หน้า:คหก ขุนหลวงฯ - ๒๔๕๙.pdf/28

หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร

ด้วยปืนน้อยแลปืนใหญ่เปนนักหนา อันควันปืนนั้นมืดไปทั้งในป่า พระองค์เข้าไล่หักค่ายประทุมราชา ทั้งทัพปีกซ้ายปีกขวาก็พังไปทั้งสิ้น ทั้งทัพหนุนทัพน่าก็แตกแพ้อปราไชยไป อันเหล่ามอญนั้นครั้นคุมกันเข้าได้แล้ว ก็กลับคืนเข้ามารุมกันรบกันเปนหนักหนา แล้วก็กลับคืนตระหลบแตกไปเปนหลายครั้ง ครั้นเต็มพักช้างแล้วก็ถอยมา พระองค์ก็คืนเข้าในค่าย ทั้งกลางช้างแลท้ายช้าง จักได้เปนอันตรายก็หามิได้ ทั้งแรงเชิงสารทหารในก็มิได้มีอันตรายสิ่งใด แต่โลหิตรามัญที่บรรไลยนั้นติดแดงไปทั้งพลแลช้างก็เห็นเปนยิ่งนัก ๚

 ซึ่งพระนเรศร์กลับมานี้ เหตุรู้ถึงกรุงศรีอยุทธยา จึ่งพระเอกาทศรถอันเปนพระอนุชานั้น ก็แต่งพลทัพแล้วยกหนุนมา แต่เสบียงลำเลียงนั้นให้ไปก่อน ด้วยเปนการร้อนจักได้ช่วยพระเชษฐา แล้วพระองค์จึ่งยกพลโยธาเร่งรีบมาให้ทันทัพ อันเสบียงลำเลียงที่ล่วงมานั้นหลงทางไป ฝ่ายมอญนั้นจับได้ อันพระเอกาทศรถนั้น ก็ยกไปทันพระพี่ยาที่ตำบลเล่นแต่เขางาม ทั้งสองพระองค์โสมนัศาทรงพระยินดียิ่งนัก พระเอกาทศรถจึ่งกราบลงกับพระบาทพระพี่ยา พระเชษฐานั้นก็สร้วมกอดเอาทันใจ ทั้งสององค์ปรีดิ์เปรมเกษมศรี แล้วมีพระไทยยินดียิ่งนัก ไม่มีสิ่งจักเปรียบได้ แล้วพระเอกาทศรถจึ่งถามถึงพระพี่นาง พระพี่ยาจึ่งเล่าไปตามความคดีที่มีมาทั้งสิ้น พระเอกาทศรถจึ่งกราบลงแล้วก็ทูลอาสา พระนเรศร์จึ่งตรัสว่าพระน้องยานี้ยังเยาว์อยู่นัก อันประทุมราชานั้นเขากล้าหาญหนักหนา แลชัณษานั้นก็แก่กว่าเจ้า