หน้า:ทำศพ - ทองสุก อินทรรัสมี - ๒๔๗๗.pdf/29

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๒๑

เรือน เอาหัวนอนไปไว้ทิศใต้ และเหยียดเท้าไปทางทิศเหนือ) การที่ถือประเพณีเช่นนี้ มีผู้ใหญ่ในแถบนั้นเล่าให้ฟังว่า ชั้นบรรพบุรุษถือกันว่า แต่เดิมว่า ภูมิลำเนาของเขาอยู่ตอนเหนือนี้ขึ้นไป เมื่อได้เลื่อนลงมาประกอบการอาชีพทางใต้แล้ว ก็ยังคำนึงถึงถิ่นฐานเดิมซึ่งเคยอยู่ จึงได้นอนหงายหันหน้าสู่ทางเหนือ แลดูเพื่อเป็นเครื่องระลึก โดยไม่ถือว่า การนอนหันศีร์ษะไปทางทิศใต้จะเป็นเสนียดจัญไร เหตุนี้ จึงเป็นประเพณีที่นอนหันศีร์ษะไปทางใต้ต่อ ๆ กันมาจนบัดนี้

ผู้ที่ตายในตอนบ่ายหรือเย็นซึ่งจะจัดการบรรจุศพลงโลงในวันนั้นไม่ทัน และจะจัดการในวันรุ่งขึ้น โดยเขาเอาผ้าคลุมศพไว้ก่อนก็ดี หรือศพที่บรรจุโลงเสร็จแล้วตั้งไว้ที่บ้านเพื่อบำเพ็ญการกุศลต่อไปก็ดี แต่ชั้นเดิม ๆ มา เขาใช้กะลามะพร้าวมีพร้อมทั้งเนื้อด้วยซีกหนึ่งใส่น้ำมันมะพร้าว ใช้นมทองหลายร้อยด้ายดิบเป็นใส้ลอยในน้ำมันมะพร้าว จุดตามไว้ทางปลายเท้าศพ แต่ในกรุงเทพฯ เวลานี้ ยังมีทำกันอยู่บ้าง ก็มักใช้ชามแทนกะลามะพร้าวบ้าง ตามด้วยตะเกียงลานบ้าง คงมีใช้กะลา