ผลต่างระหว่างรุ่นของ "พระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พุทธศักราช 2484 (รก.)"
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัดที่ 1:
{{คุณภาพเนื้อหา|100%}}
{{หัวเรื่อง
|ชื่อเรื่อง= พระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พุทธศักราช ๒๔๘๔
|ชื่อเรื่องย่อย=
|วิกิพีเดียชื่อเรื่อง=
|พระราชนิพนธ์=
|พระนิพนธ์=
|ผู้แต่ง=
|ผู้แต่งไม่ลิงก์= รัฐสภาไทย
|วิกิพีเดียผู้แต่ง=
|ผู้แปล=
|เรื่องก่อนหน้า=
|เรื่องถัดไป=[[พระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. ๒๕๐๕]]
|ก่อนหน้า=
|ถัดไป=
|หมายเหตุ=
}}
[[ไฟล์:New Seal of the Royal Command of Thailand 001.jpg|center|150px]]
{{c|{{fs|140%|พระราชบัญญัติ}}}}
{{c|{{fs|120%|คณะสงฆ์}}}}
{{c|{{fs|120%|พุทธศักราช ๒๔๘๔}}<ref>ประกาศใน ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๕๘/ตอนที่ ๕๙ ก/หน้า ๑๓๙๑ - ๑๔๑๐/๑๔ ตุลาคม ๒๔๘๔.</ref>}}
{{r|8em}}
{{c|{{fs|140%|ในพระปรมาภิไธยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล}}}}
{{c|{{fs|120%|คณะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์}}}}
{{c|{{fs|120%|(ตามประกาศประธานสภาผู้แทนราษฎร }}}}
{{c|{{fs|120%|ลงวันที่ ๔ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๔๘๐)}}}}
{{c|{{fs|140%|อาทิตย์ทิพอาภา}}}}
{{c|{{fs|140%|พล.อ.พิชเยนทรโยธิน}}}}
{{c|{{fs|120%|ตราไว้ ณ วันที่ ๑๔ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๔๘๔}}}}
{{c|{{fs|120%|เป็นปีที่ ๘ ในรัชกาลปัจจุบัน}}}}
โดยที่สภาผู้แทนราษฎรลงมติว่า สมควรปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยการคณะสงฆ์ให้เหมาะสมยิ่งขึ้น
จึงมีพระบรมราชโองการให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้ โดยคำแนะนำและยินยอมของสภาผู้แทนราษฎร ดังต่อไปนี้
{{c|บททั่วไป}}
{{r|8em}}
มาตรา ๑ พระราชบัญญัตินี้ให้เรียกว่า "พระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พุทธศักราช ๒๔๘๔"
เส้น 34 ⟶ 70:
{{c|หมวด ๑}}
{{c|สมเด็จพระสังฆราช}}
{{r|8em}}
มาตรา ๕ พระมหากษัตริย์ทรงสถาปนาสมเด็จพระสังฆราช
เส้น 52 ⟶ 92:
มาตรา ๑๑ สังฆสภาประกอบด้วยสมาชิก มีจำนวนรวมกันไม่เกินสี่สิบห้ารูป คือ
(๑
(๒
(๓
แต่ทั้งนี้ ถ้ามีจำนวนเกินกว่าที่กำหนด ให้เป็นสมาชิกตามลำดับ(๑) (๒) (๓) และตามลำดับอาวุโส
{{c|หมวด2}}
{{c|มหาเถรสมาคม}}
{{r|8em}}
มาตรา ๑๒ ทุกคราวสมัยประชุมสามัญ สมเด็จพระสังฆราชทรงตั้งสมาชิกในสังฆสภา ตามมติของสังฆสภา ให้เป็นประธานสภาหนึ่งรูป เป็นรองประธานหนึ่งรูป หรือหลายรูปก็ได้
เส้น 77 ⟶ 124:
มาตรา ๑๕ สมาชิกภาพแห่งสังฆสภาสิ้นสุดลงเมื่อ
(๑
(๒
(๓
(๔
มาตรา ๑๖ ญัตติที่จะรับเข้าปรึกษาในที่ประชุมสังฆสภานั้น จะเสนอได้สามทาง คือ ทางคณะสังฆมนตรีหนึ่ง ทางกระทรวงศึกษาธิการหนึ่ง และทางสมาชิกสังฆสภาหนึ่งแต่ญัตติที่เสนอทางสมาชิกสังฆสภานั้น ต้องให้สังฆนายกรับรอง
เส้น 107 ⟶ 154:
มาตรา ๒๑ สังฆาณัติย่อมบัญญัติได้ในกรณี ดังต่อไปนี้
(๑
(๒
มาตรา ๒๒ สังฆาณัติ กติกาสงฆ์ กฎองค์การ พระบัญชาสมเด็จพระสังฆราช กฎกระทรวง
เส้น 119 ⟶ 166:
มาตรา ๒๓ ทัณฑกรรมที่จะบัญญัติไว้ในสังฆาณัติ เกี่ยวด้วยการปฏิบัติล่วงละเมิดพระวินัย และสังฆาณัตินั้นให้กำหนดได้เจ็ดสถานดังนี้
(๑
(๒
(๓
(๔
(๕
(๖
(๗
มาตรา ๒๔ เมื่อสังฆสภาได้ร่างสังฆาณัติขึ้นสำเร็จแล้ว ให้สังฆนายกนำขึ้นถวายสมเด็จพระสังฆราชเพื่อลงพระนาม และเมื่อได้ประกาศในแถลงการณ์คณะสงฆ์แล้ว ให้ใช้บังคับได้
เส้น 147 ⟶ 194:
{{c|หมวด ๓}}
{{c|คณะสังฆมนตรี}}
{{r|8em}}
เส้น 166 ⟶ 216:
นอกจากนี้ ความเป็นสังฆมนตรีจะสิ้นสุดลงเฉพาะรูป เมื่อ
(๑
(๒
(๓
(๔
มาตรา ๓๒ สมเด็จพระสังฆราชทรงไว้ซึ่งสิทธิที่จะทรงตรากติกาสงฆ์ ตามที่ระบุไว้ในสังฆาณัติ
เส้น 178 ⟶ 228:
มาตรา ๓๓ ให้จัดระเบียบบริหารการคณะสงฆ์ส่วนกลาง เป็นองค์การต่างๆ คือ
(๑
(๒
(๓
(๔
นอกจากนี้ จะให้มีสังฆาณัติกำหนดให้มีองค์การอื่นเพิ่มขึ้นอีกก็ได้ทุกองค์การ ต้องมีสังฆมนตรีรูปหนึ่ง เป็นผู้ว่าการบังคับบัญชารับผิดชอบ ถ้าจำเป็นจะมีสังฆมนตรีช่วยว่าการก็ได้
เส้น 200 ⟶ 250:
{{c|หมวด ๔}}
{{c|วัด}}
{{r|8em}}
มาตรา ๓๘ วัดมีสองอย่าง
(๑
(๒
มาตรา ๓๙ การสร้าง การตั้ง การรวม การโอน การย้าย และการยุบเลิกวัด ให้เป็นไปตามกฎกระทรวงการพระราชทานวิสุงคามสีมา ให้กระทำโดยพระบรมราชโองการ
เส้น 214 ⟶ 268:
มาตรา ๔๐ ที่วัดและที่ซึ่งขึ้นต่อวัด มีดังนี้
(๑
(๒
(๓
มาตรา ๔๑ ที่วัดและที่ธรณีสงฆ์ จะโอนกรรมสิทธิ์ได้แต่โดยพระราชบัญญัติ
เส้น 226 ⟶ 280:
มาตรา ๔๓ เจ้าอาวาสมีหน้าที่ ดังนี้
(๑
(๒
(๓
(๔
มาตรา ๔๔ เจ้าอาวาสมีอำนาจ ดังนี้
(๑
(๒
(๓
มาตรา ๔๕ บรรพชิตต้องมีสังกัดอยู่ในวัดใดวัดหนึ่ง และมีถิ่นที่อยู่เป็นหลักแหล่ง
เส้น 246 ⟶ 300:
{{c|หมวด ๕}}
{{c|ศาสนสมบัติ}}
{{r|8em}}
มาตรา ๔๖ ศาสนสมบัติแบ่งออกเป็นสองประเภท
(๑
(๒
มาตรา ๔๗ การดูแลรักษาและจัดการศาสนสมบัติกลางให้เป็นอำนาจหน้าที่ของกระทรวงศึกษาธิการ
เส้น 264 ⟶ 322:
{{c|หมวด ๖}}
{{c|คณะวินัยธร}}
{{r|8em}}
มาตรา ๕๐ การพิจารณาวินิจฉัยอธิกรณ์ ให้เป็นอำนาจและหน้าที่ของคณะวินัยธร
เส้น 276 ⟶ 338:
{{c|หมวด ๗}}
{{c|บทกำหนดโทษ}}
{{r|8em}}
มาตรา ๕๓ ผู้ใดกระทำการฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติมาตรา ๒๗ มีความผิดต้องระวางโทษ จำคุกไม่เกินสามเดือน
เส้น 284 ⟶ 350:
มาตรา ๕๔ ผู้ใด
(๑
(๒
(๓
(๔
มีความผิดต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน
เส้น 298 ⟶ 364:
มาตรา ๕๖ ไวยาวักรผู้ใดกระทำการทุจริตต่อหน้าที่มีความผิดต้องระวางโทษฐานเจ้า พนักงานใช้อำนาจและตำแหน่งหน้าที่ในทางทุจริตตามกฎหมายลักษณะอาญา
{{c|หมวด ๘}}
{{c|บทเบ็ดเตล็ด}}
{{r|8em}}
มาตรา ๕๗ พระภิกษุซึ่งได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งตามบทแห่งพระราชบัญญัตินี้ให้ถือว่าเป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมายลักษณะอาญา
เส้น 312 ⟶ 382:
{{c|บทเฉพาะกาล}}
{{r|8em}}
มาตรา ๖๐ ก่อนที่จะได้ทำสังคายนาพระธรรมวินัยให้ครบถ้วน แต่อย่างช้าต้องไม่เกิดแปดปี นับแต่วันใช้พระราชบัญญัตินี้ ห้ามมิให้ออกสังฆาณัติ กติกาสงฆ์ พระบัญชา สมเด็จพระสังฆราช กฎกระทรวง หรือระเบียบใด ที่จะบังคับให้ต้องเปลี่ยนลัทธิอันได้นิยมนับถือและปฏิบัติกันมาเป็นเวลา ช้านานแล้ว
เส้น 318 ⟶ 392:
:ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
::พิบูลสงคราม
::นายกรัฐมนตรี
==เชิงอรรถ==
{{reflist}}
----
{{ed}}
----
{{ข้อมูลข่าวสารของราชการ-ไทย}}
[[หมวดหมู่:แปลก พิบูลสงคราม]]
|