ผลต่างระหว่างรุ่นของ "หน้า:ตำนานเงินตรา - ดำรง - ๒๔๗๔.pdf/8"

Bitterschoko (คุย | ส่วนร่วม)
→‎ยังไม่พิสูจน์อักษร: สร้างหน้าด้วย "ดำรัสสั่งให้เปลี่ยนตราเสียครั้งหนึ่ง) เงินตราครั้งกร..."
 
Bitterschoko (คุย | ส่วนร่วม)
 
สถานะของหน้าสถานะของหน้า
-
ยังไม่พิสูจน์อักษร
+
พิสูจน์อักษรแล้ว
เนื้อหาของหน้า (จะถูกรวม):เนื้อหาของหน้า (จะถูกรวม):
บรรทัดที่ 1: บรรทัดที่ 1:
ดำรัสสั่งให้เปลี่ยนตราเสียครั้งหนึ่ง) เงินตราครั้งกรุงศรีอยุธยามีสี่ขนาด คือ
ดำรัสสั่งให้เปลี่ยนตราเสียครั้งหนึ่ง) เงินตราครั้งกรุงศรีอยุธยามีขนาด คือ


ขนาดบาทหนึ่ง
ขนาดบาท


ขนาดครึ่งบาท (เรียกว่า สองสลึง อย่างนี้ชะรอยคนจะไม่ใคร่ชอบใช้ จึงมีน้อย)
ขนาดครึ่งบาท (เรียกว่า สลึง อย่างนี้ชะรอยคนจะไม่ใคร่ชอบใช้ จึงมีน้อย)


ขนาด ๑/๔ ของบาท เรียกว่า สลึงหนึ่ง
ขนาด {{ศสต||}} ของบาท เรียกว่า สลึง


ขนาด ๑/๘ ของบาท เรียกว่า เฟื้องหนึ่ง
ขนาด {{ศสต||}} ของบาท เรียกว่า เฟื้อง


รองนั้นลงมาถึงเบี้ย มีอัตราสี่ร้อยเบี้ยเป็นราคาเฟื้องหนึ่ง แต่ว่าไม่เป็นราคาตามกฎหมาย สุดแต่มีเบี้ยเข้ามาขายในท้องตลาดมากหรือน้อย ในเวลาเบี้ยในท้องตลาดมีมาก ราคาเบี้ยตกถึงหนึ่งพันเบี้ยต่อเฟื้องก็มี แต่ราษฎรซื้อขายเครื่องบริโภคกันในท้องตลาดมักใช้เบี้ยเป็นพื้น
รองนั้นลงมาถึงเบี้ย มีอัตรา ๔๐๐ เบี้ยเป็นราคาเฟื้อง แต่ว่าไม่เป็นราคาตามกฎหมาย สุดแต่มีเบี้ยเข้ามาขายในท้องตลาดมากหรือน้อย ในเวลาเบี้ยในท้องตลาดมีมาก ราคาเบี้ยตกถึง ๑๐๐๐ เบี้ยต่อเฟื้องก็มี แต่ราษฎรซื้อขายเครื่องบริโภคกันในท้องตลาดมักใช้เบี้ยเป็นพื้น


ถึงสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ตอนก่อนรัชกาลที่ ๔ คงใช้เงินตรามาตามแบบอย่างครั้งกรุงศรีอยุธยา เป็นแต่เปลี่ยนตราตามรัชกาล รัชกาลที่ ๑ ใช้ตราบัวอุณาโลม รัชกาลที่ ๒ ใช้ตราครุฑ รัชกาลที่ ๓ ใช้ตราปราสาท{{วว}}
ถึงสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ตอนก่อนรัชชกาลที่ ๔ คงใช้เงินตรามาตามแบบอย่างครั้งกรุงศรีอยุธยา เป็นแต่เปลี่ยนตราตามรัชชกาล รัชชกาลที่ ๑ ใช้ตราบัวอุณณาโลม รัชชกาลที่ ๒ ใช้ตราครุฑ รัชชกาลที่ ๓ ใช้ตราปราสาท{{วว}}