เพื่อที่จะทําให้สหประชาชาติสามารถดําเนินมาตรการทางทหารได้โดยด่วน สมาชิกจักต้องจัดสรรหน่วยกําลังทางอากาศแห่งชาติไว้ให้พรักพร้อมโดยทันที สําหรับการดําเนินการบังคับระหว่างประเทศโดยรวมกัน กําลังและขั้นแห่งการเตรียมพร้อมของหน่วยกําลังเหล่านี้ และแผนการสําหรับการดําเนินการโดยรวมกัน จักได้กําหนดโดยคณะมนตรีความมั่นคง ด้วยความช่วยเหลือของคณะกรรมการเสนาธิการทหาร ทั้งนี้ภายในขอบจํากัดที่วางไว้ในความตกลงพิเศษฉบับเดียว หรือหลายฉบับที่อ้างถึงในมาตรา ๔๓
แผนการสําหรับการใช้กําลังทหาร จักได้จัดทําโดยคณะมนตรีความมั่นคง ด้วยความช่วยเหลือของคณะกรรมการเสนาธิการทหาร
๑. ให้จัดสถาปนาคณะกรรมการเสนาธิการทหารขึ้น เพื่อให้คําปรึกษาและช่วยเหลือคณะมนตรีความมั่นคงในปัญหาทั้งปวงที่เกี่ยวกับความต้องการทางทหารของคณะมนตรีความมั่นคง สําหรับการธํารงไว้ซึ่งสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ ในการใช้ และการบังคับบัญชากําลังทหารที่มอบให้คณะมนตรีในกําหนดกฎเกณฑ์ว่าด้วยอาวุธยุทธภัณฑ์และในการลดอาวุธอันจะพึงเป็นไปได้
๒. คณะกรรมการเสนาธิการทหารจักประกอบด้วยเสนาธิ-การกลาโหมของสมาชิกประจําของ คณะมนตรีความมั่นคง หรือผู้แทนของบุคคลเหล่านี้ คณะกรรมการจักต้องเชิญสมาชิกสหประชาชาติ ที่มิได้มีผู้แทนประจําอยู่ในคณะกรรมการเข้าร่วมงานกับคณะกรรมการด้วย เมื่อใดที่การปฏิบัติหน้าที่ตามความรับผิดชอบของคณะกรรมการให้ประสิทธิผลเรียกร้องให้สมาชิกนั้นเข้าร่วมในงานของคณะกรรมการ
๓. คณะกรรมการเสนาธิการทหารจักต้องรับผิดชอบภายใต้คณะมนตรีความมั่นคงสําหรับการอํานวยการทางยุทธศาสตร์เกี่ยวกับการใช้กําลังทหาร ซึ่งได้มอบไว้ให้กับคณะมนตรีความมั่นคง ปัญหาเกี่ยวกับการบังคับบัญชากําลังทหารเช่นว่านั้น จักได้พิจารณาดําเนินการในภายหลัง
๔. คณะกรรมการเสนาธิการทหารอาจสถาปนาคณะอนุกรรมการส่วนภูมิภาคขึ้นได้ ทั้งนี้โดยได้รับอํานาจจากคณะมนตรีความมั่นคง และหลังจากได้ปรึกษาหารือกับทบวงการส่วนภูมิภาคที่เหมาะสมแล้ว
๑. การดําเนินการที่พึงประสงค์ เพื่อปฏิบัติตามคําวินิจฉัยของคณะมนตรีความมั่นคงในการธํารงไว้ซึ่งสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ จักได้กระทําโดยสมาชิกสหประชาชาติทั้งปวง หรือแต่บางประเทศตามแต่คณะมนตรีความมั่นคงจะพึงกําหนด
๒. คําวินิจฉัยเช่นว่านั้นจักต้องปฏิบัติโดยสมาชิกสหประชาชาติโดยตรง และโดยผ่านการดําเนินการของสมาชิกเหล่านั้นในทบวงการระหว่างประเทศที่เหมาะสม ซึ่งตนเป็นสมาชิกอยู่
สมาชิกสหประชาชาติจักร่วมกันอํานวยความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ในการปฏิบัติมาตรการที่คณะมนตรีความมั่นคงได้วินิจฉัยไว้แล้ว