ตั้งแต่ร้อยบาทขึ้นไปจนถึงสองพันบาทด้วยอีกโสดหนึ่ง
ผู้ใดกระทำผิดอย่างใดใดที่ว่าไว้ในหมวดนี้ ถ้าแลการที่กระทำนั้นเปนเหตุให้ผู้หนึ่งผู้ใดมีบาดเจ็บหรือถึงทุพพลภาพอย่างสาหัสก็ดี หรือถึงแก่ความตายก็ดี ท่านว่า มันผู้ที่กระทำผิดนั้นต้องรวางโทษตามสมควรแก่เหตุดังว่าต่อไปนี้ คือ
(๑)ถ้าเปนเหตุเพียงแต่บาดเจ็บหรือถึงทุพพลภาพอย่างสาหัส ให้ลงอาญาจำคุกมันตั้งแต่สองปีขึ้นไปจนถึงสิบปี แลให้ปรับตั้งแต่สองร้อยบาทขึ้นไปจนถึงห้าพันบาทด้วยอีกโสดหนึ่ง
(๒)ถ้าเปนเหตุถึงแก่ความตาย ให้ลงอาญาจำคุกมันตั้งแต่ห้าปีขึ้นไปจนถึงยี่สิบปี แลให้ปรับตั้งแต่สองร้อยบาทขึ้นไปจนถึงห้าพันบาทด้วยอีกโสดหนึ่ง
ผู้ใดกระทำความผิดอย่างใดใดที่ว่าไว้ในหมวดนี้โดยฐานประมาท ท่านว่า มันต้องรวางโทษตามสมควรแก่เหตุดังว่าต่อไปนี้ คือ
(๑)ถ้าเปนเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ทรัพย์ก็ดี หรือเปนเหตุที่ใกล้ต่ออันตรายแก่ชีวิตร์ของผู้หนึ่งผู้ใดก็ดี ท่านให้ลงโทษแก่มันตามโทษานุโทษเปนสามสฐาน คือ สฐานหนึ่ง ให้จำคุกไม่เกินกว่าหกเดือน สฐานหนึ่ง ให้ปรับไม่เกินกว่าพันบาท สฐานหนึ่ง ให้ลงโทษทั้งจำทั้งปรับเช่นว่ามาแล้วด้วยกัน
(๒)ถ้าเปนเหตุให้ผู้หนึ่งผู้ใดถึงบาดเจ็บหรือถึงทุพพลภาพอย่างสาหัสก็ดี หรือถึงตายก็ดี ท่านให้ลงโทษมันฐานทำให้บุคคลตายแลบาดเจ็บอย่างสาหัสโดยประมาทดังบัญญัติไว้ในมาตรา ๒๕๒ แล ๒๕๙ นั้น
(แลให้ใช้ได้ตลอดถึงการปลอมธนบัตร์
แลการปลอมใบสำคัญสัญญาในการกู้ยืมเงิน
ตราแลในการให้ดอกเบี้ยด้วย)
ผู้ใดปลอมเงิตราหรือสิ่งของอย่างใดใดซึ่งใช้อย่างเงินตรา ซึ่งรัฐบาลของพระเจ้าอยู่หัวหรือรัฐบาลประเทศอื่นทำขึ้นเพื่อให้สาธารณชนใช้นั้น ท่านว่า มันปลอมเงินตรา
ผู้ใดแปลงแก้ไขเงินตราพระราชอาณาจักร์หรือเงินตราประเทศใดใดให้ผิดไปจากปรกติ โดยความเจตนาจะให้คนทั้งหลายหลงเชื่อว่า เปนเงินตราอันราคาสูงยิ่งกว่าจริงก็ดี หรือมันกระทำอย่างใดใดโดยทุจริตให้น้ำหนักเงินตราอย่างใดใดน้อยลงไปกว่าปรกติก็ดี ผู้กระทำเช่นว่ามานี้ ท่านว่า มันแปลงเงินตรา