หน้า:กม ร ๕ - ๒๔๔๓.pdf/97

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
90
ศก ๑๑๙
 

ตามคำภีร์พระธรรมสาตรอันโบราณราชกระษัตริยได้ทรงบัญญัติไว้ เรียกว่า นำธงไชยไปรบศึกแล้วได้มาเปนทาษชะเลย ๑ ทาษไถ่มาด้วยทรัพย์ ๑ แลทาษชะเลยนั้น ตามประเพณีโบราณกาลก่อนมา พระมหากระษัตราธิราชเจ้าได้มีพระบรมราชโองการให้เจ้านายพระยาแสนท้าวหัวเมืองในมณฑลตวันตกเฉียงเหนือยกกำลังไปปราบปรามข้าศึกสัตรูนั้น เมื่อได้ไชยชนะแล้ว บรรดาคนฝ่ายข้าศึกซึ่งจับมาได้เปนชะเลยมากน้อยเท่าใด ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แบ่งให้เปนบำเหน็จบำนาญแก่ข้าราชการแม่ทัพนายกองซึ่งได้ไปรับราชการปราบปรามข้าศึกสัตรูสนองพระเดชพระคุณตามความดีความชอบ คนชะเลยแลบุตรหลานของคนชะเลยพวกนั้นได้ตกเปนทาษแก่แม่ทัพนายกองบุตรหลานของแม่ทัพนายกองสืบมาจนกาลบัดนี้ มีกำหนดค่าตัวของทาษชะเลยตามอัตราประเพณีเมืองในมณฑลนั้นต่างกันดังนี้ คือ

นครเชียงใหม่ ชายมีค่าตัว ๕๔ บาท หญิงค่าตัว ๗๒ บาท
นครน่าน ชายมีค่าตัว ๖๒ บาท หญิงค่าตัว ๖๒ บาท
นครลำปาง ชายมีค่าตัว ๔๕ บาท หญิงค่าตัว ๖๐ บาท
นครลำพูน ชายมีค่าตัว ๕๔ บาท หญิงค่าตัว ๗๒ บาท
เมืองแพร่ ชายมีค่าตัว ๔๘ บาท หญิงค่าตัว ๔๘ บาท
เมืองเถิน ชายมีค่าตัว ๔๒ บาท หญิงค่าตัว ๖๔ บาท

จนครบอายุ ๖๐ ปี จึงพ้นค่าตัวหลุดเปนไทย แลบุตรของคนจำพวกนี้ เมื่อเกิดมา คิดค่าตัวอัตราต่าง ๆ เปนรายปี ๆ ขึ้นไปทุก ๆ ปีจนอายุ ๓ ปีถึง ๕ ปี ครบกำหนดเปนเต็มค่าตัวสืบไปดังนี้ชั่วบุตรหลานเหลน