หน้า:คหก ขุนหลวงฯ - ๒๔๕๙.pdf/39

หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
๑๙

ค่ายขึ้นไปในวันนั้น ก็ยังปรากฎเปนรอยพระทนต์คาบนั้นมีอยู่ตัวคาบ อันด้ามนั้นทำด้วยนอแล้วประดับพลอยแดงอยู่ในโรงแสงซ้าย อันชาวแสงนั้นเชิญออกชำระที่ใดแม้นมิบาดก็ไม่ได้ อันพระแสงองค์นี้กินเลือดคนอยู่อัตราแต่ไรมา อยู่จนเสียกรุงเมื่อครั้งนี้ อันพระแสงง้าวที่ฟันอุปราชาขาดฅอช้าง ซื่อเจ้าพระยาแสนพลพ่ายนั้น ก็เอาไว้ในโรงแสงซ้าย อันพระแสงที่ตีช้างมอญล้มนั้น เรียกพระแสงช้างตีล้มก็ไว้ในโรงแสงซ้าย อันพระมาลาที่อุปราชฟันถูกเข้าบิ่นไปนั้น ก็ไว้ในโรงแสงซ้าย อันรูปพระนเรศร์นั้นไว้ในโรงแสงขวา อันพระเอกาทศรถนั้น จักได้ไปรบพุ่งบ้านใดเมืองใดนั้นหามิได้ ตั้งอยู่ในธรรมสิบประการ ทั้งอาณาประชาราษฎรก็อยู่เย็นเปนศุข ทั้งสมณชีพราหมณ์ก็จำเริญศีลาบารมีก็เปนศุข อันพระเอกาทศรถนั้น ได้เสวยราชสมบัติมาแต่เมื่อจุลศักราช ๙๖๐ ปี พระชนม์ได้ ๒๐ ปี อยู่ในราชสมบัติได้ ๑๙ ปี ๓๙ ปีสวรรคต เมื่อจุลศักราชได้ถึง ๘๗๙ ปี ๚

 ครั้นอยู่หลายชั่วกษัตรมา จึ่งมีกษัตรองค์หนึ่งเปนเชื้อพระสุธรรมราช ได้ครองราชสมบัติต่อมาในกรุงศรีอยุทธยา จึ่งอรรคมหาเสนาบดีแลมหาปโรหิตผู้ใหญ่แลเสนาทั้งปวง จึ่งตั้งการราชาภิเศกตามประเพณีกษัตริย์แต่ก่อนมา จึ่งถวายพระนามเรียกว่าพระไตรโลกนารถ พระองค์ตั้งอยู่ในทศพิธราชธรรม อาณาราษฎรทั้งปวงจึ่งเรียกว่า พระเจ้าทรงธรรมอันมหาประเสริฐ อันพระอรรคมเหษีนั้นพระนามชื่อพระจันทชายา อันราชมเหษีนั้นพระนามเรียกพระขัติยเทวี จึ่งมีพระราชธิดาในพระอรรคมเหษีนั้นสี่องค์ ที่