ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ปัญญาสชาดก/ภาคที่ 19"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Tiemianwusi (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Tiemianwusi (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัดที่ 70:
อันหนังสือปัญญาสชาดกนี้ คือ ประชุมนิทานเก่าแก่ที่เล่ากันในเมืองไทยแต่โบราณห้าสิบเรื่อง<ref>หนังสือปัญญาสชาดกนี้ ตามที่ได้ตรวจฉบับ มีลักษณะแผกกันเป็นสองอย่าง อย่างหนึ่งเรียกว่า “ปัญญาสชาดกบั้นปลาย” แต่ไม่ปรากฏว่ามี “บั้นต้น” อีกอย่างหนึ่งเรียกว่า “ปัญญาสชาดกปฐมภาค (คือ ภาคแรก) คัมภีร์” ๑ “ปัญญาสชาดกปัจฉิมภาค (คือ ภาคหลัง) คัมภีร์” ๑ ปัญญาสชาดกบั้นปลายมีอยู่ดาษดื่นทั่วไป แต่ปัญญาสชาดกปฐมภาคกับปัจฉิมภาคนั้นหาฉบับยาก แต่แรกอ่านดูเข้าใจว่า ปัญญาสชาดกบั้นปลายกับปัญญาสชาดกปัจฉิมภาคเป็นคัมภีร์เดียวกัน ครั้นตรวจสอบกันเข้า ตรงกันข้าม ปัญญาสชาดกบั้นปลายกลับตรงกับปัญญาสชาดกปฐมภาค ไปจบคัมภีร์เพียงห้าสิบนิทาน จึ่งสันนิษฐานว่า คงเป็นด้วยชั้นเดิมผู้แต่งปัญญาสชาดกบั้นปลายมุ่งหมายจะให้อนุโลมเข้าใจปัญญาสนิบาต ภายหลังมีผู้แต่งนิทานเพิ่มเข้าอีกยี่สิบห้าเรื่อง และมุ่งหมายจะให้เป็นหนังสือส่วนหนึ่งต่างหาก ไม่อนุโลมเข้าในนิบาท จึ่งเปลี่ยนชื่อ ปัญญาสชาดกบั้นปลาย เป็น ปัญญาสชาดกปฐมภาค ส่วนที่แต่งเติมเข้าใหม่เรียกว่า ปัญญาสชาดกปัจฉิมภาค ''— [เชิงอรรถของ พระพินิจวรรณการ (แสง สาลิตุล)]''</ref> พระสงฆ์ชาวเชียงใหม่รวบรวมแต่งเป็นชาดกไว้ในภาษาบาลี เมื่อพระพุทธศักราชประมาณราวในระหว่าง ๒๐๐๐ จนถึง ๒๒๐๐ ปี อันเป็นสมัยเมื่อพระสงฆ์ชาวประเทศนี้พากันไปเล่าเรียนมาแต่ลังกาทวีป มีความรู้ภาษามคธแตกฉาน เอาแบบอย่างของพระภิกษุสงฆ์ในลังกาทวีปมาแต่งหนังสือเป็นภาษามคธขึ้นในบ้านเมืองของตน แต่งเป็นอย่างอรรถาธรรมาธิบาย เช่น คัมภีร์มังคลัตถทีปนี เป็นต้นบ้าง แต่งเป็นเรื่องศาสนประวัติ เช่น คัมภีร์ชินกาลมาลินี เป็นต้น ตามอย่างเรื่องมหาวงศ์พงศาวดารลังกาบ้าง แต่งเป็นชาดก เช่น เรื่องปัญญาสชาดกนี้เอาอย่างนิบาตชาดกบ้าง โดยเจตนาจะบำรุงพระศาสนาให้ถาวร และจะให้หนังสือซึ่งแต่งนั้นเป็นหลักฐานมั่นคง ด้วยเป็นภาษาเดียวกับพระไตรปิฎก แต่หนังสือปัญญาสชาดกนี้ เห็นจะแต่งในตอนปลายสมัยที่กล่าวมา เพราะความรู้ภาษามคธดูทรามลงไม่ถึงหนังสือแต่งชั้นก่อน
 
หนังสือปัญญาสชาดกนี้ ต้นฉบับเดิมเป็นคัมภีร์ลาน จำนวนรวมห้าสิบผูกด้วยกัน เดี๋ยวนี้เห็นจะมีอยู่แต่ในประเทศสยามกับที่เมืองหลวงพระบางและที่กรุงกัมพูชา ที่อื่นหามีไม่ มีเรื่องราวปรากฏว่าเคยได้ฉบับไปถึงเมืองพม่าครั้งหนึ่ง พม่าเรียกว่า “เชียงใหม่ปัณณาส” แต่พระเจ้าแผ่นดินพม่าองค์ใดองค์หนึ่งดำรัสว่า เป็นหนังสือแต่งปลอมพระพุทธวจนะ สั่งให้เผาเสีย ในเมืองพม่าจึ่งมิได้มีหนังสือปัญญาสชาดกเหลืออยู่ คำที่ติว่าแต่งปลอมพระพุทธวจนะนั้น เพราะพระเจ้าแผ่นดินพม่าองค์นั้นหลงเชื่อว่า หนังสือนิบาตชาดก หรือที่เราเรียกกันในภาษาไทยว่า “เรื่องพระเจ้าห้าร้อยห้าสิบชาติ” เป็นพระพุทธวจนะ ซึ่งที่แท้หาเป็นเช่นนั้นไม่ ความจริงเป็นดังพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้พระราชวิจารณ์ไว้ในพระราชนิพนธ์คำนำหนังสือนิบาตชาดกภาคต้นซึ่งโปรดให้พิมพ์เมื่อในรัชกาลที่ ๕ ว่า เรื่องนิบาตชาดกนั้น คงเป็นนิทานที่เล่ากันในพื้นเมือง มีมาแต่ก่อนพุทธกาลช้านาน เมื่อพระพุทธเจ้าทรงสั่งสอนเวนัยสัตว์ ทรงยกเอาเรื่องนิทานมาแสดงเป็นอุปมาในพระธรรมเทศนาเนือง ๆ ก็ธรรมดาในเรื่องนิทานย่อมต้องมีตัวดีและตัวชั่ว ตัวดีจะเป็นคนก็ตาม จะเป็นสัตว์เดียรัจฉานก็ตาม ย่อมเรียกว่า “มหาสัตว์” มาเกินสมมติขึ้นต่อภายหลังพุทธกาลว่า มหาสัตว์ในเรื่องชาดกนั้นคือพระพุทธเจ้าในอดีตชาติ ครั้นเมื่อมาตบแต่งร้อยกรองพระไตรปิฎกกันในชั้นหลัง ๆ ผู้แต่งประสงค์จะปลูกศรัทธาให้มั่งคงตามความเชื่อถือของตน จึ่งแต่งประชุมชาดกประหนึ่งว่าพระพุทธองค์ได้ทรงแสดงไว้ชัดเจนว่า มหาสัตว์นั้น ๆ มาเกิดเป็นพระพุทธองค์ และบุคคลหรือสัตว์นั้น ๆ มาเป็นผู้นั้นผู้นี้ในปัจจุบันชาติ รูปเรื่องชากดชาดกจึ่งเป็นเช่นปรากฏอยู่ในหนังสือนิบาตชาดก เพราะความเป็นดังอธิบายมานี้ ที่พระสงฆ์ชาวเชียงใหม่เอานิทานในพื้นเมืองมาแต่งเป็นชาดกเป็นแต่แต่งตามแบบอย่างหนังสือเก่าซึ่งพระคันถรจนาจารย์ได้แต่งมาแต่ปางก่อน หาได้ตั้งใจจะหลอกลวงผู้หนึ่งผู้ใดว่าเป็นพระพุทธวจนะไม่ พระเจ้าแผ่นดินพม่าหากเข้าพระทัยหลงไปเอง
 
นิทานในปัญญาสชาดกเป็นนิทานที่ไทยเรารู้กันอยู่ซึมทราบหลายเรื่อง เช่น เรื่องสมุทรโฆษ เรื่องพระสุธนนางมโนราห์ เรื่องสังข์ทอง เรื่องคาวี เรื่องพระรถเสน เป็นต้น เรื่องสุวรรณสังขชาดกที่พิมพ์ในสมุดเล่มนี้ก็มีผู้เอามาแต่งเป็นกลอนอ่าน เรียกว่า เรื่องสังข์ทอง การที่เอาหนังสือปัญญาสชาดกมาแปลพิมพ์จะเป็นประโยชน์สอบสวนให้รู้ว่า นิทานเหล่านั้นเรื่องที่เขาเล่ามาแต่โบราณเป็นอย่างไร ที่เอามาแต่งเป็นโคลงฉันท์และบทละครกลอนอ่านเอามาแก้ไขเสียอย่างใดบ้าง และให้รู้เรื่องนิทานเก่าแก่ของประเทศนี้ซึ่งมิได้ปรากฏในที่อื่นก็อีกหลายเรื่อง เรื่องที่พิมพ์ในสมุดเล่มนี้ชื่อ สุวรรณสังขชาดก (คือ เรื่องสังข์ทอง) เป็นเรื่องที่หนึ่งในปัจฉิมภาคแห่งปัญญาสชาดก