หน้า:นิทานโบราณคดี - ดำรงราชานุภาพ - ๒๔๘๗.pdf/107

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
92

พนักงานกรมตรวดโบรานคดีว่า ฉันสังเกตดูพระพุทธรูปโบรานไนอินเดียมีหลายแบบหย่าง ฉันหยากเห็นพระพุทธรูปที่นับว่า ฝีมือทำงามที่สุดที่ได้พบไนอินเดีย เขาจะช่วยหารูปฉายไห้ฉันได้หรือไม่ เขารับว่า จะหาดู เมื่อได้จะส่งตามมาไห้ ฉันกลับมาถึงกรุงเทพฯ ได้สักสองสามเดือน เขาก็ส่งพระพุทธรูปมาไห้องค์หนึ่งว่า เปนของรัถบาลอินเดียไห้ฉันเปนที่ระลึก แต่มิไช่รูปฉายเช่นฉันขอ เปนพระพุทธรูปขนาดหน้าตักสักสอกหนึ่ง ซึ่งเขาพิมพ์จำลองพระสิลาด้วยปูนปลาสเตอร์ แล้วปิดทองคำเปลวตั้งไนซุ้มไม้ทำเปนรูปเรือนแก้วสำหรับยึดองค์พระไว้ไห้แน่นไส่หีบส่งมา พระนั้นเปนรูปพระพุทธองค์เมื่อยังเปนพระโพธิสัตว์กำลังกะทำทุกรกิริยา ช่างโยนกคิดประดิถทำที่ไนคันธารราถเมื่อราว พ.ส. 900 ทำเปนพระนั่งสมาธิ แต่พระองค์กำลังซูบผอมถึงหย่างว่า "มีแต่หนังหุ้มกะดูก" แลเห็นโครงพระอัตถิและเส้นสายทำเหมือนจริงผิดกับพระพุทธรูปสามัญ แลเห็นก็รู้ทันทีว่า เปนรูปพระพุทธองค์เมื่อซงบำเพ็นเพียรหาโมขธัม ทำดีน่าพิสวง เขาบอกมาว่า พระพุทธรูปองค์นี้แหละเปนชั้นยอดเยี่ยมทั้งความคิดและฝีมือช่างโยนก พบแต่องค์เดียวเท่านั้น รัถบาลไห้รักสาไว้ไนพิพิธภันท์สถานที่เมืองละฮอ แต่ฉันไม่ได้ขึ้นไปถึง จึงไม่ได้เห็น เมื่อวันพระองค์นั้นมาถึงกรุงเทพฯ เวลานั้นฉันยังหยู่ที่วังเก่าไกล้สะพานดำรงสถิต เผอิญพระพุทธาจารย์ (มา) วัดจักรวัดิราชาวาส เมื่อยังเปนที่พระมงคลทิพมุนี ไปหา พอท่านเห็นก็เกิดเลื่อมไสว่า เปนพระหย่างแปลกประหลาดน่าชมนัก ไม่มี