หน้า:นิทานโบราณคดี - ดำรงราชานุภาพ - ๒๔๘๗.pdf/153

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
138

เคยเดินป่าไปทำมาหากินแต่ทางฝ่ายตะวันตกจนถึงเมืองกำแพงเพชรและเมืองสุโขทัย น้อยคนที่จะได้เคยไปทางฝ่ายตะวันออกห่างลำแม่น้ำไปกว่าวันเดียว เพราะเคยได้ยินเลื่องลือถึงความไข้เมืองเพชรบูรน์ กลัวกันมาเสียช้านาน ฉันก็ได้แต่ชี้แจงแก่พวกที่มาขอตัวว่า ขอไห้คิดดูเถิด ตัวฉันเองถึงเปนเจ้า ก็เปนมนุส อาดจะเจ็บอาดจะตายได้เหมือนกับพวกเขา ที่ฉันจะไปเมืองเพชรบูรน์ก็เพื่อจะไปทำราชการของพระเจ้าหยู่หัว มิไช่จะไปหาความสุขสนุกสบายสำหรับตัวเอง พวกเขาก็เปนข้าแผ่นดินเหมือนกับตัวฉัน มาช่วยกันทำราชการสนองพระเดชพระคุนพระเจ้าหยู่หัวสักคราวเปนไร อีกประการหนึ่ง ฉันไม่ได้คิดจะเอาพวกเขาไปจนถึงเมืองเพชรบูรน์ จะไห้ไปส่งเพียงปลายแดนจังหวัดพิจิตร ทางเพียง 3 วันเท่านั้นก็จะได้กลับมาบ้าน ฉันจะดูแลป้องกันมิไห้ไปเจ็บไข้ไนกลางทาง หย่าวิตกเลย พวกนั้นได้ฟังก็ไม่กล้าขอตัวต่อไป แต่สังเกตดูเมื่อเดินทางไปไม่เห็นมีไครหน้าตาเบิกบาน คงเปนเพราะยังกลัวหยู่ไม่หาย แต่เมื่อเดินทางไป 2 วัน พอถึงบ้านตำปางที่ไนป่า ก็ไปเกิดประหลาดไจ ด้วยไปพบราสดรที่มีความนิยมตรงกันข้าม หมู่บ้านเหล่านั้นก็หยู่ไนแดนจังหวัดพิจิตร แต่ชาวบ้านชอบไปทำมาหากินแต่ทางฝ่ายตะวันออกจนถึงเมืองเพชรบูรน์ เมืองหล่มสัก และเมืองวิเชียร แต่ไม่ชอบลงไปทางริมแม่น้ำ เช่นที่บางมูลนาคเปนต้น ด้วยเกรงความไข้ไนที่ลุ่ม คนที่ได้ไปแล้วคนหนึ่งบอกฉันว่า เคยไปขี่เรือครั้งหนึ่ง พอเรือออก เวียนหัวทนไม่ไหว แต่นั้นก็ไม่กล้าลงเรืออีก ดูประหลาดนักหนา คนหยู่ห่างกันเพียงทางเดิน