ผลต่างระหว่างรุ่นของ "พงศาวดารเมืองหัวพันห้าทั้งหก"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
บรรทัดที่ 5:
 
 
ท้าวพล กรมการท้าวขุนในเมืองสบแอด, เชียงค้อ ให้ถ้อยคำว่า เดิมบ้านเมืองก็เปนศุขเรียบร้อย หามีโจรผู้ร้ายไม่ สืบมาแต่ปู่แลบิดามาช้านาน.
มาช้านาน.
ครั้นล่วงมาเมื่อปีวอกจัตวาศก ๑๒๓๔ (พ.ศ.๒๔๑๕) มีอ้ายจีนฮ่อ พวกหนึ่งใช้ธงลาย นายจีนฮ่อชื่อสามบิวคน ๑ ชื่อยิบไตคน ๑ มีกำลังประมาณ ๓๐๐๐ คน ยกเข้ามาตีเมืองสิบสองจุไทยแตกทั้งสิ้น ครั้นแล้วฮ่อจึงปฤกษากันแยกย้ายเที่ยวตั้งอยู่หลายตำบล เพราะขัดสนด้วยเสบียงอาหาร แล้วจีนฮ่อชื่อลอลีจึงแยกกองทัพยกไปตีกวานฟูข้าหลวงมาจากเมืองญวนซึ่งไปกำกับอยู่เมืองแถง กวานฟูกับลอลีได้สู้รบกันอยู่ ๓ เวลา กวานฟูสู้ไม่ได้แตกหนีไปเมืองญวน เจ้าเมืองแถงยอมเข้าทู้จีนฮ่อก็ฆ่าเสีย แล้วยกพลเข้าตั้งค่ายอยู่ในเมืองแถง กวานกอยิบใตตีได้เมืองมวก เมืองลา แล้วยกพลขึ้นไปค่ายอยู่เมืองลา เจ้าเมืองมวกเจ้าเมืองลากลับแขงเมืองขึ้นอีก กวานกอยิบใตยกพลลงมาจะเข้าตีเมืองมวกเมืองลา เมืองมวกเมืองลามีคนอยู่ ๓๐๐ คน ๑
 
 
เห็นจะสู้กวานกอยิบใตไม่ได้ จึงมีหนังสือลงมาขอกองทัพเมืองฮุงขึ้นไปช่วย เจ้าเมืองฮุงจัดได้คน ๓๐๐ คน แต่งให้เจียวดา เพี้ยฟูกเปนนายคุมคน ๓๐๐ คน ขึ้นไปช่วยเจ้าเมืองมวกเมืองลา ๆ ได้คนเมืองฮุง ๓๐๐ คน รวมเปน ๖๐๐ ด้วยกันยกขึ้นไปตั้งค่ายอยู่บ้านพิงแขวงเมืองมวก กวานกอยิบใตก็ยกเข้าตีค่ายเจ้าเมืองมวก ๆ กับกวานกอยิบใตสู้รบกันอยู่ได้ ๓ เวลา กวานกอยิบใตอ่อนกำลังลงถอยกองทัพกลับไปค่ายเมืองลา องตีเจ้าเมืองมวกยกพลขึ้นไปตั้งค่ายอยู่บ้านกับแขวงเมืองมวกกับเมืองลาต่อกัน กวานกอยิบก็ออกรบกับเมืองมวกอยู่หลายวันยังยังหาแพ้ชนะกันไม่ ต่างคนต่างรักษาค่ายมั่นไว้ได้ ๒ ปี เจ้าเมืองมวกถอยกำลังลงล่าทัพมาต้อนเอาครอบครัวที่เมืองมวกมาพักอยู่เมืองสบแอด แล้วเพี้ยคำเจ้าเมืองสบแอดกับเพี้ยเกียนเจ้าเมืองฮุงกับเพี้ยท้าวทั้งปวงปฤกษาพร้อมกันแล้ว จัดคนเมืองสบแอด ๓๐๐ คน เมืองฮุง ๓๐๐ คน ยกขึ้นไปตั้งค่ายอยู่บ้านงิ้วแขวงเมืองฮุงได้ ๓ เวลา สามบิวก็ยกพลลงมารบกันตั้งแต่เช้าจนเวลาเที่ยง เจ้าเมืองสบแอดเจ้าเมืองฮุงสู้ฝีมือฮ่อไม่ได้ แตกหนีมาตั้งค่ายอยู่บ้านด่านแขวงเมืองสบแอดกับเมืองฮุงต่อกัน แล้ววงเวียนเจ้าเมืองเชียงค้อ เพี้ยพลเจ้าเมืองฮุง
เพี้ยไซเจ้าเมืองบัว รู้ว่าเมืองสบแอดเมืองฮุงแตกพวกฮ่อ หนีมาตั้งค่ายอยู่บ้านด่าน จึงปฤกษาพร้อมกันเกณฑ์คนทั้ง ๓ เมืองได้คน ๙๐๐ คนยกขึ้นไปสมทบกับเจ้าเมืองสบแอดเจ้าเมืองฮุง รวม ๕ เมือง เปนคน ๑๕๐๐ คน แล้วแบ่งคนออก ๕๐๐ ไปตั้งค่ายอยู่บนเนินทุ่งนาค่ายหนึ่ง
 
 
อยู่ค่ายบ้านด่าน ๑๐๐๐ คน พอฮ่อสามบิวรู้ว่าเจ้าเมืองสบแอดเจ้าเมืองฮุงหนีลงไปตั้งค่ายอยู่บ้านด่านก็ยกกองทัพตามลงมารบ พวกเมืองเชียงค้อ เมืองฮุง เมืองบัว เมืองสบแอด ออกรบกับพวกฮ่อสามบิว อยู่ได้เดือนเศษ เห็นไพร่พลตายมากทิ้งค่ายบ้านด่านหนีลงมาพักอยู่ค่ายเนินทุ่งนา พวกฮ่อยกตามลงไปได้สู้กันถึงตลุมบอน พวกเจ้าเมืองทั้ง ๕ สู้ฝีมือฮ่อไม่ได้ หนีลงมาตั้งค่ายอยู่สบวงแขวงเมืองเชียงค้อ พวกฮ่อก็ไล่ติดตามมาถึงได้รบกันตั้งแต่เช้าจนเวลาเพน ถอยเข้าค่ายรักษามั่นไว้ แล้วทราบว่าเจ้าเมืองญวนให้กวานเล่งบิงเปนข้าหลวงยกพลขึ้นมาขัดทัพอยู่เมืองฉิม ก็ทิ้งค่ายสบวงหนีลงไปหากวานเล่งบิงที่เมืองฉิม ไปแจ้งความให้กวานเล่งบิงซึ่งได้สู้รบกับพวกฮ่อให้กวานเล่งบิงฟังทุกประการ แต่เจ้าเมืองสบแอดเจ้าเมืองฮุงหนีไปอยู่เมืองละแนงหนองกาง พวกฮ่อสามบิวเก็บได้สิ่งของเมืองสบแอด ปืนหามแล่น ๒ กระบอก ปืนคาบศิลา ๒๐ กระบอก ม้า ๖ ตัว วัว ๖๐ ตัว กระบือ ๔๐๐ เศษ เมืองเชียงต้อปืนใหญ่ ๒ กำ ยาว ๒ ศอกคืบบอกหนึ่ง กระบือ ๓๐๐ ตัว วัว ๘๐ ตัว ม้า ๔๐ ตัว เมืองฮัง กระบือ ๑๖ ตัว วัว ๔๐ ตัว ม้า ๑๓ ม้า คนตายในที่รบเมืองเชียงต้อ ๓๗ คน เมือง
สบแอด ๑๒ คน เมืองฮัง ๑๓ คน รวม ๓ เมือง ปืนใหญ่ ๓ กระบอก ปืนเล็ก ๒๐ กระบอก กระบือ ๘๖๐ ตัว ม้า ๕๙ ม้า วัว ๕๖ ตัว กับทรัพย์สิ่งของเปนอันมาก แล้วพวกฮ่อสามบิวตีเมืองหัวพันทั้ง ๖ ได้แล้ว จึงแยกกองทัพออกเปน ๓ กอง ตั้งให้กวานตาหยัดไปตั้ง
 
 
ค่ายอยู่เมืองฮังค่ายหนึ่ง มีคนรักษาค่าย ๑๐๐ คนตำบลหนึ่ง ตั้งกวาน สับสุยไปตั้งค่ายอยู่บ้านตราง คุมคน ๑๐๐ คนเปนนายตำบลหนึ่ง ค่าย บ้านสบสานแขวงเมืองเชียงต้อ แล้ว ๓ ปี คุมจีนธงลาย ๑๐๐๐ คนยก ไปเมืองพวน ท้าวเพี้ยแลราษฎรที่ไม่ได้หนีพวกฮ่อไปนั้น ขอยอม
เข้าทู้เปนบ่าวฮ่อ พวกฮ่อคิดเงินค่าทู้เมืองเชียงต้อ ๔๐ ขัน เมืองสบแอด ๖๐ ขัน เมืองฮัง ๓๐ ขัน รวมเปน ๑๓๐ ขัน คิดเปนเงินตรา ๓๙ ชั่ง สามบิวก็ตั้งค่ายสามตำบลได้ปีเศษ
ครั้นอยู่มาณะปีมะโรงโทศก ๑๒๔๒ เจ้าเมืองญวนแต่งให้องเถือง เปนแม่ทัพกับกวานเล่งบิง กวานลิงมวก กวานกด คุมทหารญวน ๘๐๐ คน นุ่งกางเกงแดงใส่เสื้อแดงหอกดาบครบมือ มีปืนใหญ่ ๖ กระบอก ปืนหามแล่น ๕๐ กระบอก แล้วเกณฑ์คนหัวเมืองขึ้นญวนขึ้นม้อยขึ้นผู้ไทบ้าง นุ่งกางเกงแดงเสื้อแดง นุ่งกางเกงขาวเสื้อขาวบ้าง รวมเปนคน ๒๘๐๐ คน เดินกองทัพขึ้นมาตามน้ำมาครั้นณะวันเดือน ๕ ขึ้น ๙ ค่ำ ปีมะโรงโทศก ๑๒๔๒ ถึงเมืองเชียงต้อ องเถืองแม่ทัพจึงตั้งค่ายลงที่เมืองฮัง ใกล้กับค่ายฮ่อกวานตาหยัด ๑๐ เส้น ค่ายกว้าง ๔๐ วา ยาว ๔๐ วา ค่ายหนึ่ง มีทหารรักษาค่าย ๑๐๐๐ คน กวานเล่งบิง กวานลิงน๊อก ตั้งค่ายลงคนละค่ายเคียงกับ ค่ายองเถือง กวานเล่งบิงมีคน ๓๐๐ กวานเล่งน๊อกมีคน ๖๐๐ กวานต๊กค่ายหนึ่งมีคน ๒๖๐ องกวานยองเจ้าเมืองจุยาเปนผู้ไทกองน่า ผู้หนึ่งมีคน ๒๖๐ คน กวานค้องเจ้าเมีองค้องค่ายหนึ่งมีคน ๑๖๐ คน
 
 
เจ้าเมืองจีผู้ไทค่ายหนึ่งมีคน ๑๖๐ คน เจ้าเมืองจือผู้ไทค่ายหนึ่งมีคน ๑๖๐ คน เจ้าเมืองลี เจ้าเมืองลาด เจ้าเมืองฟุง สามเมืองค่ายหนึ่ง มีคน ๓๐๐ คน เจ้าเมืองเชียงค้อ เจ้าเมืองสบแอด เจ้าเมืองบัว เจ้า เมืองฮัง สี่เมืองค่ายหนึ่งมีคน ๓๐๐ คน แต่พวกกองทัพองเถืองตั้ง ค่ายรายเรียงกันไป ๖ วันจึงแล้วพร้อมกัน ครั้นตั้งค่ายแล้วก็ยกออกระดมตีค่ายกวานตาหยัด ๆ หาออกรบนอกค่ายไม่ รบสู้อยู่แต่ในค่ายเพราะคนน้อย กวานกอยิบ กวานกอสุยก็หาได้ไปช่วยไม่ กวานตาหยัด รักษาค่ายมั่นไว้ได้สามวัน พวกฮ่อเมืองไอชื่อวังไตคุมคนลงมา ๖๐ คน เข้าช่วยกวานตาหยัด ๆ กับวังไตยกคนออกรบนอกค่าย ต่างคนต่างยิงปืนสู้รบกันอยู่ได้ ๒ วัน คนตายด้วยกันทั้งสองฝ่ายเปนอันมาก พวก องเถืองแม่ทัพหมดกระสุนดินดำหามีจะสู้รบกับฮ่อไม่ ต่างคนต่างแยกกันไป ท้าวพลกับเพี้ยคำเจ้าเมืองสบแอด กับท้าวเพี้ยแลราษฎร ๕๐ ครัวหนีไปอยู่เมืองสแนนหนองกาง องเถืองก็แตกหนีไปทางเมืองสิง พวกฮ่อเก็บได้ปืนหามแล่น ๖ บอกกับเครื่องสาตราวุธหลายสิ่ง พวกฮ่อก็ไล่ติดตามองเถืองไปถึงเมืองสิงก็หาทันไม่พากันกลับมาค่าย แต่เจ้าเมืองเชียงค้อกับท้าวเพี้ยราษฎรประมาณ ๕๐,๖๐ ครัวหนีฮ่อไปอยู่บ้านหาดจางแขวงเมืองหลวงพระบาง แล้วเจ้าเมืองสบแอดพาครอบครัวยกออกจากเมืองสแนนไปอยู่กับแสนหลวงแขวง เมืองซึม พวกท้าวแลราษฎรเมืองเชียงค้อ เมืองฮัง เมืองสบแอด กับท้าวพลอดเสบียงอาหารหามีไปกินไม่ พากันกลับมาเข้ายอมทู้ฮ่อ
 
 
หมด พวกฮ่อกับราษฎรออกทำมาหากินตามเดิม องเถืองกวานเล่งบิง องเถืองกวานริงน๊อก องเถืองกวานต๊ก ซึ่งแตกหนีฮ่อไปนั้น เจ้าเมืองญวนเอาตัวไปใส่คุกไว้หมด
ครั้นอยู่นานมาท้าวพลเห็นกายเม้าทหารเมืองญวนคุมพลขึ้นมา ๗๐๐ คน มาตั้งค่ายอยู่เมืองเชียงค้อ พวกท้าวเพี้ยเมืองสบแอด รู้ว่ากายเม้าทหารเมืองญวนจะขึ้นมารบพวกฮ่อ จึงมีหนังสือไปถึงเพี้ยคำ เจ้าเมืองสบแอดที่บ้านแสนหลวงแขวงเมืองซึม ให้มาปฤกษาข้อราชการกัน เพี้ยคำเจ้าเมืองสบแอดรู้หนังสือแล้วกลับมาอยู่เมืองสบแอด ไป
ปฤกษาราชการกับกายเม้าทหารญวน กายเม้าทหารญวนตั้งค่ายแล้วได้วันหนึ่ง พวกฮ่อกวานตาหยัดก็ลงไปที่ค่ายกายเม้า ๆ กับกวานตาหยัดสู้รบกันตั้งแต่เช้าจนเวลาค่ำ กายเม้าสู้พวกฮ่อไม่ได้แตกหนีออกจากค่ายไปเมืองสิม พวกฮ่อไล่ติดตามไปถึงเมืองฮัง เห็นไม่ทันก็กลับมาค่าย แล้วท้าวพลทราบความว่าเจ้าราชวงศ์เมืองหลวงพระบางเปนแม่ทัพยกพลขึ้นไปตีค่ายลอลีฮ่อกอไล้ที่เมืองแถง พวกฮ่อ
ลอลีพวกฮ่อกอไล้ออกสู้รบต้านทานกองทัพเจ้าราชวงศ์ได้ ๘ วัน พวกฮ่อลอลีพวกฮ่อกอไล้สู้กองทัพเจ้าราชวงศ์ไม่ได้ พากันแตกหนีออก จากค่ายเดินมาทางเมืองสบดบ เมืองวา เลยเข้าไปตีเมืองซ่อน พระยายอดจอมคำซ่อนไท พระยาสีสุมังซ่อนลาว ช่วยกันออกรบฮ่อลอลีฮ่อกอไล้ ๆ กับพระยายอดจอมคำ พระยาสีสุมังได้สู้รบกันอยู่ถึง ๑๐ วัน รี้พลต่างคนต่างตาย พระยายอดจอมคำ พระยาสีสุมังสู้ฝีมือฮ่อ
 
 
ลอลีฮ่อกอไล้ไม่ได้ พระยาสีสุมังทิ้งเมืองหนีลงไปเมืองหลวงพระบาง พระยายอดจอมคำยกเมืองเข้าทู้ฮ่อ
ฮ่อตั้งค่ายอยู่ในเมืองซ่อนลาวได้ ๕ เดือน แล้วท้าวเม้าเมืองหลวงพระบางยกกองทัพขึ้นมามีคน ๕๐๐/คนเศษเข้าตีค่ายฮ่อที่เมืองซ่อน พวกฮ่อกับท้าวเม้าได้สู้รบกันอยู่ ๓ วัน พวกฮ่อสู้ฝีมือท้าวเม้าไม่ได้แตกหนีพาไพร่พลเดินทางไปเมืองพวน เมืองกูด เมืองเหี้ยมพันลอแล้วเลยยกขึ้นไปตีทุ่งเชียงคำ พวกทุ่งเชียงคำออกสู้รบกับพวกฮ่อธงแดงได้ ๓ วัน สู้พวกฮ่อไม่ได้แล้วยอมเข้าทู้ฮ่อ ฮ่อตั้งค่ายอยู่เชียงคำพักรี้พลได้ ๓ วัน แล้วลงไปตีเวียงคังลาดบวกได้ พวกเวียงคังลาดบวกยอมเข้าทู้ฮ่อ แล้วพวกฮ่อก็ยกกองทัพลงไปตีเมืองเชียงขวางต่อไป เจ้าเมืองเชียงขวางออกรบต้านทานกำลังพวกฮ่อได้เดือนเศษ เจ้าเมืองเชียงขวางเสียทีตายในที่รบ พวกท้าวเพี้ยแลราษฎรแตกหนีไปทางท่าโทมไปทางหนองคาย เมืองหลวงพระบางบ้าง
ที่เหลืออยู่ยอมเข้าทู้ฮ่อสามกอปิว ฮ่อสามกอปิวก็ตั้งค่ายพักอยู่ที่เมืองเชียงขวางได้ ๑๕ วัน แล้วสามกอปิวก็ยกกองทัพตามลงไปตีบ้าน
ท่าโทม ท่าเรือ พวกบ้านท่าโทมท่าเรือก็แตกหนีไป พวกฮ่อสาม กอปิวเก็บทรัพย์สิ่งของทองเงินม้าแลวัวควายได้เปนอันมาก แล้วยกกองทัพกลับมาอยู่ค่ายทุ่งเชียงคำ
ครั้นอยู่มาสามกอปิวจึงมีหนังสือขึ้นไปขอกองทัพองวันฮ่อธงลาย อยู่เมืองตึก องวันได้จัดคนได้ ๑๐๐๐ คนเศษ องวันยกเปนกระบวน
 
ทัพมาหาสามกอปิวที่ค่ายทุ่งเชียงคำ องวันกับสามกอปิวปฤกษาพร้อมกันแล้วสามกอปิวจึงให้องวันกับกวานลานเปนนายคุมพล ๑๐๐๐ เศษ ยกกองทัพลงไปตีเมืองเวียงจันท์ พวกเมืองเวียงจันท์หาทันรู้ตัวว่าพวก ฮ่อมามากน้อยเท่าใดไม่ ก็พากันแตกตื่นทิ้งบ้านเรือนเก็บได้ครอบครัวบ้างคนละเล็กละน้อยหนีลงไปทางเมืองหนองคายบ้าง ยอมเข้าทู้ฮ่อบ้าง แล้วพวกฮ่อองวันกับกวานลานเอาไฟเผาบ้านเรือนพวกราษฎรเสียหลาย ตำบล แล้วองวันกวานลานเข้าตั้งค่ายอยู่ในเมืองเวียงจันท์ ครั้นอยู่มาประมาณสามสี่เดือน พระยามหาอำมาตย์ ( ชื่น กัลยาณมิตร ) เปนแม่ทัพคุมทหารกรุงเทพ ฯ ขึ้นมาฆ่าฮ่อที่ตั้งค่ายอยู่เมืองเวียงจันท์ ตาย ๑๐๐๐ คนเศษ หนีไปได้ ๓ คน ชื่อกอยี่ ชื่อซู ชื่อเจือง ๓ คน กลับ มาอยู่กับสามกอปิวที่ทุ่งเชียงคำ เมื่อปีกุญสัปตศก ๑๒๓๗ (พ.ศ. ๒๔๑๘ ) ท่านพระยาพิไชย (ดิศ) ยกกองทัพขึ้นไปตีฮ่อสามกอปิวที่ทุ่งเชียงคำท่านพระยาพิไชยกับสามกอปิวได้สู้รบกันอยู่หลายเดือน พวกท่านพระยา พิไชยตาย ๑๑ คน พวกฮ่อตายเปนอันมาก พวกฮ่อสามกอปิวสู้ฝีมือพวกกองทัพท่านพระยาพิไชยไม่ได้ ทิ้งค่ายหนีไปตั้งค่ายอยู่เมืองแวน พวกฮ่อที่ตั้งค่ายอยู่สามตำบล คือเมืองฮัง เมืองสบสาน บ้าน
ตราง รู้ว่าพวกฮ่อสามกอปิวแตกหนีท่านพระยาพิไชยมา จึงปฤกษากันว่า สามกอปิวยกกองทัพไปตีค่ายเมืองพวนทุ่งเชียงคำ แล้วรักษาค่ายไว้ก็ไม่ได้ กลับแตกหนีท่านพระยาพิไชยมาอยู่เมืองแวนในแผ่นดินหัวพันทั้งหกที่กวานอยิบตีได้ นานไปท่านพระยาพิไชยรู้เข้าก็จะยก
 
 
กองทัพขึ้นมาตีกวานกอปิวในแผ่นดินเมืองหัวพันทั้งหก พวกกวานกอยิบ ก็จะได้ความลำบาก กวานกอยิบปฤกษากับไพร่พลเสร็จแล้ว จึงจัดคนได้ ๑๐๐๐ เศษ ยกไปตีสามกอปิวที่เมืองแวน สามกอปิวมีคนอยู่ ๘๐๐ เศษ ในเวลากลางคืนหาทันรู้ตัวไม่ กวานกอยิบแยกทหารออกระดมตีค่ายสามกอปิว สามกอปิวแตกพาไพร่พลได้ ๓๐๐ คนเศษหนีไปอยู่ทุ่งเชียงคำบ้าง น้ำสิ่มบ้าง แต่กวานกอยี่ กอวาง กอซู กอเจือง กับไพร่พล ๒๐๐ คนเศษยอมเข้าทู้กวานกอยิบ ๆ ก็พากวานกอยี่ กอวาง กอซู กอเจือง กับไพร่พลยกกองทัพกลับไปค่ายบ้านสบสาน แล้วกวานกอยิบจึงให้กวานกอยี่ กอวาง กอซู กอเจือง ไปตั้งค่ายอยู่เมืองเชียงเขือง แล้วกวานกอยิบจึงยกกองทัพไปอยู่เมืองลาค่ายเดิม
ครั้นอยู่นานมาได้ ๒ ปีเศษ เจ้าเมืองไลไปจ้างเอาฮ่อธงดำเมืองเล่ากาย ๑๐๐๐ คนยกลงมาตีค่ายกวานกอยิบเมืองลา แล้วจึงแต่งให้ท้าวสามบุตรเจ้าเมืองไล กายตงเจ้าเมืองแถง แสนจงเจ้าเมืองไล ๓ นายคุมพล ๖๐๐ คนยกล้อมค่าย กอยี่ กอวาง กอซู กอเจือง
ที่เชียงเขืองแขวงเมืองฮุง แล้วพวกท้าวสามกายตง สามแสนจงร้องประกาศบอกแก่ราษฎรเมืองฮุงเมืองแอดว่า ล้อมค่ายกวานกอยี่ กอวาง กอซู กอเจือง ไว้แล้วจะฆ่าเสียให้หมดอย่าให้ราษฎรมีความกลัวตกใจพวกอ้ายฮ่อเลย ให้พวกราษฎรออกทำมาหากินตามภูมิลำเนาของราษฎรเถิด พวกราษฎรเมืองฮุงเมืองสบแอดออกทำไร่นา แล้ว
 
 
๑๐
กวานกอยี่ กอวาง กอซู กอเจือง ออกรบสู้กับท้าวสามกายตง ท้าว สามแสนจงถึง ๓ เดือนยังไม่แพ้ชนะกัน ท้าวสามกายตง ท้าวสามแสนจงหมดเสบียงหาพอเลี้ยงไพร่พลไม่ ก็เลิกทัพถอยมาตั้งค่ายอยู่เมืองวา กวานกอยี่เห็นกองทัพพวกท้าวสามยกถอยไปแล้ว มีความโกรธพวกเมืองสบแอดว่าไปเข้ากับพวกท้าวสามเมืองไล่จับเอาตัวราษฎร เมืองสบแอดได้ ๓ คน เอาไปฆ่าเสีย ที่ไม่ได้ฆ่านั้นริบเอาเงินทอง
ไปเปนอันมาก เจ้าเมืองสบแอดกลัวพวกฮ่อจะฆ่า หนีไปอยู่เมืองลานแล้วบิดามารดาท้าวพลยกครอบครัวพาน้องสาวท้าวพลหนีไปอยู่ที่ห้วยจำแขวงเมืองสบแอด กวานกอยี่รู้จึงไปจับเอาตัวอำแดงแก้วน้องสาวท้าวพลไปเปนภรรยาอยู่ที่ค่ายเชียงเขือง แล้วท้าวสามกายตง ท้าวสามแสนจงซึ่งถอยไปตั้งค่ายอยู่เมืองวานั้นได้ ๓ เดือนก็หาได้ยกลงมารบกับกวานกอยี่ไม่ แล้วก็เลิกกองทัพกลับไปหาเจ้าเมืองไลที่ค่ายเมืองลาช่วยเจ้าเมืองไลรบกวานกอยิบ ๆ กับเจ้าเมืองไลรบกันอยู่ได้ปีเศษยังหาแพ้ชนะกันไม่ เจ้าเมืองไลจึงมีหนังสือขึ้นไปขอกองทัพพวกธงดำเจ้าเมืองเล่ากาย ๆ จึงได้จัดพล ๘๐๐ คน กับธงยี่ห้อของเมืองเล่ากายมอบให้ปักเปงเก๊าเปนแม่ทัพยกขึ้นไปช่วยเจ้าเมืองไล กวานกอยิบรู้
ว่าพวกธงดำเจ้าเมืองเล่ากาย แต่งให้ปักเปงเก๊าเปนแม่ทัพ มีธงยี่ห้อของเมืองเล่ากายปักมาเปนสำคัญ กวานกอยิบมีความกลัว จึงออกไปคำนับรับกองทัพปักเปงเก๊าเข้ามาในค่าย ปักเปงเก๊าจึงว่ากับกวานกอยิบว่า เจ้ากรุงจีนมีหนังสือให้เจ้าเมืองเล่ากายไปจับเอาตัวพวกฮ่อ
 
๑๑
ที่เข้าไปรบอาณาเขตรเมืองลาวให้หมด ถ้าไม่ได้ตัวพวกฮ่อไปจะทำโทษเจ้าเมืองเล่ากาย ๆ จึงใช้ให้ปักเปงเก๊ามาเอาตัวกวานกอยิบกับไพร่พลไปเมืองเล่ากาย กวานกอยิบกับไพร่พลก็ยอมไป กวานกอยี่ กอวาง กอซู กอเจือง ที่ตั้งค่ายอยู่เชียงเขืองนั้น รู้ว่าปักเปงเก๊าเมืองเล่ากายขึ้นมาเอาตัวกวานกอยิบกับกวานกอยี่ กอวาง กอซู กอเจือง ไปเมืองเล่ากาย มีความกลัวพากันยกครอบครัวไพร่พล ๒๐๐ คนเศษ หนีไปอยู่กับพระยาข่าเจืองที่เมืองเปินได้ปีหนึ่ง เจ้าเมืองแอดรู้ว่ากวานกอยี่หนีไปอยู่กับพระยาพระที่เมืองเปินเจ้าเมืองแอดก็พาครอบครัวกลับ เข้ามาอยู่เมืองแอดตามเดิม แล้วกวานกอยี่ กอวาง กอซู กอเจืองจึงไปปฤกษากับพระยาพระว่าให้พระยาพระไปช่วยกวานกอยี่รบพวกเมืองสบแอดได้แล้ว กวานกอยี่ก็จะไปช่วยพระยาพระรบเมืองซ่อน จะให้พระยาพระอยู่เมืองซ่อน พระยาพระกับกวานกอยี่ปฤกษากันตกลงพร้อมแล้ว พระยาพระกับกวานกอยี่ กอวาง กอซู กอเจือง คุมไพร่พลทั้งฮ่อแลข่าเจือง๑๖๐ คนเศษยกเข้าตีเมืองสบแอด เจ้าเมืองสบแอด กับท้าวพลแลราษฎร๑๐๐คนเศษหนีไปอยู่เมืองหลวงพระบาง ท้าวเพี้ย แลราษฎรที่ไม่ได้หนีไปนั้นยอมเข้าทู้กวานกอยี่หมด กวานกอยี่ กอวาง กอซู กอเจือง พระยาพระเข้าตั้งค่ายอยู่บ้านนาเพียงแขวงเมืองสบแอดปักเปงเก๊ารู้ว่ากวานกอยี่ กอวาง กอซู กอเจือง หนีไปหาได้ตัวไม่ จึงเอาตัวกวานกอยิบกับไพร่พล ๒๐๐๐ คนเศษไปเมืองเล่ากาย เจ้าเมืองไลยกกองทัพไปเมืองไล พวกไพร่พลกวานกอยิบที่ไปอยู่เมือง
 
๑๒
เล่ากายมาทีละ ๑๐ คนบ้าง ทีละ ๒๐ คนบ้าง มารวบรวมกันเข้าได้ คน ๑๐๐ เศษ กวานกอต้ายเปนนายคุมพล ๑๐๐ เศษยกไปตั้งค่ายอยู่ เมืองสบคบได้ปีเศษ เจ้าเมืองเล่ากายรู้ว่าพวกกอต้ายหนีมาอยู่เมืองสบคบ กวานกอยี่ กอวาง กอซู กอเจือง หนีไปอยู่เมืองสบแอด จึง แต่งให้องบาฮ่อธงดำคุมพล ๓๐๐ คน กับเจ้าเมืองไลคุมพล ๑๖๐ คนขึ้นมาจับตัวกวานกอต้าย กวานกอยี่ กอวาง กอซู กอเจือง ๆ รู้ตัวเข้าว่าองบาจะมาจับ มีความกลัวหนีไปสมทบอยู่กับกวานกอต้าย แล้วก็พากันหนีองบาไปอยู่ห้วยสุย แต่พระยาพระหนีไปอยู่กับกายตงเมืองลาน องบากับเจ้าเมืองไลตามไปถึงหว้ยสุย กวานกอยี่ กอวาง กอซู กอเจือง กอต้าย หนีจากห้วยสุยไปอยู่เมืองซ่อน เจ้าเมืองซ่อนกับราษฎรหาสู้พวกฮ่อไม่ ก็พาครอบครัวยกหนีเข้าป่าไปหมด กวานกอยี่ กวานกอต้ายก็เข้าตั้งค่ายอยู่เมืองซ่อนได้ ๑๕ วัน ค่ายหาทันแล้วไม่องบากับเจ้าเมืองไลก็ยกตามไปถึง กวานกอยี่ กวานกอต้าย จวนตัวออกสู้รบกับองบาแลเจ้าเมืองไล รี้พลต่างคนต่างตาย แต่พวกกวานกอยี่ กวานกอต้ายตายมาก กวานกอยี่ กวานกอต้ายสู้ฝีมือองบากับเจ้าเมืองไลไม่ได้ แตกหนีพาไพร่พลหนีไปอยู่ทุ่งเชียงคำ แล้วพระยาพระเอาเงิน ๓ ขันหกขีด คิดเปนเงิน ๑ ชั่ง ๒ ตำลึง กับนอศีร์ษะหนึ่งให้กายตงเจ้าเมืองลานไปขอทู้กับองบา ๆ ก็ยอมรับทู้ แล้วพระยาพระมาตั้งบ้านเรือนอยู่ที่ห้วยหวนแขวงเมืองลาน แล้วองบากับเจ้าเมืองไลก็ยกกองทัพมาตั้งค่ายอยู่เมืองวา เจ้าเมืองซ่อนแลราษฎรเห็นกองทัพ
 
 
๑๓
ทั้ง ๒ กองยกไปแล้ว ก็พากันเข้าอยู่บ้านเมืองตามเดิม แล้วองบาจึงใช้ ให้กอหวายไปขอเงินค่าลูกดินกับเจ้าเมืองซ่อน ๆ ให้เงินตรากับกอหวายไป ๕ ชั่ง แล้วองบาก็ยกกองทัพไปตั้งอยู่ที่บ้านท่าขวา เจ้าเมืองไลก็ยกกลับไปเมืองไลแต่ข้าพเจ้าทราบความว่ากวานกอบิวที่ตั้งค่ายอยู่ทุ่งเชียงคำนั้นตาย ไกวซรึงฮ่อเปนนายขึ้น เรียกกันว่ากวานหลวงคุมไพร่พลอยู่ทุ่งเชียงคำ กวานหลวงกับกอยี่กอต้ายเกิดวิวาทกันขึ้น กวานหลวงก็หาให้กอยี่ กอต้าย อยู่ที่ค่ายทุ่งเชียงคำไม่ กอต้ายก็รวบรวมคนได้ ๕๐ คน ยกมาตั้งค่ายอยู่ที่บ้านนาปาได้ ๖ เดือน แล้วกวานกอยี่กับอึงกอตามมาภายหลังมีพล ๗๐ คนเศษยกไปเมืองอ้อ จึง ปฤกษากันกับพระยาว่านชวนกันไปตีเมืองทราง พวกเมืองทรางหาทัน
รู้ตัวไม่ก็แตก เจ้าเมืองทรางกับราษฎรหนีไปอยู่เมืองซ่อน พวกแม้วที่อยู่ในแขวงเมืองทรางก็ยอมเข้าทู้กับกวานกอยี่ ๆ กับอึงกอพระยาว่านเข้า ตั้งค่ายอยู่ในเมืองทราง แล้วกอวางกอเจืองที่อยู่กับกวานหลวงค่ายทุ่งเชียงคำนั้น ยกไปตีเมืองยู้ เจ้าเมืองยู้แลราษฎรแตกหนีเข้าป่าหมด กอวาง กอซู กอเจือง ก็เก็บเอาทรัพย์สิ่งของวัวควายกลับมายังทุ่งเชียง คำ กวานหลวงทุ่งเชียงคำก็หายอมให้กอวาง กอซู กอเจือง อยู่ที่ค่ายนั้นไม่ กอวาง กอซู กอเจือง จึงยกไปตั้งค่ายอยู่ที่ห้วยทราย กอต้ายซึ่งตั้งค่ายอยู่บ้านนาป่านั้นรู้ว่ากวานกอยี่ตีเมืองทรางได้แล้ว จึงขึ้นไปชวนกวานกอยี่ให้ยกไปอยู่ที่ค่ายบ้านป่า กอยี่กับอึงกอก็ยกมาอยู่ค่ายบ้านนาป่า แต่พระยาว่านยังอยู่เมืองทราง กอยี่จึงว่ากับกอต้ายว่า
 
 
๑๔
กอต้ายเปนฮ้อธงดำ กอยี่เปนฮ่อธงเหลืองจะอยู่ด้วยกันนั้นไม่ได้ กอยี่จึงยกมาตั้งค่ายอยู่ที่บ้านได กอยี่จึงตั้งให้กอรันเปนที่ซือแย้นายทหาร แต่อึงกอนั้นหามาอยู่กับกอยี่ไม่ อยู่กับกอต้ายที่ค่ายนาปา แล้วอึงกอมาได้เมียอยู่ที่เมืองสบแอดกอยี่จึงว่านานไปอึงกอจะคบคิดกับกอต้าย มาฆ่ากอยี่เสีย กอยี่จึงลอบไปฆ่าอึงกอตายที่เมืองสบแอด แล้วองบาถ้าขวารู้ว่ากอยี่ กอต้าย กลับมาจากทุ่งเชียงคำ มาตั้งค่ายอยู่ที่บ้านได บ้านนาปา จึงกวานซือแย้ฮ่อธงดำมาเอาตัวกอยี่ กอต้ายไป กอยี่ กอต้ายจึงว่ากับกวานซือแย้ว่า ตีได้เมืองหัวพันทั้งหกยอมเข้าทู้หมดแล้ว กอยี่ กอต้ายขอยอมตัวเปนบ่าว จะช่วยดูแลเมืองหัวพันทั้งหกให้องบา ขออย่าให้ไปเมืองเล่ากายเลย กวานซือแย้จึงเอาความไปแจ้งกับองบา ๆ ก็ยอมให้กอยี่ กอต้ายอยู่ องบาจึงว่าถ้าเช่นนั้นให้เปลี่ยนแซ่ธงเหลืองเปนธงดำให้หมด องบาจึงเอาธงดำให้กวานกอยี่ กอต้ายเปนสำคัญคนละธง องบาตั้งแต่ให้ซือแย้เปนนายเล่าแย้ จึงยกมาเข้าอยู่ค่ายกอต้ายที่บ้านนาปา แล้วองบาจึงมีหนังสือไปยังเจ้าเมืองเล่ากายฉบับหนึ่ง ใจความว่ากอยี่ กอต้าย ตีได้เมืองหัวพันทั้งหก พวกราษฎรขอให้กวานกอยี่อยู่รักษาบ้านเมือง เจ้าเมืองเล่ากายจึงมีหนังสือมาถึงองบา ให้องบารักษาเมืองสิบสองจุไทย ให้กอยี่กับซือแย้รักษาเมืองหัวพันทั้งหก แต่เงินที่ทู้นั้นมอบให้องบา
กอยี่ กอต้าย ตั้งค่ายอยู่ที่บ้านไดบ้านนาปาได้ปีเศษ ท้าวโต้บุตรเจ้าเมืองเชียงค้อจึงรวมคนเมืองสิบสบแอดเมืองเชียงค้อ กับไพร่ราษฎร
 
๑๕
ที่แตกหนีไปอยู่ตามป่าได้คน ๓๐๐ เศษ ยกเข้ามาตั้งค่ายอยู่ที่บ้านศพมอญแขวงเมืองเชียงค้อ แล้วจึงแต่งคนไปพูดกับกวานซือแย้ฮ่อธงดำที่ค่ายบ้านนาปาว่า ท้าวโต้ยกกองทัพมาตั้งนี้ไม่ใช่จะมารบกับกวานซือแย้จะมารบกวานกอยี่ฮ่อธงเหลืองที่ค่ายบ้านได ขออย่าให้กวานซือแย้มาช่วยกวานกอยี่ กวานซือแย้จึงตอบว่ารบเถิดไม่ไปช่วยดอก ท้าวโต้
ตั้งค่ายเสร็จแล้ว กวานกอยี่รู้ว่าท้าวโต้ยกกองทัพจะมาตีจึงจัดพลได้ ๕๐ คน ยกลงไปตั้งค่ายที่บ้านโสดใกล้กับค่ายท้าวโต้ ๓ เส้นเศษ
ท้าวโต้กับกอยี่ได้สู้รบกันอยู่ ๓ วัน กอยี่ก็แตกหนีมาตั้งค่ายอยู่ที่เมืองสบแอดได้วันหนึ่ง ก็หาเห็นกองทัพพวกท้าวโต้ยกตามขึ้นมาไม่ กอยี่จึงยกลงไปรบกับท้าวโต้อีก ท้าวโต้แตกถอยลงไปตั้งอยู่เมืองฮัง จึงเกลี้ยกล่อมเอาคนเมืองโสย เมืองพูน เมืองสิม เมืองพุง ได้คน ๘๐๐ คนเศษ ยกเข้ามาตั้งค่ายที่เมืองสบแอด กวานกอยี่เห็นท้าวโต้ยกพลเข้ามามาก จึงยกหนีไปอยู่ค่ายบ้านนาปากับซือแย้ แล้วจึงพูดกับซือแย้ว่าขอให้ซือแย้ช่วย ถ้าไม่ช่วยกอยี่แพ้ท้าวโต้ ๆ ก็จะตีค่ายกวานซือแย้ ๆ กับกอยี่ปฤกษาพร้อมกันแล้ว ก็ยกกองทัพมาถึงทุ่งนาน่าเมืองสบแอดฟากตวันตก ท้าวโต้ก็ยกพลข้ามน้ำแอดไปรบกวานซือแย้กวานกอยี่ที่ทุ่งนา รบกันอยู่ได้ ๔ วัน พวกกวานซือแย้กวานกอยี่รวนเรจวนจะแตกอยู่แล้ว พอท้าวโต้ถูกกระสุนปืนฮ่อที่หน้าผากไรผมแต่หาเข้าไม่ พวกบ่าวก็หามเอาท้าวโต้ลงไปเมืองเชียงค้อ ท้าวโต้ก็ถึงแก่กรรม พวกไพร่พลในกองทัพท้าวโต้ก็แตกกระจัดกระจาย
 
 
๑๖
ไป หาได้สู้รบกับพวกฮ่อต่อไปไม่ พวกฮ่อก็ยกกลับมาอยู่ที่ค่ายบ้านไดตามเดิม
ต่อมาจนถึงปีจออัฐศก๑๒๔๗ (คือกองทัพเจ้าพระยาสุรศักดิ์ ฯ) กองทัพกรุงเทพ ฯ ยกขึ้นมาปราบปรามอ้ายฮ่อต่อสู้ทานกำลังมิได้ ซือแย้กวานกอยี่ กวานกอต้าย แลองบาถ้าขวายอมเข้าหากองทัพ เปนสิ้นโจรผู้ร้ายในครั้งนี้ สิ้นคำให้การท้าวพลเมืองสบแอดแต่เท่านี้ ะ
 
 
 
 
 
 
 
 
 
ครั้นล่วงมาเมื่อปีวอกจัตวาศก ๑๒๓๔ (พ.ศ.๒๔๑๕) มีอ้ายจีนฮ่อ พวกหนึ่งใช้ธงลาย นายจีนฮ่อชื่อสามบิวคน ๑ ชื่อยิบไตคน ๑ มีกำลังประมาณ ๓๐๐๐ คน ยกเข้ามาตีเมืองสิบสองจุไทยแตกทั้งสิ้น ครั้นแล้วฮ่อจึงปฤกษากันแยกย้ายเที่ยวตั้งอยู่หลายตำบล เพราะขัดสนด้วยเสบียงอาหาร แล้วจีนฮ่อชื่อลอลีจึงแยกกองทัพยกไปตีกวานฟูข้าหลวงมาจากเมืองญวนซึ่งไปกำกับอยู่เมืองแถง กวานฟูกับลอลีได้สู้รบกันอยู่ ๓ เวลา กวานฟูสู้ไม่ได้แตกหนีไปเมืองญวน เจ้าเมืองแถงยอมเข้าทู้จีนฮ่อก็ฆ่าเสีย แล้วยกพลเข้าตั้งค่ายอยู่ในเมืองแถง กวานกอยิบใตตีได้เมืองมวก เมืองลา แล้วยกพลขึ้นไปค่ายอยู่เมืองลา เจ้าเมืองมวกเจ้าเมืองลากลับแขงเมืองขึ้นอีก กวานกอยิบใตยกพลลงมาจะเข้าตีเมืองมวกเมืองลา เมืองมวกเมืองลามีคนอยู่ ๓๐๐ คน เห็นจะสู้กวานกอยิบใตไม่ได้ จึงมีหนังสือลงมาขอกองทัพเมืองฮุงขึ้นไปช่วย เจ้าเมืองฮุงจัดได้คน ๓๐๐ คน แต่งให้เจียวดา เพี้ยฟูกเปนนายคุมคน ๓๐๐ คน ขึ้นไปช่วยเจ้าเมืองมวกเมืองลา ๆ ได้คนเมืองฮุง ๓๐๐ คน รวมเปน ๖๐๐ ด้วยกันยกขึ้นไปตั้งค่ายอยู่บ้านพิงแขวงเมืองมวก กวานกอยิบใตก็ยกเข้าตีค่ายเจ้าเมืองมวก ๆ กับกวานกอยิบใตสู้รบกันอยู่ได้ ๓ เวลา กวานกอยิบใตอ่อนกำลังลงถอยกองทัพกลับไปค่ายเมืองลา องตีเจ้าเมืองมวกยกพลขึ้นไปตั้งค่ายอยู่บ้านกับแขวงเมืองมวกกับเมืองลาต่อกัน กวานกอยิบก็ออกรบกับเมืองมวกอยู่หลายวันยังยังหาแพ้ชนะกันไม่ ต่างคนต่างรักษาค่ายมั่นไว้ได้ ๒ ปี เจ้าเมืองมวกถอยกำลังลงล่าทัพมาต้อนเอาครอบครัวที่เมืองมวกมาพักอยู่เมืองสบแอด แล้วเพี้ยคำเจ้าเมืองสบแอดกับเพี้ยเกียนเจ้าเมืองฮุงกับเพี้ยท้าวทั้งปวงปฤกษาพร้อมกันแล้ว จัดคนเมืองสบแอด ๓๐๐ คน เมืองฮุง ๓๐๐ คน ยกขึ้นไปตั้งค่ายอยู่บ้านงิ้วแขวงเมืองฮุงได้ ๓ เวลา สามบิวก็ยกพลลงมารบกันตั้งแต่เช้าจนเวลาเที่ยง เจ้าเมืองสบแอดเจ้าเมืองฮุงสู้ฝีมือฮ่อไม่ได้ แตกหนีมาตั้งค่ายอยู่บ้านด่านแขวงเมืองสบแอดกับเมืองฮุงต่อกัน แล้ววงเวียนเจ้าเมืองเชียงค้อ เพี้ยพลเจ้าเมืองฮุงเพี้ยไซเจ้าเมืองบัว รู้ว่าเมืองสบแอดเมืองฮุงแตกพวกฮ่อ หนีมาตั้งค่ายอยู่บ้านด่าน จึงปฤกษาพร้อมกันเกณฑ์คนทั้ง ๓ เมืองได้คน ๙๐๐ คนยกขึ้นไปสมทบกับเจ้าเมืองสบแอดเจ้าเมืองฮุง รวม ๕ เมือง เปนคน ๑๕๐๐ คน แล้วแบ่งคนออก ๕๐๐ ไปตั้งค่ายอยู่บนเนินทุ่งนาค่ายหนึ่ง อยู่ค่ายบ้านด่าน ๑๐๐๐ คน พอฮ่อสามบิวรู้ว่าเจ้าเมืองสบแอดเจ้าเมืองฮุงหนีลงไปตั้งค่ายอยู่บ้านด่านก็ยกกองทัพตามลงมารบ พวกเมืองเชียงค้อ เมืองฮุง เมืองบัว เมืองสบแอด ออกรบกับพวกฮ่อสามบิว อยู่ได้เดือนเศษ เห็นไพร่พลตายมากทิ้งค่ายบ้านด่านหนีลงมาพักอยู่ค่ายเนินทุ่งนา พวกฮ่อยกตามลงไปได้สู้กันถึงตลุมบอน พวกเจ้าเมืองทั้ง ๕ สู้ฝีมือฮ่อไม่ได้ หนีลงมาตั้งค่ายอยู่สบวงแขวงเมืองเชียงค้อ พวกฮ่อก็ไล่ติดตามมาถึงได้รบกันตั้งแต่เช้าจนเวลาเพน ถอยเข้าค่ายรักษามั่นไว้ แล้วทราบว่าเจ้าเมืองญวนให้กวานเล่งบิงเปนข้าหลวงยกพลขึ้นมาขัดทัพอยู่เมืองฉิม ก็ทิ้งค่ายสบวงหนีลงไปหากวานเล่งบิงที่เมืองฉิม ไปแจ้งความให้กวานเล่งบิงซึ่งได้สู้รบกับพวกฮ่อให้กวานเล่งบิงฟังทุกประการ แต่เจ้าเมืองสบแอดเจ้าเมืองฮุงหนีไปอยู่เมืองละแนงหนองกาง พวกฮ่อสามบิวเก็บได้สิ่งของเมืองสบแอด ปืนหามแล่น ๒ กระบอก ปืนคาบศิลา ๒๐ กระบอก ม้า ๖ ตัว วัว ๖๐ ตัว กระบือ ๔๐๐ เศษ เมืองเชียงต้อปืนใหญ่ ๒ กำ ยาว ๒ ศอกคืบบอกหนึ่ง กระบือ ๓๐๐ ตัว วัว ๘๐ ตัว ม้า ๔๐ ตัว เมืองฮัง กระบือ ๑๖ ตัว วัว ๔๐ ตัว ม้า ๑๓ ม้า คนตายในที่รบเมืองเชียงต้อ ๓๗ คน เมืองสบแอด ๑๒ คน เมืองฮัง ๑๓ คน รวม ๓ เมือง ปืนใหญ่ ๓ กระบอก ปืนเล็ก ๒๐ กระบอก กระบือ ๘๖๐ ตัว ม้า ๕๙ ม้า วัว ๕๖ ตัว กับทรัพย์สิ่งของเปนอันมาก แล้วพวกฮ่อสามบิวตีเมืองหัวพันทั้ง ๖ ได้แล้ว จึงแยกกองทัพออกเปน ๓ กอง ตั้งให้กวานตาหยัดไปตั้งค่ายอยู่เมืองฮังค่ายหนึ่ง มีคนรักษาค่าย ๑๐๐ คนตำบลหนึ่ง ตั้งกวาน สับสุยไปตั้งค่ายอยู่บ้านตราง คุมคน ๑๐๐ คนเปนนายตำบลหนึ่ง ค่าย บ้านสบสานแขวงเมืองเชียงต้อ แล้ว ๓ ปี คุมจีนธงลาย ๑๐๐๐ คนยก ไปเมืองพวน ท้าวเพี้ยแลราษฎรที่ไม่ได้หนีพวกฮ่อไปนั้น ขอยอมเข้าทู้เปนบ่าวฮ่อ พวกฮ่อคิดเงินค่าทู้เมืองเชียงต้อ ๔๐ ขัน เมืองสบแอด ๖๐ ขัน เมืองฮัง ๓๐ ขัน รวมเปน ๑๓๐ ขัน คิดเปนเงินตรา ๓๙ ชั่ง สามบิวก็ตั้งค่ายสามตำบลได้ปีเศษ
 
ครั้นอยู่มาณะปีมะโรงโทศก ๑๒๔๒ เจ้าเมืองญวนแต่งให้องเถือง เปนแม่ทัพกับกวานเล่งบิง กวานลิงมวก กวานกด คุมทหารญวน ๘๐๐ คน นุ่งกางเกงแดงใส่เสื้อแดงหอกดาบครบมือ มีปืนใหญ่ ๖ กระบอก ปืนหามแล่น ๕๐ กระบอก แล้วเกณฑ์คนหัวเมืองขึ้นญวนขึ้นม้อยขึ้นผู้ไทบ้าง นุ่งกางเกงแดงเสื้อแดง นุ่งกางเกงขาวเสื้อขาวบ้าง รวมเปนคน ๒๘๐๐ คน เดินกองทัพขึ้นมาตามน้ำมาครั้นณะวันเดือน ๕ ขึ้น ๙ ค่ำ ปีมะโรงโทศก ๑๒๔๒ ถึงเมืองเชียงต้อ องเถืองแม่ทัพจึงตั้งค่ายลงที่เมืองฮัง ใกล้กับค่ายฮ่อกวานตาหยัด ๑๐ เส้น ค่ายกว้าง ๔๐ วา ยาว ๔๐ วา ค่ายหนึ่ง มีทหารรักษาค่าย ๑๐๐๐ คน กวานเล่งบิง กวานลิงน๊อก ตั้งค่ายลงคนละค่ายเคียงกับ ค่ายองเถือง กวานเล่งบิงมีคน ๓๐๐ กวานเล่งน๊อกมีคน ๖๐๐ กวานต๊กค่ายหนึ่งมีคน ๒๖๐ องกวานยองเจ้าเมืองจุยาเปนผู้ไทกองน่า ผู้หนึ่งมีคน ๒๖๐ คน กวานค้องเจ้าเมีองค้องค่ายหนึ่งมีคน ๑๖๐ คน เจ้าเมืองจีผู้ไทค่ายหนึ่งมีคน ๑๖๐ คน เจ้าเมืองจือผู้ไทค่ายหนึ่งมีคน ๑๖๐ คน เจ้าเมืองลี เจ้าเมืองลาด เจ้าเมืองฟุง สามเมืองค่ายหนึ่ง มีคน ๓๐๐ คน เจ้าเมืองเชียงค้อ เจ้าเมืองสบแอด เจ้าเมืองบัว เจ้า เมืองฮัง สี่เมืองค่ายหนึ่งมีคน ๓๐๐ คน แต่พวกกองทัพองเถืองตั้ง ค่ายรายเรียงกันไป ๖ วันจึงแล้วพร้อมกัน ครั้นตั้งค่ายแล้วก็ยกออกระดมตีค่ายกวานตาหยัด ๆ หาออกรบนอกค่ายไม่ รบสู้อยู่แต่ในค่ายเพราะคนน้อย กวานกอยิบ กวานกอสุยก็หาได้ไปช่วยไม่ กวานตาหยัด รักษาค่ายมั่นไว้ได้สามวัน พวกฮ่อเมืองไอชื่อวังไตคุมคนลงมา ๖๐ คน เข้าช่วยกวานตาหยัด ๆ กับวังไตยกคนออกรบนอกค่าย ต่างคนต่างยิงปืนสู้รบกันอยู่ได้ ๒ วัน คนตายด้วยกันทั้งสองฝ่ายเปนอันมาก พวก องเถืองแม่ทัพหมดกระสุนดินดำหามีจะสู้รบกับฮ่อไม่ ต่างคนต่างแยกกันไป ท้าวพลกับเพี้ยคำเจ้าเมืองสบแอด กับท้าวเพี้ยแลราษฎร ๕๐ ครัวหนีไปอยู่เมืองสแนนหนองกาง องเถืองก็แตกหนีไปทางเมืองสิง พวกฮ่อเก็บได้ปืนหามแล่น ๖ บอกกับเครื่องสาตราวุธหลายสิ่ง พวกฮ่อก็ไล่ติดตามองเถืองไปถึงเมืองสิงก็หาทันไม่พากันกลับมาค่าย แต่เจ้าเมืองเชียงค้อกับท้าวเพี้ยราษฎรประมาณ ๕๐,๖๐ ครัวหนีฮ่อไปอยู่บ้านหาดจางแขวงเมืองหลวงพระบาง แล้วเจ้าเมืองสบแอดพาครอบครัวยกออกจากเมืองสแนนไปอยู่กับแสนหลวงแขวง เมืองซึม พวกท้าวแลราษฎรเมืองเชียงค้อ เมืองฮัง เมืองสบแอด กับท้าวพลอดเสบียงอาหารหามีไปกินไม่ พากันกลับมาเข้ายอมทู้ฮ่อหมด พวกฮ่อกับราษฎรออกทำมาหากินตามเดิม องเถืองกวานเล่งบิง องเถืองกวานริงน๊อก องเถืองกวานต๊ก ซึ่งแตกหนีฮ่อไปนั้น เจ้าเมืองญวนเอาตัวไปใส่คุกไว้หมด
 
ครั้นอยู่นานมาท้าวพลเห็นกายเม้าทหารเมืองญวนคุมพลขึ้นมา ๗๐๐ คน มาตั้งค่ายอยู่เมืองเชียงค้อ พวกท้าวเพี้ยเมืองสบแอด รู้ว่ากายเม้าทหารเมืองญวนจะขึ้นมารบพวกฮ่อ จึงมีหนังสือไปถึงเพี้ยคำ เจ้าเมืองสบแอดที่บ้านแสนหลวงแขวงเมืองซึม ให้มาปฤกษาข้อราชการกัน เพี้ยคำเจ้าเมืองสบแอดรู้หนังสือแล้วกลับมาอยู่เมืองสบแอด ไปปฤกษาราชการกับกายเม้าทหารญวน กายเม้าทหารญวนตั้งค่ายแล้วได้วันหนึ่ง พวกฮ่อกวานตาหยัดก็ลงไปที่ค่ายกายเม้า ๆ กับกวานตาหยัดสู้รบกันตั้งแต่เช้าจนเวลาค่ำ กายเม้าสู้พวกฮ่อไม่ได้แตกหนีออกจากค่ายไปเมืองสิม พวกฮ่อไล่ติดตามไปถึงเมืองฮัง เห็นไม่ทันก็กลับมาค่าย แล้วท้าวพลทราบความว่าเจ้าราชวงศ์เมืองหลวงพระบางเปนแม่ทัพยกพลขึ้นไปตีค่ายลอลีฮ่อกอไล้ที่เมืองแถง พวกฮ่อลอลีพวกฮ่อกอไล้ออกสู้รบต้านทานกองทัพเจ้าราชวงศ์ได้ ๘ วัน พวกฮ่อลอลีพวกฮ่อกอไล้สู้กองทัพเจ้าราชวงศ์ไม่ได้ พากันแตกหนีออก จากค่ายเดินมาทางเมืองสบดบ เมืองวา เลยเข้าไปตีเมืองซ่อน พระยายอดจอมคำซ่อนไท พระยาสีสุมังซ่อนลาว ช่วยกันออกรบฮ่อลอลีฮ่อกอไล้ ๆ กับพระยายอดจอมคำ พระยาสีสุมังได้สู้รบกันอยู่ถึง ๑๐ วัน รี้พลต่างคนต่างตาย พระยายอดจอมคำ พระยาสีสุมังสู้ฝีมือฮ่อลอลีฮ่อกอไล้ไม่ได้ พระยาสีสุมังทิ้งเมืองหนีลงไปเมืองหลวงพระบาง พระยายอดจอมคำยกเมืองเข้าทู้ฮ่อ
 
ฮ่อตั้งค่ายอยู่ในเมืองซ่อนลาวได้ ๕ เดือน แล้วท้าวเม้าเมืองหลวงพระบางยกกองทัพขึ้นมามีคน ๕๐๐/คนเศษเข้าตีค่ายฮ่อที่เมืองซ่อน พวกฮ่อกับท้าวเม้าได้สู้รบกันอยู่ ๓ วัน พวกฮ่อสู้ฝีมือท้าวเม้าไม่ได้แตกหนีพาไพร่พลเดินทางไปเมืองพวน เมืองกูด เมืองเหี้ยมพันลอแล้วเลยยกขึ้นไปตีทุ่งเชียงคำ พวกทุ่งเชียงคำออกสู้รบกับพวกฮ่อธงแดงได้ ๓ วัน สู้พวกฮ่อไม่ได้แล้วยอมเข้าทู้ฮ่อ ฮ่อตั้งค่ายอยู่เชียงคำพักรี้พลได้ ๓ วัน แล้วลงไปตีเวียงคังลาดบวกได้ พวกเวียงคังลาดบวกยอมเข้าทู้ฮ่อ แล้วพวกฮ่อก็ยกกองทัพลงไปตีเมืองเชียงขวางต่อไป เจ้าเมืองเชียงขวางออกรบต้านทานกำลังพวกฮ่อได้เดือนเศษ เจ้าเมืองเชียงขวางเสียทีตายในที่รบ พวกท้าวเพี้ยแลราษฎรแตกหนีไปทางท่าโทมไปทางหนองคาย เมืองหลวงพระบางบ้าง ที่เหลืออยู่ยอมเข้าทู้ฮ่อสามกอปิว ฮ่อสามกอปิวก็ตั้งค่ายพักอยู่ที่เมืองเชียงขวางได้ ๑๕ วัน แล้วสามกอปิวก็ยกกองทัพตามลงไปตีบ้านท่าโทม ท่าเรือ พวกบ้านท่าโทมท่าเรือก็แตกหนีไป พวกฮ่อสาม กอปิวเก็บทรัพย์สิ่งของทองเงินม้าแลวัวควายได้เปนอันมาก แล้วยกกองทัพกลับมาอยู่ค่ายทุ่งเชียงคำ
 
ครั้นอยู่มาสามกอปิวจึงมีหนังสือขึ้นไปขอกองทัพองวันฮ่อธงลาย อยู่เมืองตึก องวันได้จัดคนได้ ๑๐๐๐ คนเศษ องวันยกเปนกระบวนทัพมาหาสามกอปิวที่ค่ายทุ่งเชียงคำ องวันกับสามกอปิวปฤกษาพร้อมกันแล้วสามกอปิวจึงให้องวันกับกวานลานเปนนายคุมพล ๑๐๐๐ เศษ ยกกองทัพลงไปตีเมืองเวียงจันท์ พวกเมืองเวียงจันท์หาทันรู้ตัวว่าพวก ฮ่อมามากน้อยเท่าใดไม่ ก็พากันแตกตื่นทิ้งบ้านเรือนเก็บได้ครอบครัวบ้างคนละเล็กละน้อยหนีลงไปทางเมืองหนองคายบ้าง ยอมเข้าทู้ฮ่อบ้าง แล้วพวกฮ่อองวันกับกวานลานเอาไฟเผาบ้านเรือนพวกราษฎรเสียหลาย ตำบล แล้วองวันกวานลานเข้าตั้งค่ายอยู่ในเมืองเวียงจันท์ ครั้นอยู่มาประมาณสามสี่เดือน พระยามหาอำมาตย์ ( ชื่น กัลยาณมิตร ) เปนแม่ทัพคุมทหารกรุงเทพ ฯ ขึ้นมาฆ่าฮ่อที่ตั้งค่ายอยู่เมืองเวียงจันท์ ตาย ๑๐๐๐ คนเศษ หนีไปได้ ๓ คน ชื่อกอยี่ ชื่อซู ชื่อเจือง ๓ คน กลับ มาอยู่กับสามกอปิวที่ทุ่งเชียงคำ เมื่อปีกุญสัปตศก ๑๒๓๗ (พ.ศ. ๒๔๑๘ ) ท่านพระยาพิไชย (ดิศ) ยกกองทัพขึ้นไปตีฮ่อสามกอปิวที่ทุ่งเชียงคำท่านพระยาพิไชยกับสามกอปิวได้สู้รบกันอยู่หลายเดือน พวกท่านพระยา พิไชยตาย ๑๑ คน พวกฮ่อตายเปนอันมาก พวกฮ่อสามกอปิวสู้ฝีมือพวกกองทัพท่านพระยาพิไชยไม่ได้ ทิ้งค่ายหนีไปตั้งค่ายอยู่เมืองแวน พวกฮ่อที่ตั้งค่ายอยู่สามตำบล คือเมืองฮัง เมืองสบสาน บ้านตราง รู้ว่าพวกฮ่อสามกอปิวแตกหนีท่านพระยาพิไชยมา จึงปฤกษากันว่า สามกอปิวยกกองทัพไปตีค่ายเมืองพวนทุ่งเชียงคำ แล้วรักษาค่ายไว้ก็ไม่ได้ กลับแตกหนีท่านพระยาพิไชยมาอยู่เมืองแวนในแผ่นดินหัวพันทั้งหกที่กวานอยิบตีได้ นานไปท่านพระยาพิไชยรู้เข้าก็จะยกกองทัพขึ้นมาตีกวานกอปิวในแผ่นดินเมืองหัวพันทั้งหก พวกกวานกอยิบ ก็จะได้ความลำบาก กวานกอยิบปฤกษากับไพร่พลเสร็จแล้ว จึงจัดคนได้ ๑๐๐๐ เศษ ยกไปตีสามกอปิวที่เมืองแวน สามกอปิวมีคนอยู่ ๘๐๐ เศษ ในเวลากลางคืนหาทันรู้ตัวไม่ กวานกอยิบแยกทหารออกระดมตีค่ายสามกอปิว สามกอปิวแตกพาไพร่พลได้ ๓๐๐ คนเศษหนีไปอยู่ทุ่งเชียงคำบ้าง น้ำสิ่มบ้าง แต่กวานกอยี่ กอวาง กอซู กอเจือง กับไพร่พล ๒๐๐ คนเศษยอมเข้าทู้กวานกอยิบ ๆ ก็พากวานกอยี่ กอวาง กอซู กอเจือง กับไพร่พลยกกองทัพกลับไปค่ายบ้านสบสาน แล้วกวานกอยิบจึงให้กวานกอยี่ กอวาง กอซู กอเจือง ไปตั้งค่ายอยู่เมืองเชียงเขือง แล้วกวานกอยิบจึงยกกองทัพไปอยู่เมืองลาค่ายเดิม
 
ครั้นอยู่นานมาได้ ๒ ปีเศษ เจ้าเมืองไลไปจ้างเอาฮ่อธงดำเมืองเล่ากาย ๑๐๐๐ คนยกลงมาตีค่ายกวานกอยิบเมืองลา แล้วจึงแต่งให้ท้าวสามบุตรเจ้าเมืองไล กายตงเจ้าเมืองแถง แสนจงเจ้าเมืองไล ๓ นายคุมพล ๖๐๐ คนยกล้อมค่าย กอยี่ กอวาง กอซู กอเจือง ที่เชียงเขืองแขวงเมืองฮุง แล้วพวกท้าวสามกายตง สามแสนจงร้องประกาศบอกแก่ราษฎรเมืองฮุงเมืองแอดว่า ล้อมค่ายกวานกอยี่ กอวาง กอซู กอเจือง ไว้แล้วจะฆ่าเสียให้หมดอย่าให้ราษฎรมีความกลัวตกใจพวกอ้ายฮ่อเลย ให้พวกราษฎรออกทำมาหากินตามภูมิลำเนาของราษฎรเถิด พวกราษฎรเมืองฮุงเมืองสบแอดออกทำไร่นา แล้วกวานกอยี่ กอวาง กอซู กอเจือง ออกรบสู้กับท้าวสามกายตง ท้าว สามแสนจงถึง ๓ เดือนยังไม่แพ้ชนะกัน ท้าวสามกายตง ท้าวสามแสนจงหมดเสบียงหาพอเลี้ยงไพร่พลไม่ ก็เลิกทัพถอยมาตั้งค่ายอยู่เมืองวา กวานกอยี่เห็นกองทัพพวกท้าวสามยกถอยไปแล้ว มีความโกรธพวกเมืองสบแอดว่าไปเข้ากับพวกท้าวสามเมืองไล่จับเอาตัวราษฎร เมืองสบแอดได้ ๓ คน เอาไปฆ่าเสีย ที่ไม่ได้ฆ่านั้นริบเอาเงินทองไปเปนอันมาก เจ้าเมืองสบแอดกลัวพวกฮ่อจะฆ่า หนีไปอยู่เมืองลานแล้วบิดามารดาท้าวพลยกครอบครัวพาน้องสาวท้าวพลหนีไปอยู่ที่ห้วยจำแขวงเมืองสบแอด กวานกอยี่รู้จึงไปจับเอาตัวอำแดงแก้วน้องสาวท้าวพลไปเปนภรรยาอยู่ที่ค่ายเชียงเขือง แล้วท้าวสามกายตง ท้าวสามแสนจงซึ่งถอยไปตั้งค่ายอยู่เมืองวานั้นได้ ๓ เดือนก็หาได้ยกลงมารบกับกวานกอยี่ไม่ แล้วก็เลิกกองทัพกลับไปหาเจ้าเมืองไลที่ค่ายเมืองลาช่วยเจ้าเมืองไลรบกวานกอยิบ ๆ กับเจ้าเมืองไลรบกันอยู่ได้ปีเศษยังหาแพ้ชนะกันไม่ เจ้าเมืองไลจึงมีหนังสือขึ้นไปขอกองทัพพวกธงดำเจ้าเมืองเล่ากาย ๆ จึงได้จัดพล ๘๐๐ คน กับธงยี่ห้อของเมืองเล่ากายมอบให้ปักเปงเก๊าเปนแม่ทัพยกขึ้นไปช่วยเจ้าเมืองไล กวานกอยิบรู้ว่าพวกธงดำเจ้าเมืองเล่ากาย แต่งให้ปักเปงเก๊าเปนแม่ทัพ มีธงยี่ห้อของเมืองเล่ากายปักมาเปนสำคัญ กวานกอยิบมีความกลัว จึงออกไปคำนับรับกองทัพปักเปงเก๊าเข้ามาในค่าย ปักเปงเก๊าจึงว่ากับกวานกอยิบว่า เจ้ากรุงจีนมีหนังสือให้เจ้าเมืองเล่ากายไปจับเอาตัวพวกฮ่อที่เข้าไปรบอาณาเขตรเมืองลาวให้หมด ถ้าไม่ได้ตัวพวกฮ่อไปจะทำโทษเจ้าเมืองเล่ากาย ๆ จึงใช้ให้ปักเปงเก๊ามาเอาตัวกวานกอยิบกับไพร่พลไปเมืองเล่ากาย กวานกอยิบกับไพร่พลก็ยอมไป กวานกอยี่ กอวาง กอซู กอเจือง ที่ตั้งค่ายอยู่เชียงเขืองนั้น รู้ว่าปักเปงเก๊าเมืองเล่ากายขึ้นมาเอาตัวกวานกอยิบกับกวานกอยี่ กอวาง กอซู กอเจือง ไปเมืองเล่ากาย มีความกลัวพากันยกครอบครัวไพร่พล ๒๐๐ คนเศษ หนีไปอยู่กับพระยาข่าเจืองที่เมืองเปินได้ปีหนึ่ง เจ้าเมืองแอดรู้ว่ากวานกอยี่หนีไปอยู่กับพระยาพระที่เมืองเปินเจ้าเมืองแอดก็พาครอบครัวกลับ เข้ามาอยู่เมืองแอดตามเดิม แล้วกวานกอยี่ กอวาง กอซู กอเจืองจึงไปปฤกษากับพระยาพระว่าให้พระยาพระไปช่วยกวานกอยี่รบพวกเมืองสบแอดได้แล้ว กวานกอยี่ก็จะไปช่วยพระยาพระรบเมืองซ่อน จะให้พระยาพระอยู่เมืองซ่อน พระยาพระกับกวานกอยี่ปฤกษากันตกลงพร้อมแล้ว พระยาพระกับกวานกอยี่ กอวาง กอซู กอเจือง คุมไพร่พลทั้งฮ่อแลข่าเจือง๑๖๐ คนเศษยกเข้าตีเมืองสบแอด เจ้าเมืองสบแอด กับท้าวพลแลราษฎร๑๐๐คนเศษหนีไปอยู่เมืองหลวงพระบาง ท้าวเพี้ย แลราษฎรที่ไม่ได้หนีไปนั้นยอมเข้าทู้กวานกอยี่หมด กวานกอยี่ กอวาง กอซู กอเจือง พระยาพระเข้าตั้งค่ายอยู่บ้านนาเพียงแขวงเมืองสบแอดปักเปงเก๊ารู้ว่ากวานกอยี่ กอวาง กอซู กอเจือง หนีไปหาได้ตัวไม่ จึงเอาตัวกวานกอยิบกับไพร่พล ๒๐๐๐ คนเศษไปเมืองเล่ากาย เจ้าเมืองไลยกกองทัพไปเมืองไล พวกไพร่พลกวานกอยิบที่ไปอยู่เมืองเล่ากายมาทีละ ๑๐ คนบ้าง ทีละ ๒๐ คนบ้าง มารวบรวมกันเข้าได้ คน ๑๐๐ เศษ กวานกอต้ายเปนนายคุมพล ๑๐๐ เศษยกไปตั้งค่ายอยู่ เมืองสบคบได้ปีเศษ เจ้าเมืองเล่ากายรู้ว่าพวกกอต้ายหนีมาอยู่เมืองสบคบ กวานกอยี่ กอวาง กอซู กอเจือง หนีไปอยู่เมืองสบแอด จึง แต่งให้องบาฮ่อธงดำคุมพล ๓๐๐ คน กับเจ้าเมืองไลคุมพล ๑๖๐ คนขึ้นมาจับตัวกวานกอต้าย กวานกอยี่ กอวาง กอซู กอเจือง ๆ รู้ตัวเข้าว่าองบาจะมาจับ มีความกลัวหนีไปสมทบอยู่กับกวานกอต้าย แล้วก็พากันหนีองบาไปอยู่ห้วยสุย แต่พระยาพระหนีไปอยู่กับกายตงเมืองลาน องบากับเจ้าเมืองไลตามไปถึงหว้ยสุย กวานกอยี่ กอวาง กอซู กอเจือง กอต้าย หนีจากห้วยสุยไปอยู่เมืองซ่อน เจ้าเมืองซ่อนกับราษฎรหาสู้พวกฮ่อไม่ ก็พาครอบครัวยกหนีเข้าป่าไปหมด กวานกอยี่ กวานกอต้ายก็เข้าตั้งค่ายอยู่เมืองซ่อนได้ ๑๕ วัน ค่ายหาทันแล้วไม่องบากับเจ้าเมืองไลก็ยกตามไปถึง กวานกอยี่ กวานกอต้าย จวนตัวออกสู้รบกับองบาแลเจ้าเมืองไล รี้พลต่างคนต่างตาย แต่พวกกวานกอยี่ กวานกอต้ายตายมาก กวานกอยี่ กวานกอต้ายสู้ฝีมือองบากับเจ้าเมืองไลไม่ได้ แตกหนีพาไพร่พลหนีไปอยู่ทุ่งเชียงคำ แล้วพระยาพระเอาเงิน ๓ ขันหกขีด คิดเปนเงิน ๑ ชั่ง ๒ ตำลึง กับนอศีร์ษะหนึ่งให้กายตงเจ้าเมืองลานไปขอทู้กับองบา ๆ ก็ยอมรับทู้ แล้วพระยาพระมาตั้งบ้านเรือนอยู่ที่ห้วยหวนแขวงเมืองลาน แล้วองบากับเจ้าเมืองไลก็ยกกองทัพมาตั้งค่ายอยู่เมืองวา เจ้าเมืองซ่อนแลราษฎรเห็นกองทัพทั้ง ๒ กองยกไปแล้ว ก็พากันเข้าอยู่บ้านเมืองตามเดิม แล้วองบาจึงใช้ ให้กอหวายไปขอเงินค่าลูกดินกับเจ้าเมืองซ่อน ๆ ให้เงินตรากับกอหวายไป ๕ ชั่ง แล้วองบาก็ยกกองทัพไปตั้งอยู่ที่บ้านท่าขวา เจ้าเมืองไลก็ยกกลับไปเมืองไลแต่ข้าพเจ้าทราบความว่ากวานกอบิวที่ตั้งค่ายอยู่ทุ่งเชียงคำนั้นตาย ไกวซรึงฮ่อเปนนายขึ้น เรียกกันว่ากวานหลวงคุมไพร่พลอยู่ทุ่งเชียงคำ กวานหลวงกับกอยี่กอต้ายเกิดวิวาทกันขึ้น กวานหลวงก็หาให้กอยี่ กอต้าย อยู่ที่ค่ายทุ่งเชียงคำไม่ กอต้ายก็รวบรวมคนได้ ๕๐ คน ยกมาตั้งค่ายอยู่ที่บ้านนาปาได้ ๖ เดือน แล้วกวานกอยี่กับอึงกอตามมาภายหลังมีพล ๗๐ คนเศษยกไปเมืองอ้อ จึง ปฤกษากันกับพระยาว่านชวนกันไปตีเมืองทราง พวกเมืองทรางหาทันรู้ตัวไม่ก็แตก เจ้าเมืองทรางกับราษฎรหนีไปอยู่เมืองซ่อน พวกแม้วที่อยู่ในแขวงเมืองทรางก็ยอมเข้าทู้กับกวานกอยี่ ๆ กับอึงกอพระยาว่านเข้า ตั้งค่ายอยู่ในเมืองทราง แล้วกอวางกอเจืองที่อยู่กับกวานหลวงค่ายทุ่งเชียงคำนั้น ยกไปตีเมืองยู้ เจ้าเมืองยู้แลราษฎรแตกหนีเข้าป่าหมด กอวาง กอซู กอเจือง ก็เก็บเอาทรัพย์สิ่งของวัวควายกลับมายังทุ่งเชียง คำ กวานหลวงทุ่งเชียงคำก็หายอมให้กอวาง กอซู กอเจือง อยู่ที่ค่ายนั้นไม่ กอวาง กอซู กอเจือง จึงยกไปตั้งค่ายอยู่ที่ห้วยทราย กอต้ายซึ่งตั้งค่ายอยู่บ้านนาป่านั้นรู้ว่ากวานกอยี่ตีเมืองทรางได้แล้ว จึงขึ้นไปชวนกวานกอยี่ให้ยกไปอยู่ที่ค่ายบ้านป่า กอยี่กับอึงกอก็ยกมาอยู่ค่ายบ้านนาป่า แต่พระยาว่านยังอยู่เมืองทราง กอยี่จึงว่ากับกอต้ายว่ากอต้ายเปนฮ้อธงดำ กอยี่เปนฮ่อธงเหลืองจะอยู่ด้วยกันนั้นไม่ได้ กอยี่จึงยกมาตั้งค่ายอยู่ที่บ้านได กอยี่จึงตั้งให้กอรันเปนที่ซือแย้นายทหาร แต่อึงกอนั้นหามาอยู่กับกอยี่ไม่ อยู่กับกอต้ายที่ค่ายนาปา แล้วอึงกอมาได้เมียอยู่ที่เมืองสบแอดกอยี่จึงว่านานไปอึงกอจะคบคิดกับกอต้าย มาฆ่ากอยี่เสีย กอยี่จึงลอบไปฆ่าอึงกอตายที่เมืองสบแอด แล้วองบาถ้าขวารู้ว่ากอยี่ กอต้าย กลับมาจากทุ่งเชียงคำ มาตั้งค่ายอยู่ที่บ้านได บ้านนาปา จึงกวานซือแย้ฮ่อธงดำมาเอาตัวกอยี่ กอต้ายไป กอยี่ กอต้ายจึงว่ากับกวานซือแย้ว่า ตีได้เมืองหัวพันทั้งหกยอมเข้าทู้หมดแล้ว กอยี่ กอต้ายขอยอมตัวเปนบ่าว จะช่วยดูแลเมืองหัวพันทั้งหกให้องบา ขออย่าให้ไปเมืองเล่ากายเลย กวานซือแย้จึงเอาความไปแจ้งกับองบา ๆ ก็ยอมให้กอยี่ กอต้ายอยู่ องบาจึงว่าถ้าเช่นนั้นให้เปลี่ยนแซ่ธงเหลืองเปนธงดำให้หมด องบาจึงเอาธงดำให้กวานกอยี่ กอต้ายเปนสำคัญคนละธง องบาตั้งแต่ให้ซือแย้เปนนายเล่าแย้ จึงยกมาเข้าอยู่ค่ายกอต้ายที่บ้านนาปา แล้วองบาจึงมีหนังสือไปยังเจ้าเมืองเล่ากายฉบับหนึ่ง ใจความว่ากอยี่ กอต้าย ตีได้เมืองหัวพันทั้งหก พวกราษฎรขอให้กวานกอยี่อยู่รักษาบ้านเมือง เจ้าเมืองเล่ากายจึงมีหนังสือมาถึงองบา ให้องบารักษาเมืองสิบสองจุไทย ให้กอยี่กับซือแย้รักษาเมืองหัวพันทั้งหก แต่เงินที่ทู้นั้นมอบให้องบากอยี่ กอต้าย ตั้งค่ายอยู่ที่บ้านไดบ้านนาปาได้ปีเศษ ท้าวโต้บุตรเจ้าเมืองเชียงค้อจึงรวมคนเมืองสิบสบแอดเมืองเชียงค้อ กับไพร่ราษฎรที่แตกหนีไปอยู่ตามป่าได้คน ๓๐๐ เศษ ยกเข้ามาตั้งค่ายอยู่ที่บ้านศพมอญแขวงเมืองเชียงค้อ แล้วจึงแต่งคนไปพูดกับกวานซือแย้ฮ่อธงดำที่ค่ายบ้านนาปาว่า ท้าวโต้ยกกองทัพมาตั้งนี้ไม่ใช่จะมารบกับกวานซือแย้จะมารบกวานกอยี่ฮ่อธงเหลืองที่ค่ายบ้านได ขออย่าให้กวานซือแย้มาช่วยกวานกอยี่ กวานซือแย้จึงตอบว่ารบเถิดไม่ไปช่วยดอก ท้าวโต้ตั้งค่ายเสร็จแล้ว กวานกอยี่รู้ว่าท้าวโต้ยกกองทัพจะมาตีจึงจัดพลได้ ๕๐ คน ยกลงไปตั้งค่ายที่บ้านโสดใกล้กับค่ายท้าวโต้ ๓ เส้นเศษ
 
ท้าวโต้กับกอยี่ได้สู้รบกันอยู่ ๓ วัน กอยี่ก็แตกหนีมาตั้งค่ายอยู่ที่เมืองสบแอดได้วันหนึ่ง ก็หาเห็นกองทัพพวกท้าวโต้ยกตามขึ้นมาไม่ กอยี่จึงยกลงไปรบกับท้าวโต้อีก ท้าวโต้แตกถอยลงไปตั้งอยู่เมืองฮัง จึงเกลี้ยกล่อมเอาคนเมืองโสย เมืองพูน เมืองสิม เมืองพุง ได้คน ๘๐๐ คนเศษ ยกเข้ามาตั้งค่ายที่เมืองสบแอด กวานกอยี่เห็นท้าวโต้ยกพลเข้ามามาก จึงยกหนีไปอยู่ค่ายบ้านนาปากับซือแย้ แล้วจึงพูดกับซือแย้ว่าขอให้ซือแย้ช่วย ถ้าไม่ช่วยกอยี่แพ้ท้าวโต้ ๆ ก็จะตีค่ายกวานซือแย้ ๆ กับกอยี่ปฤกษาพร้อมกันแล้ว ก็ยกกองทัพมาถึงทุ่งนาน่าเมืองสบแอดฟากตวันตก ท้าวโต้ก็ยกพลข้ามน้ำแอดไปรบกวานซือแย้กวานกอยี่ที่ทุ่งนา รบกันอยู่ได้ ๔ วัน พวกกวานซือแย้กวานกอยี่รวนเรจวนจะแตกอยู่แล้ว พอท้าวโต้ถูกกระสุนปืนฮ่อที่หน้าผากไรผมแต่หาเข้าไม่ พวกบ่าวก็หามเอาท้าวโต้ลงไปเมืองเชียงค้อ ท้าวโต้ก็ถึงแก่กรรม พวกไพร่พลในกองทัพท้าวโต้ก็แตกกระจัดกระจายไป หาได้สู้รบกับพวกฮ่อต่อไปไม่ พวกฮ่อก็ยกกลับมาอยู่ที่ค่ายบ้านไดตามเดิม ต่อมาจนถึงปีจออัฐศก๑๒๔๗ (คือกองทัพเจ้าพระยาสุรศักดิ์ ฯ) กองทัพกรุงเทพ ฯ ยกขึ้นมาปราบปรามอ้ายฮ่อต่อสู้ทานกำลังมิได้ ซือแย้กวานกอยี่ กวานกอต้าย แลองบาถ้าขวายอมเข้าหากองทัพ เปนสิ้นโจรผู้ร้ายในครั้งนี้ สิ้นคำให้การท้าวพลเมืองสบแอดแต่เท่านี้ ฯะ
 
== ที่ ๒ เรื่องเมืองซำเหนือ ==