ ค่ำ) ปีรกา จ.ศ. ๙๒๓ ณวัน ๕๘ ค่ำ พระศรีศิลป์ตายในพระราชวัง จับพระสังฆราชไปฆ่าเสีย ณวัน ๗ ๙ ค่ำ พญาสีหราชเดโชรับพระราช อาญาขัง ปีกุญ จ.ศ. ๙๒๕ เวลาค่ำแล้ว ๓ นาที่ พระ ๘ จับพระ ๒ กันภาค ๑ ยัง ๓ ภาค จันทรรัศมี ๖๒๙ แล ชนทั้งปวงเกิด ทรพิศม์ตายมาก แลครั้งนั้นทำพระราชไมตรีกับ พระเจ้าหงษา ปีกุญ จ.ศ. ๙๖๑ เมืองหงษาแตก มีลูก ๓ คน ปีชวด จ.ศ. ๙๖๒ เมืองทวายเสียแก่ไทย ปีขาล จ.ศ. ๙๗๖ พญาลูก ๓ คนนั้นจึงไปล้อมเมืองเชียงใหม่ ปีวอก จ.ศ. ๙๖๒ เศษ ๘ ยี่ปุ่นเข้าเมือง ( หมายเหตุหนึ่งว่า ๙๗๒ ) ปีรกา จ.ศ. ๙๘๓ เศษ ๓ ออกฝีตายมาก ปีจอ จ.ศ. ๙๘๔ เศษ ๘ ช้างเผือกล้ม คนออกฝีตายมาก ปีวอก จ.ศ. ๙๙๔ สมเด็จพระนารายน์มหาราช สมภพพระชัณษา วัน ฯ ค่ำ ปีวอก จ.ศ. ๙๙๔ พระชนม์ได้ ๒๕ ปี ได้ราชสมบัติอยู่ ๒๖ ปี รวม ๕๑ พรรษา สวรรคต วัน ๕๕ ค่ำ ปีจอ จ.ศ. ๑๐๔๔ ( รับสั่งว่าผิด )
 
๕ ปีรกา จ.ศ.๙๙๕ เหตุดังนั้นแลมัตมะก็เสีย ชาวนครคิดขบถแล ปีขาล จ.ศ.๑๐๑๒ พญาเมืองสะเถินเมืองมอญเสียเคราะห์เสียโศกชำระ สลางภาย ปีวอก จ.ศ.๑๐๑๘ เศษ ๐ วุ่นวายพระองค์ไชย พระ ( ศรีสุ ) ธรรมราชา ปีมโรง จ.ศ.๑๐๕๐ เศษ ๘ วุ่นวายวิไชเยนทร์เมืองลพบุรี ปีมเมีย จ.ศ.๑๐๕๒ พระเพทราชาเปนเจ้ามาจนทุกวันนี้ ปีนี้ต้องยกกองทัพ กรุงไปปราบเมืองตานี ปีมแม จ.ศ.๑๐๕๓ ต้องยกกองทัพกรุงหนุนไปปราบเมืองตานี ปีมโรง จ.ศ.๑๐๗๔ เมื่อครั้งขุนหลวงเล่นปลา ปีนี้เดือน ๑๒ ต้องยกกอง ทัพกรุงไปปราบเมืองมฤท ปีมแม จ.ศ.๑๐๘๙ ณวัน ๕๓ ค่ำ เวลา ๗ ทุ่ม กลาบาตตกเสียง ดังปืน พระยาราชสงครามชักพระไสยาศน์วัด ป่าโมก ปีชวด จ.ศ.๑๐๙๔ ขุนหลวงท้ายสระสวรรคตในเดือน ๒ ข้างแรม อยู่ ในราชสมบัติ ๒๗ ปี (รับสั่งว่าปีรัชกาลผิด) พระ ชนมายุ ๕๑ ปี ในปีนี้เพิ่มอธิกวารอีก ๒ ปีเคียงกัน ปีขาล จ.ศ.๑๐๙๖ ณวัน ๔๑๐ ค่ำ จีนเปนขบถเข้าปล้นพระราชวัง ปีเถาะ จ.ศ.๑๐๙๗ มีดาวกลางวัน ตั้งต้นปักขคณนาณวัน ๗๓ ค่ำ ปีมโรง จ.ศ.๑๐๙๘ นางช้างเผือกขอมเข้ามาถึงกรุง ฯ ปีมเสง จ.ศ.๑๐๙๙ พระพันวษานิพพาน
 
๖ ปีรกา จ.ศ.๑๑๐๓ ทำวัดมงคลบพิตร มีดาวหางปีนี้ ปีจอ จ.ศ.๑๑๐๔ ช้างเผือกล้ม ได้ช้างเนียมตัวหนึ่ง ปีชวด จ.ศ.๑๑๐๖ ณวัน ๖๑๒ ค่ำ ไฟไหม้วังน่า ใช้แปะประกับ มิใช้เบี้ย ปีฉลู จ.ศ.๑๑๐๗ บุรณะวัดภูเขาทอง ปีเถาะ จ.ศ.๑๑๐๙ ณวัน ๓๕ ค่ำ มหาทองวัดบันไดอิฐเสีย ไฟไหม้ วัดยมไท ณวัน ๕๗ ค่ำ พบทองแขวงเมืองบางตะพาน ปีมเสง จ.ศ.๑๑๑๑ ออกหัดทรพิศม์คนตายชุม มอญบ้านโพธิสามต้นหนี ปีมแม จ.ศ.๑๑๑๓ ลังกามาขอพระสงฆ์ไปสั่งสอน ปีนี้มีดาวหาง ปีจอ จ.ศ.๑๑๑๖ จับพระวังน่ากับเจ้าฟ้าสังวาล ปีขาล จ.ศ.๑๑๒๐ ณวัน ๔๖ ค่ำ พระเจ้าอยู่หัวบรมโกษฐสวรรคต อยู่ในราชสมบัติ ๒๖ ปี พระชนมายุ ๗๗ ปี ณวัน ๕ ค่ำ มีจันทรุปราคา ปีนี้เข้าแพง เกวียนละ ๑๒ ตำลึง ปีเถาะ จ.ศ.๑๑๒๑ เนรเทศเจ้ากรมหมื่นเทพพิพิธออกจากกรุง ฯ เดือน ๔ พม่ามังลองเข้าล้อมกรุง ฯ ปีมโรง จ.ศ.๑๑๒๒ พม่ายกหนีไป จับนายปิ่นราชมนตรี ณวัน ๗๑๒ ค่ำ มีจันทรุปราคา
 
๗ ปีมเมีย จ.ศ.๑๑๒๔ ณวัน ๑๑๒ ค่ำ มีสุริยุปราคา ณวัน ๒๑๒ ค่ำ มีจันทรุปราคา ปีรกา จ.ศ.๑๑๒๗ พม่ายกเข้ามาตั้งดงรังหนองขาว ปีจอ จ.ศ.๑๑๒๘ ณวัน ๒๘ ค่ำ เสียค่ายปากจั่น พม่าเข้าล้อม กรุง ฯ ปีกุญ จ.ศ.๑๑๒๙ ณวัน ๒๕ ค่ำ กลาบาตตก ณวัน ๓๕ ค่ำ เสียกรุงแก่พม่า ณวัน ๕๕ ค่ำ พม่าฆ่าคน ปีนี้ มีอธิกวารโหรมิได้จดหมาย ปีชวด จ.ศ.๑๑๓๐ เมืองพิศณุโลก เมืองพิจิตร แตกมาสู่โพธิสมภาร ได้เมืองนครราชเสมา ณวัน ๓๑ ค่ำ เวลาเช้า โมง ๑ แผ่นดินไหว ปีนี้เจ้าตากได้ราชสมบัติ อายุ ๓๔ ปี ปีฉลู จ.ศ.๑๑๓๑ พระสงฆ์ลุยไฟ ได้เมืองนครศรีธรรมราช ปีขาล จ.ศ.๑๑๓๒ ได้เมืองฉลางบุรี พม่ายกจากฉลางบุรีแตกกลับไป ปีมเสง จ.ศ.๑๑๓๕ ณวัน ๕๑๑ ค่ำ มีจันทรุปราคา ณวัน ๒๑ ค่ำ พม่ายกมาตั้งตีเมืองพิไชย ณวัน ๓๒ ค่ำ พม่าหนี ปีมเมีย จ.ศ.๑๑๓๖ ณวัน ๓๑๐ ค่ำ มีสุริยุปราคา ณวัน ๒๑๒ ค่ำ เวลา ๑๑ ทุ่ม ดาวพระเสาร์เข้าวงพระจันทร์ ดาว อื่นขึ้นริมแง่เหนือ ณวัน ๓๑๒ ค่ำ ไปตีได้เมือง เชียงใหม่ ณวัน ๕๒ ค่ำ ดาวโรหิณีเข้าแง่
 
๘ พระจันทร์ข้างใต้ ณวัน ๗๒ ค่ำ เวลา ๑๐ ทุ่ม ได้เมืองเชียงใหม่ ลาวโปสุพลาหนี ณวัน ๕๓ ค่ำ มีจันทรุปราคา ปีมแม จ.ศ.๑๑๓๗ ณวัน ๑๕ ค่ำ เวลา ๒ ทุ่ม พม่ายกหนีจากเขา นางแก้วไปปากแพรก ณวัน ๑๕ ค่ำ พม่าแตกจาก ปากแพรก ณวัน ๒๑๐ ค่ำ ข้างในเปนโทษลง พระอาญาตระลาการประหารชีวิตร นายประตูคนหนึ่ง ณวัน ๓๑๑ ค่ำ เฆี่ยนบาดหลวง ๓ คน ๆ ละ ๑๐๐ ปีวอก จ.ศ.๑๑๓๘ ณวัน ๕๖ ค่ำ เสียเมืองพิศณุโลกเวลา ๒ ยาม เศษ ณวัน ๒๑๐ ค่ำ บ่าย ๔ โมงนางพระยาล้ม ณวัน ๒๓ ค่ำ เกิดพยุใหญ่ฝนตกห่าใหญ่ลูกเห็บ ตกถูกโรงปืนฉนวนประจำท่าทลาย เรือนทลาย ประมาณ ๑๐๐ หลัง ปีจอ จ.ศ.๑๑๔๐ ณวัน ๗๕ ค่ำ บอกว่าพม่ายกมาตีเมืองฝาง ลง พระอาญาตำรวจ ๔๐๐ คน ปีกุญ จ.ศ.๑๑๔๑ เดือน ๔ พระแก้วมรกฎถึงกรุง ฯ ปีชวด จ.ศ.๑๑๔๒ ณวัน ๓๕ ค่ำ สึกพระราชาคณะอธิการ ณวัน ๕๕ ค่ำ บ่าย ๕ โมงเศษเปนปทุมชาติทิศบูรพา ณวัน ๖๗ ค่ำ ริบเครื่องยศเจ้าวังนอก ณวัน ๒๙ ค่ำ ราชาคณะแย้งกัน ข้างหนึ่งว่าไหว้
 
๙ คฤหัสถ์ไม่ได้ เปนโทษต้องตี ๕๐๐ องค์ ณวัน ๓๔ ค่ำ เสด็จออกขุนนางท้องพระโรง เหยียวฉาบนกขึ้นน่าพระที่นั่ง ปีฉลู จ.ศ.๑๑๔๓ เดือน ๒ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้ายกทัพไป เขมร ณวัน ๗๔ ค่ำ แลแรม ๑๑ ค่ำ พระยา สรรค์ยกเข้าล้อมกรุง ฯ ณวัน ๑๔ ค่ำ ขุนหลวง บวชวัดแจ้ง ปีขาล จ.ศ.๑๑๔๔ ณวัน ๓๕ ค่ำ พระจันทร์เข้าฤกษ์กิติกา ณวัน ๖๕ ค่ำ พระพุทธยอดฟ้าได้ราชสมบัติปราบดา ภิเศก ชนมายุ ๔๕ ปีกับ ๑ เดือน กับ ๔ วัน ณวัน ๔๕ ค่ำ เจ้าตากดับขันธ์ ชนมายุ ๔๗ ปี กับ ๑๕ วัน ณวัน ๑๖ ค่ำ สร้างเมืองบางกอก เวลารุ่งแล้ว ๙ บาท ณวัน ๗๖ ค่ำ ไฟไหม้ ตึกดินเมืองนคร ฯ ณวัน ๗๑๐ ค่ำ มีจันทรุปราคา ณวัน ๓๔ ค่ำ มีจันทรุปราคา สมเด็จพระไอยกา เสวยราชย์ ปีเถาะ จ.ศ.๑๑๔๕ ณวัน ๖๕ ค่ำ อ้ายบันทิด ๒ คนเปนขบถเข้า วังน่าประมาณ ๑๐ ทุ่มเศษ ปีมโรง จ.ศ.๑๑๔๖ ณวัน ๖๓ ค่ำ เสด็จไปปิดปากลัด ณวัน ๒๓ ค่ำ เวลาย่ำรุ่ง ๔๒ นาที สมโภชช้างเผือกแลสร้าง
 
๑๐ วัดสระเกษ ณวัน ๖๔ ค่ำ เวลาเช้า ๒ โมง ๔ บาท ยกยอดฟ้าดุสิตมหาปราสาท ณวัน ๒๔ ค่ำ อัญเชิญพระแก้วมรกฎมาวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ปีมเสง จ.ศ.๑๑๔๗ น้ำมาก เข้าแพงเกวียนละชั่ง ณวัน ๒ ค่ำ เจ้าวังเก่านิพพาน ณวัน ๗๑๐ ค่ำ เวลาเช้า ๔ บาท ยกเสวตฉั ตรที่ประธมวังหลวง ณวัน ๗๒ ค่ำ มีจันทรุปราคา ณวัน ๑๒ ค่ำ มีสุริยุปราคา ณวัน ๓๓ ค่ำ ดาวกิติกาเข้าแง่พระจันทร์แง่ใต้ ณวัน ๗๔ ค่ำ เวลาทุ่ม ๑ พม่าปากพิงแตกฝ่าย เหนือ ๑๐,๐๐๐ วังหลังตีแตก ปีมเมีย จ.ศ.๑๑๔๘ ณวัน ๓๕ ค่ำ ดาวพระอังคารเข้าแง่พระจันทร์ ข้างซ้าย ณวัน ๕๑๒ ค่ำ ดาวพระศุกรเข้าแง่ พระจันทร์ข้างขวา ณวัน ๕๓ ค่ำ เวลาเช้า ๓ โมงกับ ๖ บาท ยกทัพหลวงไปไชโยคท่าขนุน ณวัน ๔๔ ค่ำ ทัพน่าตีพม่าสามสบ ณวัน ๖๔ ค่ำ พม่าสามสบแตก ๓๐,๐๐๐ ปีมแม จ.ศ.๑๑๔๙ ณวัน ๖๓ ค่ำ ยกทัพน่าไปตีค่ายบางบ่อ ณวัน ๑๓ ค่ำ เวลายาม ๑ ได้ค่ายบางบ่อ ณวัน ๔๓ ค่ำ ทัพน่าเข้าติดเมืองกลิอ่อง ณวัน ๗๔ ค่ำ เวลายาม ๑ ได้เมืองกลิอ่อง ๑๑ ปีวอก จ.ศ.๑๑๕๐ ณวัน ๔๗ ค่ำ มีสุริยุปราคา ดาวพระศุกรเข้า กลางกิติกาเข้าแง่พระจันทร์ข้างใต้ ปีรกา จ.ศ.๑๑๕๑ ณวัน ๑๗ ค่ำ เวลาบ่าย ๔ โมง ฟ้าผ่าช่อฟ้า มุขมหาปราสาทข้างอุดรทิศ ไฟติดช่อฟ้าไหม้สิ้น ทั้งปราสาท ปีชวด จ.ศ.๑๑๕๔ ขุนญาณโยคใส่อธิกวารผิด หมู่โหรปฎิทินติเตียน ปีฉลู จ.ศ.๑๑๕๕ ณวัน ๖๓ ค่ำ มีจันทรุปราคา จับ ๙ ทุ่ม ๑ บาท ปีเถาะ จ.ศ.๑๑๕๗ ณวัน ๔๓ ค่ำ ดาวขนาบเดือน ณวัน ๒๓ ค่ำ จับอ้ายอินบางอ้อขบถเมื่อการบรมสมโภชพระอัฐิ ปีมโรง จ.ศ.๑๑๕๘ ณวัน ๔๑ ค่ำ มีจันทรุปราคาจับสัพคราธ ดาว พระเสาร์เข้าแทรก ณวัน ๑๑ ค่ำ ดาวพระ อังคารชิงคลองพระพฤหัศบดี ปีมเมีย จ.ศ.๑๑๖๐ ณวัน ๑๘ ค่ำ เวลาบ่าย ๓ โมง ตำหนักแดง สิ้นพระชนม์ ณวัน ๑๑๒ ค่ำ ตำหนักใหญ่สิ้น พระชนม์เวลา ๑๑ ทุ่ม ๘ บาท ปีมแม จ.ศ.๑๑๖๑ ณวัน ๗๕ ค่ำ เวลาย่ำค่ำแล้วเกิดลมหนัก ณวัน ๓๘ ค่ำ เวลาค่อนรุ่งแผ่นดินไหว ณวัน ๕๑๒ ค่ำ เวลา ๒ ทุ่มเศษแผ่นดินไหวอิกครั้งหนึ่ง ปีรกา จ.ศ.๑๑๖๓ ณวัน ๕๘ ค่ำ มีสุริยุปราคา ณวัน ๓๙ ค่ำ
 
๑๒ มีจันทรุปราคา ณวัน ๗๒ ค่ำ นางพระยา ช้างเผือกมาถึงกรุงเทพมหานคร ปีจอ จ.ศ.๑๑๖๔ ณวัน ๑๒ ค่ำ เวลาบ่าย ๒ โมง ๗ บาท ขุน หลวงกลาง ปีกุญ จ.ศ.๑๑๖๕ ณวัน ๕๑๒ ค่ำ เวลา ๒ ยาม ๕ บาท กรม พระราชวังสวรรคต ณวัน ๒๓ ค่ำ สำเร็จโทษ พระเจ้าหลานอินทปัต ลำดวน ปีชวด จ.ศ.๑๑๖๖ ณวัน ๑ ค่ำ เวลาย่ำค่ำแล้ว ๔ บาท มี จันทรุปราคาสัพคราช ปีฉลู จ.ศ.๑๑๖๗ ณวัน ๕๘ ค่ำ เวลา ๒ ยาม ๖ บาท มีจันทรุป ราคา ณวัน ๗๒ ค่ำ เวลา ๑๑ ทุ่ม ๕ บาท มี จันทรุปราคา ปีขาล จ.ศ.๑๑๖๘ ณวัน ๔๑๒ ค่ำ มีสุริยุปราคา แย้งกันที่ว่าไม่มี ได้พระราชทาน ๒ คน ปีนี้น้ำแดงปลาสร้อยชุม ณวัน ๔๑ ค่ำ เวลาบ่าย ๒ โมงเศษ กรม พระราชวังหลังสวรรคต ณวัน ๑๔ ค่ำ ราชา ภิเศกกรมหลวงอิศรเปนพระราชวังบวร ฯ ชัณษา ๓๙ ปี สำเรทธิ์ณวัน ๕๔ ค่ำ ( อิกหมายเหตุหนึ่ง ว่าณวัน ๔๑ ค่ำ กรมพระราชวังสถานภิมุขมาตย์ สวรรคตเวลาบ่าย ๒ โมง )
 
๑๓ ปีเถาะ จ.ศ.๑๑๖๙ ณวัน ๗๖ ค่ำ เชิญพระศพกรมพระราชวังหลัง ณวัน ๒๖ ค่ำ ถวายพระเพลิง ณวัน ๕๖ ค่ำ มีจันทรุปราคา เวลา ๔ ทุ่ม ๘ บาท ณวัน ๗๗ ค่ำ เวลาเช้า ๕ โมง ๒ บาท ณวัน ๒๓ ค่ำ เจ้าฟ้า กรมหลวงจักรเจษฎาสิ้นพระชนม์ ปีมโรง จ.ศ.๑๑๗๐ ณวัน ๑๙ ค่ำ เจ้าฟ้ากรมหลวงศรีสุนทรเทพสิ้น พระชนม์ เวลาเช้า บาท เจ้าฟ้าเหม็นเปนโทษ ถึงตาย ปีมเสง จ.ศ.๑๑๗๑ ณวัน ๕๙ ค่ำ เวลา ๖ ทุ่ม พระบรมโกษฐพระ พุทธยอดฟ้าสวรรคต พระชนม์ ๗๒ ปี กับ ๖ เดือน ๔ วัน อยู่ในราชสมบัติ ๒๘ ปี ณวัน ๑๑๐ ค่ำ เวลาเช้า ๓ โมง ๓๖ นาที ราชาภิเศกพระพุทธ เลิศหล้า ณวัน ๓๙ ค่ำ เวลาบ่าย ๓ โมง พระ สงฆ์สามเณร ๒ องค์นำพระธาตุมาแต่ลังกาถวาย ณวัน ๒๑๑ ค่ำ เวลาบ่าย ๕ โมง ๘ บาท จับ อินทรเดชะขบถ ปีมเมีย จ.ศ.๑๑๗๒ ณวัน ๓๓ ค่ำ ดาวพระศุกรเข้าในวงพระจันทร์ ข้างทักษิณ ปีมแม จ.ศ.๑๑๗๓ ณวัน ๑๗ ค่ำ เวลาย่ำค่ำ เห็นดาวหางขึ้นทิศ พายัพ หางไปทิศอิสาณ ณวัน ๑๒ ค่ำ ดาว
 
๑๔ หางสูญหายไป เวลาทุ่ม ๑ กลาบาตตก ณวัน ๒๑๐ ค่ำ มีจันทรุปราคา ปีวอก จ.ศ.๑๑๗๔ ณวัน ๑๕ ค่ำ เวลาบ่าย ๕ โมง เกิดเปนควัน แลพยุ ณวัน ๑๖ ค่ำ บอกว่าองค์จันหนี บอก มาแต่เชียงใหม่ว่าพม่ายกมา ณวัน ๕๔ ค่ำ เวลาบ่ายโมงเศษ พระยาช้างเผือกผู้มาถึงกรุง ฯ มาแต่เมืองโพธิสัตว์ ณวัน ๖๔ ค่ำ พระยาช้าง เผือกผู้มาแต่กัมพูชา ปีรกา จ.ศ.๑๑๗๕ ณวัน ๒๒ ค่ำ เวลาแดดอุ่น เห็นดาวพระพฤหัศบดี เคียงพระจันทร์ข้างทิศทักษิณ ณวัน ๓๒ ค่ำ ไฟไหม้บ้านหลังวัดเชตุพนเปนอันมาก ปีจอ จ.ศ.๑๑๗๖ เดือน ๑๒ เดือน ๑ รามัญเมืองมัตมะยกครัวเข้ามา สู่พระโพธิสมภาประมาณ ๓๐,๐๐๐ ปีกุญ จ.ศ.๑๑๗๗ ณวัน ๓๗ ค่ำ แลแรม ค่ำ ตั้งพิธีสงฆ์ ๔ พราหมณ์ ๑ ณวัน ๖๗ ค่ำ เวลาเช้าฝังอาถรรภ์ เมืองใหม่ปากลัด ณวัน ๔๘ ค่ำ เวลา ๕ ทุ่ม ๒ บาท มีจันทรุปราคาสัพคราธ ณวัน ๗๑ ค่ำ เวลาบ่าย ๕ โมง ๖ บาท มีจันทรุปราคา ปีชวด จ.ศ.๑๑๗๘ ณวัน ๔๕ ค่ำ เวลาบ่าย ๕ โมง ไฟไหม้ตรอก วัดโคก พม่าแหกคุกหนีออกฆ่าคนตายบ้างเจ็บบ้าง
 
๑๕ เปนอันมาก ณวัน ๖๑๑ ค่ำ เวลาบ่ายโมง ๑ พระยาช้างเผือกผู้มาแต่เมืองเชียงใหม่ถึงกรุง ฯ ณวัน ๒๑๒ ค่ำ ไฟไหม้วัดทองปุ ณวัน ๔๒ ค่ำ จับเจ้ากรมศรีสุเรนทร์ แลพระองค์เจ้าสุริวงษ์ ณวัน ๔๒ ค่ำ ไฟไหม้ฉางเข้าน่าวัดมหาธาตุ ณวัน ๖๔ ค่ำ โสกันต์เจ้าฟ้าพระองค์ใหญ่ ปีฉลู จ.ศ.๑๑๗๙ ณวัน ๕๕ ค่ำ ช้างเผือกผู้มาแต่เมืองน่านถึงกรุง ฯ เวลาบ่าย ๕ โมง ณวัน ๖๗ ค่ำ เวลาบ่ายโมง ๑ มีสุริยุปราคา ณวัน ๑๗ ค่ำ สำเร็จโทษเจ้า ๒ ไพร่ ๗ ณวัน ๔ ค่ำ เวลาเช้า ๕ โมง ๗ บาท กรมพระราชวังสวรรคต ณวัน ๑๑๒ ค่ำ เวลา เช้า มีสุริยุปราคา ณวัน ๕๒ ค่ำ พระยา พลเทพตีนตก ณวัน ๓๒ ค่ำ ไฟไหม้สพานหัน ณวัน ๓๔ ค่ำ เช้า ๒ โมง พระยาช้างเนียม ลงน้ำหายไป ปีขาล จ.ศ.๑๑๘๐ ณวัน ๗๙ ค่ำ อาจารย์เทศ อาจารย์ดี อาจารย์ ห้อง เชิญพระศรีมหาโพธิ พระบรมธาตุ พระเขี้ยวแก้ว พระบาทจำลอง มาแต่ลังกา ณวัน ๑๑๑ ค่ำ ฟ้าผ่าเสาชิงช้า สำเพ็ง แล วัดเชตุพน วัดมหาธาตุ ปีนี้ควายตายมาก
 
๑๖ ปีเถาะ จ.ศ.๑๑๘๑ ณวัน ๗๕ ค่ำ มีจันทรุปราคาอัฒคราธ ณวัน ๗๑๐ ค่ำ เวลา ๓ ยาม พระสังฆราชวัดราช บุรณะนิพพาน ณวัน ๒๑๑ ค่ำ เวลา ๒ ทุ่ม มีจันทรุปราคา ปีมโรง จ.ศ.๑๑๘๒ ณวัน ๕๗ ค่ำ เวลายามเศษ ทิศพายัพเปนแสง ไฟจับอากาศ โหรดูเคราะห์เมืองว่าร้าย จะมีศึกผี มาแต่ทิศทักษิณ ให้ตั้งพิธียิงปืนอาฏานา ณวัน ๒๗ ค่ำ พระสงฆ์ประน้ำโปรยทราย ณวัน ๔๗ ค่ำ คนตายด้วยโรคลงรากเปนอันมาก ณวัน ๕๑๑ ค่ำ เวลาบ่าย ๒ โมง ๗ บาท ฟ้าผ่า มหาปราสาท ปีมเสง จ.ศ.๑๑๘๓ เข้าเกวียนละ ๗ ตำลึง เข้าสารถังละ ๓ สลึงเฟื้อง ปีนี้งูน้ำกัดคนตายมาก ปีมเมีย จ.ศ.๑๑๘๔ ณวัน ๑๕ ค่ำ จับอ้ายกลิ่น ณวัน ๕๑๐ ค่ำ พระโองการตั้งพระพิมลเปนสังฆราช ณวัน ๗๑๒ ค่ำ จับฝรั่งสลุบ เข้าเกวียนละ ๑๑ ตำลึง ณวัน ๒๑๒ ค่ำ ฆ่าคนผิด ๓๐ คน ดาวเข้าในวงพระ จันทร์ทิศอุดร ณวัน ๑๓ ค่ำ เวลา ๔ ทุ่ม ๖ บาท มีจันทรุปราคา สุนักข์เปนบ้ากัดคนตายมาก
 
๑๗ ปีมแม จ.ศ.๑๑๘๕ ณวัน ๗๙ ค่ำ เวลา ๓ ยามเศษ กรมหลวง เทพวดีนิพพาน ปีวอก จ.ศ.๑๑๘๖ ณวัน ๕๕ ค่ำ บ่าย ๓ โมงเกิดพยุใหญ่เปนควัน ทั้งน้ำทั้งบก กลาบาตตกในวัง ณวัน ๕๖ ค่ำ ชักศพกรมหลวงเทพวดี ณวัน ๖๗ ค่ำ ช้าง เผือกเมืองน่านล้ม ณวัน ๑๗ ค่ำ ช้างเผือก เมืองเชียงใหม่ล้ม ณวัน ๗๘ ค่ำ ทรงประชวร ณวัน ๔๘ ค่ำ เวลา ๒ ยาม แผ่นดินกลางนิพพาน ณวัน ๖๘ ค่ำ ข้าราชการถือน้ำ ณวัน ๑๙ ค่ำ ราชาภิเศกเจ้ากรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ เปนพระเจ้า อยู่หัว ปีรกา จ.ศ.๑๑๘๗ ณวัน ๕๑๐ ค่ำ เวลาเช้า เห็นพระอาทิตย์ ๒ ดวง ตามกันไปจนเที่ยง แลเห็นพระอาทิตย์ทรงกลด ๓ วง ๔ วง แรม ๑๑ ค่ำบ่ายเห็นพระอาทิตย์ ๒ ดวงตาม กันไปจนค่ำ ณวัน ๖๑๒ ค่ำ มีจันทรุปราคา เวลา ๓ ทุ่ม ๗ บาท แลมีดาวหาง ๆ เลื้อยแต่ ทักษิณไปอุดร ณวัน ๖๓ ค่ำ ๕ โมงเช้า มีลม หอบเรือสำปั้นลอยขึ้นไปสูงกว่ายอดพระปรางค์ ปีจอ จ.ศ.๑๑๘๘ ณวัน ๗๖ ค่ำ เห็นพระอาทิตย์ ๒ ดวง ณวัน ๑๖ ค่ำ มีจันทรุปราคาสัพคราธ ณวัน ๓๑๒ ๑๘ ค่ำ มีจันทรุปราคาสัพคราธ ณวัน ๔๓ ค่ำ ยามเศษ ไฟไหม้ตลาดหอกลอง แรม ๕ ค่ำไฟไหม้ หลังตึกดิน แรม ๖ ค่ำไฟไหม้บ้านดอกไม้แรม ๑๑ ค่ำ ไฟไหม้ริมบ้านพระยาพิไชยวารีเวลาทุ่มเศษ ณวัน ๖๓ ค่ำ บอกมาว่าเจ้าเวียงจันท์เปนขบถ ณวัน ๗๔ ค่ำ กรมพระราชวังยกทัพไปตีเวียง จันท์ ( อิกฉบับหนึ่งว่า ณวัน ๕๔ ค่ำ กรม นเรศร์โยธี เสนีบริรักษ์ ยกทัพ ๔ โมง ๖ บาท ณวัน ๗๔ ค่ำ กรมหมื่นสุรินทรรักษ์ เจ้าพระยา พระคลัง ยกไปปจิมเวลา ๓ โมง ๖ บาท ) ปีชวด จ.ศ.๑๑๙๐ ณวัน ๒๖ ค่ำ บ่าย ๔ โมง ๒ บาท มีสุริยุปราคา โหรมิได้ถวายฎีกา ณวัน ๒๒ ค่ำ จับเจ้าเมือง เวียงจันท์มาถึงกรุง ฯ ณวัน ๓๓ ค่ำ กลาบาต ตกเสียงดังปืน ปีขาล จ.ศ.๑๑๙๒ ณวัน ๑๑ ค่ำ ดาวพระเสาร์เข้าเคียงพระจันทร์ ณวัน ๓๒ ค่ำ ดาวโรหิณีเข้าในวงพระจันทร์ แทงตลอดไป ณวัน ๔๒ ค่ำ เจ้าสุวรรณหนี ณวัน ๖๔ ค่ำ เวลาพลบ กรมขุนนิพพาน ปีเถาะ จ.ศ.๑๑๙๓ ณวัน ๕๕ ค่ำ บ่าย ๓ โมงเศษ ดาวเข้าในวง พระอาทิตย์ แลกรมหมื่นนเรนทร์นิพพาน ณวัน
 
๑๙ ๕๕ ค่ำ บ่าย ๒ โมงไฟไหม้ กรมหมื่นสุนทรเทพ นิพพานในไฟ ณวัน ๖๕ ค่ำเวลายามเศษ กรม หมื่นนเรศร์นิพพาน ณวัน ๓๖ ค่ำ เสียเมืองไทร ณวัน ๓๑๐ ค่ำ ได้เมืองไทร ณวัน ๖๑๑ ค่ำ เวลาเย็น ฉลองวัดราชโอรส ปีนี้ยกทัพหลวงไปตี หนองจิก ปีนี้น้ำมากท่วมในพระราชวังประมาณ ศอก ๕ นิ้ว เข้าแพงเกวียนละ ๘ ตำลึง ปีมโรง จ.ศ.๑๑๙๔ ณวัน ๓๖ ค่ำ เวลา ๕ ทุ่มเศษ กรมพระราชวัง บวร ฯ สวรรคตด้วยพระโรคท้องมาน ณวัน ๖๑๒ ค่ำ เสด็จในพระที่นั่งดุสิตพิมานเวลา ๓ ทุ่ม สั่งเจ้าพระยาศรีพิพัฒน์ให้บุรณะวัดเชตุพน ปีนี้น้ำ น้อยนัก ณวัน ๑๓ ค่ำ แผ่นดินไหวเวลาทุ่มเศษ ปีมเสง จ.ศ.๑๑๙๕ เดือน ๘ ฝนแล้ง เข้าแพงเกวียนละ ๘ ตำลึง ๒ บาท ณวัน ๓๑๒ ค่ำ เวลา ๒ ยามเศษแผ่นดินไหว ณวัน ๑๑ ค่ำ เวลา ๒ ทุ่มเศษแผ่นดินไหว ณวัน ๑๑ ค่ำ ยกทัพไปเขมร ปีมแม จ.ศ.๑๑๙๗ ณวัน ๑๖ ค่ำ พระเจ้าลูกเธอพระองค์ลักขณา นิพพาน ณวัน ๗๙ ค่ำ พระยาไชยากรมการ บอกเข้ามาว่า พระสงฆ์ลักเพศ ๘๕ คน ณวัน ๔๑๐ ค่ำ ยามเศษแผ่นดินไหวแม่น้ำกระฉอก
 
๒๐ ปีวอก จ.ศ.๑๑๙๘ ณวัน ๔๑๒ ค่ำ โหรถวายสุริยุปราคาเช้า ๒ โมง แลเปนวิปริตมืดฝนตกแต่ตี ๑๑ จนย่ำเที่ยงมิได้เห็น ปรากฎ ปีรกา จ.ศ.๑๑๙๙ ณวัน ๗๕ ค่ำ ย่ำค่ำแล้ว พระจันทร์เข้าเคียง ดาวกิติกาข้างใต้ ณวัน ๕๕ ค่ำ ๘ ทุ่ม ๔ บาท มีจันทรุปราคาเปนสัพคราธ ณวัน ๗๕ ค่ำ ยาม เศษ ฝนตกมากฟ้าคนองเกินกว่าธรรมดา ณวัน ๓๑๑ ค่ำ สมเด็จนิพพาน ณวัน ๓๓ ค่ำ เวลา ๒ ยามเศษ กรมหลวงเทพนิพพาน ปีจอ จ.ศ.๑๒๐๐ ณวัน ๒๙ ค่ำ พระสุริยภักดี สำราญ กับ เจ้าจอมอิ่ม เปนโทษถึงประหารชีวิตร ๙ คน ปีกุญ จ.ศ.๑๒๐๑ ณวัน ๖๕ ค่ำ เวลา ๓ ยามเศษแผ่นดินไหวคน ตกใจกว่าทุกครั้ง ณวัน ๒๓ ค่ำ เวลาทุ่ม ๑ กับ ๓ บาท มีจันทรุปราคาเปนสัพคราธ ณวัน ๔๔ ค่ำ เช้า ๒ โมง ๖ นาที มีสุริยุปราคาเปน ตรีคราธ ปีฉลู จ.ศ.๑๒๐๓ ณวัน ๕๕ ค่ำ พระยาเสวตรกุญชรล้ม ณวัน ๔๓ ค่ำ มีจันทรุปราคาเวลา ๔ ทุ่ม ๙ บาท ปีขาล จ.ศ.๑๒๐๔ ณวัน ๖๑๐ ค่ำ เวลาบ่ายโมงเศษ สมเด็จพระ สังฆราช ( ด่อน ) นิพพาน ณวัน ๗๔ ค่ำ
 
๒๑ มีดาวหาง ๆ เปนควันพุ่งขึ้นทิศปัจจิม เดือนหนึ่ง จึงหาย ปีเถาะ จ.ศ.๑๒๐๕ ณวัน ๔๖ ค่ำ เช้า ๒ โมงเศษ เลื่อนพระวันรัต วัดราชบุรณะเปนสมเด็จพระสังฆราช ปีนี้เข้าแพง ตั้งแต่เดือน ๒ จนถึงเดือน ๔ เข้าสารถังละ ๑ บาท เปนไข้จับตายกันมาก น้ำก็น้อยทำนาไม่ได้ ปีมโรง จ.ศ.๑๒๐๖ ณวัน ๕๖ ค่ำ ฟ้าผ่าในพระราชวังที่น่ามุขโรง เครื่อง วันนี้ฟ้าผ่า ๗ แห่ง ตั้งแต่เดือน ๕ ถึง เดือน ๑๐ เข้าแพงเกวียนละ ๑ ชั่ง เข้าสารถังละ ๙ สลึง ณวัน ๖๗ ค่ำ มีจันทรุปราคาสัพคราธ ณวัน ๑๑๒ ค่ำ มีจันทรุปราคาสัพคราธ ณวัน ๓๑ ค่ำ เห็นดาวหาง ๆ เปนควันพุ่ง ณวัน ๒๒ ค่ำ เวลาทุ่ม ๑ อุกกาบาตตกมาแต่ทักษิณ ไปอิสาณ ปีมเสง จ.ศ.๑๒๐๗ ณวัน ๓๖ ค่ำ เวลาเย็นเกิดพยุใหญ่พัดมาแต่ อิสาณ เรือแพขาดน้ำเปนคลื่นใหญ่ เกิดธุมเกตุ ตกเห็นทุกหัวเมือง ณวัน ๒๑๐ ค่ำ ก่ำปั่นไฟ เข้ามาสู่กรุงเทพ ฯ คนตกใจเปนอันมาก ปีมเมีย จ.ศ.๑๒๐๘ ณวัน ๑๑๐ ค่ำ เวลาเช้า กรมหมื่นณรงค์ หริรักษ์นิพพาน ณวัน ๖๑ ค่ำ ชักพระประธาน
 
๒๒ ไปไว้วัดพระองค์เจ้าโสมนัศเวลา ๔ โมงเช้า ตะเฆ่ ที่ชักพระนั้น ทับพระยายมราชขาขาดถึงแก่อนิจกรรม ทับทนายอิกคนหนึ่งด้วย ครั้งนั้นญวนให้ราชสาสน เข้ามาว่าให้เปนมิตรไมตรีกันเถิด อย่ารบกันเลย ข้างนี้ไม่ยอม ปีมแม จ.ศ.๑๒๐๙ ณวัน ๔๕ ค่ำ มีจันทรุปราคาเวลา ๘ ทุ่ม ๖ บาท อัฒคราธ ณวัน ๖๑๐ ค่ำ มีจันทรุปราคาเวลา ๒ ทุ่ม ๒ บาทสัพคราธ ณวัน ๗๑๐ ค่ำ มีสุริยุป ราคาเวลาบ่าย ๓ โมง ๘ บาท ณวัน ๔๒ ค่ำ พระยาเพ็ชรปาณีเปนโทษทำขวัญเมือง ณวัน ๕๔ ค่ำ อ้ายเจ๊กที่ลัดกรูดคิดขบถยิงพระยา มหาเทพถึงแก่อนิจกรรม ณวัน ๑๔ ค่ำ มี จันทรุปราคาสัพคราธ ปีวอก จ.ศ.๑๒๑๐ ณวัน ๑๘ ค่ำ ช้างสีปลาดมาใหม่ล้ม ณวัน ๖๑๐ ค่ำ ช้างสีปลาดเปนสีทองแดงมาแต่เมือง ชนบท บังเกิดช้างในเมืองล้ม ๑๑ ช้าง ณวัน ๓๑ ค่ำ ชำระหม่อมไกรสร ณวัน ๔๑ ค่ำ บ่ายโมงเศษ สำเร็จโทษหม่อมไกรสรที่วัดประทุม คงคา
 
๒๓ ปีรกา จ.ศ.๑๒๑๑ ณวัน ๗๗ ค่ำ คนเปนโรคปัจจุบันตายด้วยลงราก มากกว่าปีมโรงจนถึงขึ้นค่ำ ๒ ค่ำ ๓ ค่ำ ๔ ค่ำ ปีจอ จ.ศ.๑๒๑๒ ณวัน ๗๒ ค่ำ พวกโหรเปนโทษทั้งกรม ปีกุญ จ.ศ.๑๒๑๓ ณวัน ๔๕ ค่ำ เวลา ๗ ทุ่ม พระบาทสมเด็จพระ นั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวสวรรคต ณวัน ๕๖ ค่ำ เวลา เช้าโมง ๑ กับ ๓ บาท บรมราชาภิเศกพระบาท สมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ณวัน ๓๖ ค่ำ แห่บกเลียบพระนคร ณวัน ๔๖ ค่ำ แห่เรือเลียบ พระนคร ณวัน ๔๖ ค่ำ เช้า ๒ โมงบวรราชา ภิเศก ปีฉลุ จ.ศ.๑๒๑๕ ณวัน ๖๑ ค่ำ สมเด็จพระปรมานุชิตสิ้นพระชนม์ เวลาบ่าย ๓ โมง ปีขาล จ.ศ.๑๒๑๖ ณวัน ๓๑ ค่ำ แรมค่ำ ๑ ฉลองคลองผดุง มีเครื่องเล่นต่าง ๆ ปีมเมีย จ.ศ.๑๒๒๐ ณวัน ๕๑๐ ค่ำ ดาวหางขึ้นทิศพายัพ หางอิสาณ เร่ไปหายหรดี ปีมแม จ.ศ.๑๒๒๑ ณวัน ๒๗ ค่ำ ประหารชีวิตรอ้ายเขียนหลวง สุวรรณ กับภรรยา ณวัน ๓๗ ค่ำ เนรเทศพระ โยคาภิรัตเถรวัดราชสิทธ แลเจ้าอธิการวัดบาง
 
๒๔ ประทุน ณวัน ๑๑๐ ค่ำ กรมสมเด็จพระเดชา สิ้นพระชนม์ ปีวอก จ.ศ.๑๒๒๒ ณวัน ๗๕ ค่ำ เวลาทุ่ม ๑ แผ่นดินไหว ปีรกา จ.ศ.๑๒๒๓ ทรงพระกรุณาโปรดพระนายศรีสรรพเพธภักดี เปน ราชทูตไปเมืองวิลาศลอนดอน เจริญทางพระราช ไมตรี ณวัน ๕ ค่ำ ดาวหางขึ้นทิศพายัพ ปีจอ จ.ศ.๑๒๒๔ ณวัน ๓๑๑ ค่ำ พระอาทิตย์ทรงกลด ๓ วง ปีขาล จ.ศ.๑๒๒๘ ณวัน ๗๒ ค่ำ เวลาเที่ยงแล้ว กรมหมื่นอุดม รัตนราษีนิพพาน ปีมโรง จ.ศ.๑๒๓๐ ณวัน ๕๑๑ ค่ำ เวลายาม ๑ พระบาทสมเด็จ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวสวรรคต ณวัน ๔๑๒ ค่ำ เวลาเช้าโมง ๑ กับ ๒๔ นาที ราชาภิเศกพระบาท สมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ปีมเสง จ.ศ.๑๒๓๑ ณวัน ๕๑ ค่ำ เวลาบ่าย ๓ โมง ปักผังขุดราก วัดราชบพิธ คนฆ่าพระธรรมเจดีย์วัดโพธิ์ตาย ปีมเมีย จ.ศ.๑๒๓๒ ณวัน ๓๒ ค่ำ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวกริ้ว พระสงฆ์นักสวด สึกเอาเปนไพร่หลวง ปีมแม จ.ศ.๑๒๓๓ ณวัน ๖๑ ค่ำ เวลาเช้า ๒ โมงกับ ๔๘ นาที หล่อ พระบรมรูปทั้ง ๔ พระองค์
 
๒๕ ปีจอ จ.ศ.๑๒๓๖ ณวัน ๖๑๑ ค่ำ เวลา ๙ ทุ่ม กรมพระราชวังไป อยู่ห้างกงสุลอังกฤษ ณวัน ๒๓ ค่ำ แผ่นดินไหว ณวัน ๕๓ ค่ำ กรมพระราชวังเสด็จกลับเข้า พระราชวัง
 
( สิ้นจดหมายเหตุโหรในปูมเท่านี้ )