ตามคำภีร์พระธรรมสาตรอันโบราณราชกระษัตริยได้ทรงบัญญัติไว้ เรียกว่า นำธงไชยไปรบศึกแล้วได้มาเปนทาษชะเลย ๑ ทาษไถ่มาด้วยทรัพย์ ๑ แลทาษชะเลยนั้น ตามประเพณีโบราณกาลก่อนมา พระมหากระษัตราธิราชเจ้าได้มีพระบรมราชโองการให้เจ้านายพระยาแสนท้าวหัวเมืองในมณฑลตวันตกเฉียงเหนือยกกำลังไปปราบปรามข้าศึกสัตรูนั้น เมื่อได้ไชยชนะแล้ว บรรดาคนฝ่ายข้าศึกซึ่งจับมาได้เปนชะเลยมากน้อยเท่าใด ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แบ่งให้เปนบำเหน็จบำนาญแก่ข้าราชการแม่ทัพนายกองซึ่งได้ไปรับราชการปราบปรามข้าศึกสัตรูสนองพระเดชพระคุณตามความดีความชอบ คนชะเลยแลบุตรหลานของคนชะเลยพวกนั้นได้ตกเปนทาษแก่แม่ทัพนายกองบุตรหลานของแม่ทัพนายกองสืบมาจนกาลบัดนี้ มีกำหนดค่าตัวของทาษชะเลยตามอัตราประเพณีเมืองในมณฑลนั้นต่างกันดังนี้ คือ
นครเชียงใหม่ | ชายมีค่าตัว | ๕๔ | บาท | หญิงค่าตัว | ๗๒ | บาท | ||||||
นครน่าน | ชายมีค่าตัว | ๖๒ | บาท | หญิงค่าตัว | ๖๒ | บาท | ||||||
นครลำปาง | ชายมีค่าตัว | ๔๕ | บาท | หญิงค่าตัว | ๖๐ | บาท | ||||||
นครลำพูน | ชายมีค่าตัว | ๕๔ | บาท | หญิงค่าตัว | ๗๒ | บาท | ||||||
เมืองแพร่ | ชายมีค่าตัว | ๔๘ | บาท | หญิงค่าตัว | ๔๘ | บาท | ||||||
เมืองเถิน | ชายมีค่าตัว | ๔๒ | บาท | หญิงค่าตัว | ๖๔ | บาท |
จนครบอายุ ๖๐ ปี จึงพ้นค่าตัวหลุดเปนไทย แลบุตรของคนจำพวกนี้ เมื่อเกิดมา คิดค่าตัวอัตราต่าง ๆ เปนรายปี ๆ ขึ้นไปทุก ๆ ปีจนอายุ ๓ ปีถึง ๕ ปี ครบกำหนดเปนเต็มค่าตัวสืบไปดังนี้ชั่วบุตรหลานเหลน