หน้า:กากี - หน - ๒๕๐๓.pdf/33

หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
๒๓

อนึ่งนายก็เป็นชายแต่เดินดิน ไฉนรู้เสร็จสิ้นในสิมพลี เราแจ้งทางทุเรศเขตอรัญ สัตตภัณฑ์คั่นสมุทรใสสี[1] แม้นจะขว้างแววหางมยุรี ก็จมลงถึงที่แผ่นดินดาล ด้วยนํ้านั้นสุขุมละเอียดอ่อน จึ่งชื่อสีทันดรอันไพศาล ประกอบหมู่มัจฉากุมภาพาล คชสารเงือกนํ้าแลนาคินทร์ ผู้ใดข้ามนทีสีทันดร ก็ม้วยมรณ์เป็นเหยื่อแก่สัตว์สิ้น แสนมหาพระยาครุฑยังเต็มบิน จึ่งล่วงสินธุถึงพิมานทอง นี่แนะนายไปได้ไฉนเล่า ฤๅโดยเดาว่าเล่นพอเห็นคล่อง ฤๅเหาะเหินเดินได้ดั่งใจปอง จึงไปเห็นห้องพิมานชัย ฤๅประกอบกายสิทธิ์ฤทธิเวท วิเศษด้วยมนตราเป็นไฉน เราก็หวังอยู่ด้วยยังไม่เคยไป คิดจะใคร่ศึกษาเป็นอาจารย์ ฯ ๏ คนธรรพ์ครั้นฟังก็แย้มสรวล แสร้งสำรวลเยาะเย้ยเฉลยสาร อันเวทมนต์ฤทธิไกรไม่เชี่ยวชาญ แต่จิตหาญแทรกขนสุบรรณจร พระยาครุฑครองชู้เป็นชายเฉา มาพาเราผู้ชู้ไปสู่สมร ราตรีปักษีเข้าแนบนอน ทิวากรเราแนบประจำนาง ต่างชู้ต่างชื่นทุกคืนวัน แต่สุบรรณงมจิตไม่คิดหมาง เป็นสัจจังดั่งพร้องไม่อำพราง ข้าระคางกลัวเกลือกจะมีครรภ์ ว่าพลางขับครวญกระบวนพิณ โอ้กลิ่นกากีพี่หมายมั่น เสียดายพักตร์รับพักตร์พี่เมียงมัน เสียดายกรรณรับรสพจนา เสิยดายขนงก่งพักตร์เมื่อยักยวน เสียดายเนตรนำชวนเสน่หา

เสียดายปรางช่างเบือนกระบวนมา ให้นาสาสูบรสรัญจวนใจ


  1. มีผู้จำได้อีกความหนึ่งว่า "เราทราบทางทุเรศเขตสิขร ในสาครลึกกว้างทางวิถี"