หน้า:คำพิพากษาฯ รัชกาลที่ 8 - ๒๔๙๘.pdf/706

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๖๕๓

พยานอีกชุดหนึ่งนำสืบว่า ก่อนวันสวรรคต นายสี่ หรือชูรัตน์ ได้บอกแก่ร้อยตรี กรี พิมพกร คนชอบกันตั้งแต่ครั้งต้องโทษอยู่ในเรือนจำ ว่า นายชาติ เศรษฐทัต พวกของนายปรีดี ได้ว่าจ้างนายสี่ หรือชูรัตน์ ให้ยิงคนสำคัญ สัญญาให้ค่าจ่างสี่แสนบาท รับปากไว้แล้ว รุ่งขึ้นจากวันสวรรคต นายสี่ หรือชูรัตน์ ได้ไปหาร้อยตรี กรี ร้องไห้บอกว่า ที่รับจ้างยิงคนสำคัญนั้น คือ ยิงในหลวง โดยมีผู้นำตัวเขาเข้าไปในวังก่อนสวรรคตวันหนึ่งหรือสองวันเพื่อให้ยิง ผู้ที่รอรับอยู่ในวัง คือ นายชิต นายบุศย์ แต่นายสี่ หรือชูรัตน์ ไม่กล้ายิง จึงหลบออกมาเสีย ส่วนผู้ที่ยิงในหลวง คือ เรือเอก วัชรชัย และว่า ตำรวจกำลังติดตามจะยิงเขาอยู่ จึงขออาศัยอยู่กับร้อยตรี กรี ด้วย ปรารภว่า จะตามไปฆ่าเรือเอก วัชรชัย ให้ได้ ขอร้องให้ร้อยตรี กรี ช่วยพาไปหาพลโท พระยาเทพหัสดินฯ เพื่อจะฝากลูกเมีย พระยาเทพหัสดินฯ ฟังเรื่องแล้วห้ามปราม แนะนำให้รักษาตัวให้ดี เจ้าหน้าที่ที่จะปฏิบัติตามกฎหมายยังมีอยู่ ในที่สุด บอกปัดไม่ยอมรับให้อยู่อาศัยด้วย นายสี่ หรือชูรัตน์ จึงมาพักอาศัยอยู่กับร้อยตรี กรี ต่อมาสัก ๑ เดือนก็จากไป ว่า จะไปอยู่กับร้อยตำรวจเอก เฉียบ ชัยสงค์ แล้วก็หายสาปสูญไป

เฉพาะคำที่พาดพิงมาถึงนายชิต นายบุศย์ คงมีแต่คำร้อยตรี กรี ผู้เดียวเท่านั้นที่อ้างว่า ได้รับคำบอกเล่าจากนายสี่ หรือชูรัตน์ พระยาเทพหัสดินฯ หาได้รับคำบอกเล่าละเอียดถึงเพียงนั้นไม่

พยานสองชุดนี้ยังไม่เป็นหลักฐานพอที่จะชี้ได้ว่า ใครเป็นผู้ลงมือ