ผลต่างระหว่างรุ่นของ "สิริวิบุลกิตติชาดก"
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
หน้าที่ถูกสร้างด้วย ' พระศาสดาประทับอยู่ในพระเชตวัน ทรงปรารภภิกษุเลี...' |
ล หา←ห่า |
||
บรรทัดที่ 3:
คราวนั้น พระนางสิริมดีบรรทมหลับในราตรีทรงสุบินดังนี้ว่า มีดาบสองค์หนึ่ง มาแต่วิบุลบรรพตโดยทางอากาศ หยิบเอาแก้วมณีวางไว้ ณ ฝ่าพระหัตถ์ เมื่อพระนางตื่นบรรทมก็ทรงเล่าให้พระสวามีฟัง พระเจ้ายศกิตติจึงรับสั่งให้พราหมณ์ทำนายพระสุบินนี้ ซึ่งพราหมณ์ถวายพยากรณ์ว่า พระนางสิริมดีจักได้พระราชโอรสกอปรด้วยบุญลักษณะ ครั้นต่อมาพระนางสิริมดีก็ทรงพระครรภ์
ในระหว่างแห่งกาลนั้นมีพระราชาองค์หนึ่งนามว่าพาเหียรอยู่ต่างรัฐประเทศของพระเจ้ายศกิตติซึ่งต้องการได้เมืองของพระเจ้ายศกิตติ ได้ยกพลเสนาไปตั้งอยู่ใกล้เมืองจัมปาก แล้วส่งทูตให้ไปทูลพระเจ้ายศกิตติว่า ถ้าพระเจ้ายศกิตติจะใคร่รบกันก็ให้ออกมารบกันนอกเมือง ถ้าไม่คิดจะรบก็มอบเมืองมา เมื่อนั้นพระเจ้ายศกิตติไม่อยากให้เกิดสงครามจึงได้หนีออกจากเมืองไปอยู่ป่ากันพระนางสิริมดี เมื่อเสด็จออกจากเมืองจัมปากไปจนบรรลุถึงไพรสนณ์ใกล้ภูเขาเวปุลบรรพต มีบรรณศาลาอันฤาษีองค์ก่อนทิ้งร้างไว้ จึงทรงพาพระราชเทวีเข้าไปอาศัยอยู่ในบรรณศาลานั้น แล้วจึงพร้อมกับพระราชเทวีทรงผนวชถือเพศเป็นฤาษี
คราวเมื่อพระราชาพาเหียรวิลุปราชยกกองทัพมาติดเมืองจัมปาก ครั้นเมื่อยึดครองเมืองได้ และทราบว่าพระเจ้ายศกิตติหนีไปแล้ว จึงประกาศให้ทราบว่า ถ้าผู้ใดนำศีรษะพระเจ้ายศกิตติมาให้เราได้ จะให้รางวัลแก่ผู้นั้น คราวนั้นมีพรานป่าผู้หนึ่ง ได้ฟังคำประกาศนั้นแล้ว วันหนึ่งจึงไปแสวงหาเนื้อในป่า เดิน
คราวนั้น พระราชฤาษียศกิตติได้ทรงสดับเสียงโกลาหล และทอดพระเนตรพลเสนามามากมาย จึงรู้ว่าพรานป่าได้นำพระเจ้าพาเหียรมาจับตน ตรัสสั่งให้พระนางดาบสินีสิริมดีอยู่ที่อาศรมนี้ และมอบผ้ากัมพลกับธำมรงค์ไว้ให้ ส่วนตัวพระองค์จะยอมถูกจับ
เมื่อพระราชฤาษียศกิตติถูกจับไปแล้ว ฝ่ายพระนางดาบสินีสิริมดีทรงพระครรภ์แก่ พอครบกำหนด พระนางจึงประสูติพระราชโอรสในเวลาเที่ยงคืนวันนั้นเอง พระนางถือเอาพระนามมารดาและพระบิดาประสมกันเข้า จึงให้พระนามพระลูกเจ้าว่าสิริวิบุลกิตติ
|