หน้า:ข้อกำหนดตาม ม ๙ (ฉ ๒๔, ๒๕๖๔-๐๖-๑๙).pdf/2

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว

เล่ม ๑๓๘ ตอนพิเศษ ๑๓๓ ง

๑๙ มิถุนายน ๒๕๖๔
หน้า ๒
ราชกิจจานุเบกษา

ในกรณีที่การปฏิบัติหน้าที่หรือการดำเนินกิจกรรมใดซึ่งการสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดเวลาอาจเป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติหน้าที่หรือการดำเนินกิจกรรม ซึ่งเป็นกรณีที่ได้รับการอนุมัติจากศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด - 19 (ศบค.) หากผู้มีหน้าที่รับผิดชอบได้กำหนดให้มีมาตรการตรวจคัดกรอง มาตรการควบคุมความเสี่ยง มาตรการตรวจเมื่อพบผู้ติดเชื้อ รวมทั้งได้ดำเนินการตามมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนดแล้ว ให้ผ่อนผันการสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าได้เฉพาะในช่วงเวลาของการปฏิบัติหน้าที่หรือการดำเนินกิจกรรมตามความจำเป็นและเหมาะสมแห่งสภาพการณ์และความสมควรแก่เหตุ ทั้งนี้ ตามข้อแนะนำหรือแนวปฏิบัติที่ทางราชการกำหนด

ข้อ ๒ การกำหนดพื้นที่สถานการณ์ กำหนดเขตพื้นที่สถานการณ์เพื่อการบังคับใช้มาตรการควบคุมแบบบูรณาการออกเป็น ๕ ระดับพื้นที่ และกำหนดเขตพื้นที่จังหวัดจำแนกตามเขตพื้นที่สถานการณ์ ดังนี้

(๑) พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด

(๒) พื้นที่ควบคุมสูงสุด

(๓) พื้นที่ควบคุม

(๔) พื้นที่เฝ้าระวังสูง

(๕) พื้นที่เฝ้าระวัง

จังหวัดในเขตพื้นที่สถานการณ์ตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามที่กำหนดในบัญชีรายชื่อจังหวัดตามเขตพื้นที่สถานการณ์แนบท้ายข้อกำหนดนี้

ในกรณีมีความจำเป็นต้องปรับปรุงเขตพื้นที่จังหวัดให้สอดคล้องกับระดับเขตพื้นที่สถานการณ์ในระยะต่อไป ให้ดำเนินการโดยออกเป็นคำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19)

ข้อ ๓ มาตรการควบคุมแบบบูรณาการจำแนกตามพื้นที่สถานการณ์ สำหรับสถานที่ กิจกรรม หรือกิจการ เพื่อให้สามารถเปิดดำเนินการได้ภายใต้เงื่อนไข เงื่อนเวลา การจัดระบบระเบียบ และมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนด รวมทั้งมาตรการตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อที่ผู้รับผิดชอบในแต่ละพื้นที่กำหนดขึ้นเป็นการเฉพาะ

(๑) พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด

ก. โรงเรียนหรือสถาบันการศึกษาทุกประเภท ให้งดใช้อาคารหรือสถานที่เพื่อการจัดการเรียนการสอน การสอบ การฝึกอบรม หรือการทำกิจกรรมใด ๆ ที่มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก