เปนเครื่องหมายต่างอักษรชื่อซึ่งบุคคลไม่รู้หนังสือเขียนลงไว้ในจดหมายนั้นด้วย
(๒๒)ปีหนึ่ง นั้น ท่านหมายความว่า ระยะเวลาสิบสองเดือนตามสุริยคติกาล โดยวิธีของรัฐบาล
(๒๓)วันหนึ่ง นั้น ท่านหมายความว่า ระยะเวลายี่สิบสี่ชั่วโมง
(๒๔)กลางคืน นั้น ท่านหมายความว่า เวลาระหว่างตั้งแต่พระอาทิตย์ตกไปจนพระอาทิตย์ขึ้น
(๒๕)ตอน นั้น ท่านหมายความว่า ส่วนข้อความในมาตราหนึ่งที่ตั้งต้นด้วยบรรทัดย่อหน้า
(๒๖)ข้อ นั้น ท่านหมายความว่า ส่วนข้อความในมาตราหนึ่งที่ขึ้นต้นด้วยบรรทัดย่อ แลมีเครื่องหมายเปนอักษรหรือเปนเลขกำกับอยู่ข้างหน้า
บุคคลควรรับอาญาต่อเมื่อมันได้กระทำการอันกฎหมายซึ่งใช้อยู่ในเวลาที่กระทำนั้นบัญญัติว่า เปนความผิด แลกำหนดโทษไว้
แลอาญาที่จะใช้ลงโทษผู้กระทำผิดนั้น ก็ไม่ควรใช้อาญาอย่างอื่นนอกจากอาญาที่ได้บัญญัติไว้ในกฎหมาย
เมื่อใดความปรากฏว่า กฎหมายที่ใช้อยู่ในขณะเมื่อผู้ต้องหากระทำการที่เกิดเปนคดีขึ้นนั้นต่างกันกับกฎหมายที่ใช้อยู่ในขณะเมื่อพิจารณาคดีไซ้ ท่านให้ใช้กฎหมายฝ่ายที่มีโทษเบาแก่ผู้ต้องหา
บุคคลกระทำผิดภายในสยามประเทศ ท่านให้พิจารณาแลลงอาญาตามพระราชกำหนดกฎหมาย
ผู้ใดกระทำความผิดภายนอกสยามประเทศ จะต้องรับอาญาภายในพระราชอาณาจักรแต่ในคดีเหล่านี้ คือ
(๑)คดีที่กระทำผิดคิดประทุษฐร้ายต่อพระเจ้าอยู่หัว หรือประทุษฐร้ายต่อพระราชอาณาจักร์ ตามความที่กล่าวไว้ตั้งแต่มาตรา ๙๗ จนมาตรา ๑๑๑
(๒)คดีที่เปนความผิดในทางปลอมเงินตรา ปลอมดวงตรา หรือปลอมบัตร์ตราหลวง ตามความที่กล่าวไว้ตั้งแต่มาตร ๒๐๒ จนมาตรา ๒๒๑
(๓)คดีที่เปนความผิดในฐานโจรสลัด
(๔)คดีที่คนในบังคับสยามไปกระทำผิดประกอบพร้อมด้วยเหตุ ๔ ประการนี้ คือ
ประการที่๑รัฐบาลประเทศอื่นหรือบุคคลที่ได้รับความเสียหายได้ร้องฟ้องขอให้ทำโทษ
ประการที่๒ความผิดที่ได้กระทำนั้น กฎหมายในเมืองที่ผู้นั้นไปกระทำผิดบัญญัติว่า จะต้องถูกลงอาญา