หน้า:คหก ขุนหลวงฯ - ๒๔๕๙.pdf/30

หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
๑๐

ทั้งสอง จักให้เสนาแลอาณาราษฎรมาพลอยตายด้วยไม่ต้องการ ควรแต่ท่านกับเราเปนชายขัติยะเชื้อกษัตรต่อกษัตร จักชนช้างชิงไชยกันจึ่งจักสม นานไปเบื้องน่านี้ไม่มีกษัตรองค์ใดแล้วที่จักชนช้างชิงไชยกันดังนี้ ส่วนอุปราชาครั้นได้ยินพระนเรศร์ว่าดังนั้นก็ชอบอัชฌาไศรย จึ่งว่าเจ้าว่ามานี้เราชอบใจเปนหนักหนา ครั้นสององค์ตรัสดังนั้นแล้ว จึ่งห้ามทหารโยธาทั้งปวงว่าอย่าให้รบพุ่งกันทั้งสิ้น จึ่งตั้งเปนกระบวนปีกซ้ายปีกขวา แล้วจึ่งปักธงไชยลงด้วยกันทั้งสองฝ่าย แล้วก็ตีฆ้องไชยกลองไชยทั้งสองฝ่าย อันเหล่าทหารก็รำแพนอยู่ด้วยกันทั้งสองฝ่าย ส่วนพระนเรศร์กับอุปราชาก็เข้าชนช้างชิงไชย แล้วสู้รบฟันแทงกันด้วยพระแสงของ้าวตามกระบวนเพลงขอ ก็รำรอรับกันประจันสู้กันไปตามเพลง ส่วนช้างพระนเรศร์นั้นเล็ก ก็ถอยทางพลางสู้ชน ครั้นถอยไปอุปราชาจึ่งฟันพระนเรศร์ด้วยพระแสงของ้าว พระนเรศร์จึ่งหลบ ก็ถูกพระมาลาบี้ไปประมาณได้สี่นิ้ว ครั้นช้างพระนเรศร์ถอยไป จึ่งได้ที่ประจันหนึ่ง เรียกว่าหนองขายันแลพุดทรากะแทก ก็ยังมีที่ที่อันนั้นจนทุกวันนี้ ช้างพระนเรศร์นั้นยันต้นพุดทราอันนั้นเข้าได้แล้วจึ่งชนกะแทกขึ้นไป ก็ค้ำคางช้างอุปราชาเข้า ฝ่ายข้างช้างอุปราชาก็เบือนหน้าไป พระนเรศร์ได้ทีก็ฟันด้วยพระแสงของ้าว ชื่อเจ้าพระยาแสนพลพ่าย ก็ถูกอุปราชาพระเศียรก็ขาดออกไปกับที่บนฅอช้าง กลางช้างจึ่งเข้าประคองไว้ ฝ่ายไทยก็โห่เอาไชยสามลา ก็ดังครื้นเครงอื้ออึงสนั่นไปทั้งป่า ฝ่ายมอญก็กราบถวาย