นายเงินจะแกล้งฉนี้ จำต้องผ่อนให้เปนประโยชน์แก่นายเงินบ้าง ให้ลูกทาษภอมีเวลาหลุดเปนไทยได้บ้าง ถ้าลูกทาษเปนชาย ครั้นหลุดพ้นค่าตัวแล้ว จะได้รับจ้างทำมาค้าขายฝึกหัดวิชาการ แลจะได้บรรพชาอุปสมบทบ้าง ถ้าเปนหญิง หลุดพ้นเปนไทย ได้ผัวได้ลูก มีช่องที่จะประกอบกิจทำมาหากินได้บ้าง เมื่อเปนดังนี้ จะเปนการรุ่งเรืองเจริญแก่ประชาชาวพระนครสยามโดยแท้ จึงมีพระบรมราชโองการมารพระบัณฑูรสุรสิงหนาทดำหรัสเหนือเกล้าฯ สั่งให้ที่ปฤกษาราชการแผ่นดินตราพระราชกฤษฎีกาเปนพระราชบัญญัติไว้ให้พระบรมวงษานุวงษ์ แลข้าราชการทุกกระทรวงบวงการฝ่ายทหารพลเรือน แลอาณาประชาราษฎร์ในกรุงเทพฯ แลหัวเมืองเอกโทตรีจัตวาฝ่ายใต้ฝ่ายเหนือ ให้ทราบทั่วกันว่า จุลศักราช ๑๒๓๐ ปีมโรง สัมฤทธิศกนี้ เปนปีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้เถลีงถวัลยราชสมบัติบรมราชาพิเศกในพระมหาเสวตรฉัตร เปนปีมหามงคลอันประเสรีฐ จึงโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งปีมโรง สัมริทธิศก เปนต้นพระราชบัญญัติลักษณลูกทาษนี้ว่า ตั้งแต่นี้สืบไป
๏มาตรา๑ถ้าลูกทาษชายหญิงเกิดเมื่อจุลศักราช ๑๒๓๐ ปีมโรง สัมริทธิศกนี้เปนต้นไป ให้คิดค่ากระเษียรอายุตั้งแต่เดือนหนึ่ง ๒ เดือน ๓ เดือนจนอายุ ๘ ปีเต็มค่าตัว ตั้งแต่ ๘ ปี