หน้า:นิทานโบราณคดี - ดำรงราชานุภาพ - ๒๔๘๗.pdf/156

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
141

ก็คือยาสูบ เพราะรสดีกว่ายาสูบที่อื่นหมดทั้งเมืองไทย ชาวเมืองเพชรบูรน์จึงหาผลประโยชน์ด้วยปลูกยาสูบขายเปนพื้น ลักสนะปลูกยาสูบที่เมืองเพชรบูรน์นั้น ปลูกตามแอ่งที่น้ำขังไนรึดูฝน ถึงรึดูแล้งพอน้ำไนแอ่งแห้ง ราสดรก็ไปพรวนดินปลูกต้นยาสูบ เมื่อต้นยาสูบงอกงามได้ขนาด ก็เก็บไบยามาผึ่ง แล้วหั่นเอาเข้าห่อไว้ พวกพ่อค้าไปรับซื้อตามบ้านราสดรแล้วบันทุกโคต่างไปขายทางมนทลนครราชสีมาบ้าง มนทลอุดรบ้าง แต่มนทลพิสนุโลกปลูกยาสูบเหมือนกัน จึงไม่ซื้อยาเมืองเพชรบูรน์ แต่ตลาดไหย่ของยาสูบเมืองเพชรบูรน์นั้นหยู่ไนกรุงเทพฯ ถึงรึดูน้ำ พวกพ่อค้าเอายาสูบบันทุกเรือลงมาขายมากกว่าแห่งอื่นเสมอทุกปี ประหลาดหยู่ที่รสยาสูบซึ่งเรียกกันว่า “ยาเพชรบูรน์” นั้น ดีเปนยอดเยี่ยมแต่ที่ปลูกนะเมืองเพชรบูรน์ ถ้าปลูกที่เมืองหล่มสัก หรือปลูกข้างไต้ห่างเมืองเพชรบูรน์ลงมาเพียงทางวันเดียว รสยาก็คลายไป เพราะโอชะดินสู้ที่เมืองเพชรบูรน์ไม่ได้ ถึงที่เมืองเพชรบูรน์เอง ก็ปลูกยาซ้ำที่หยู่ได้เพียงราว 6 ปี แล้วต้องย้ายไปปลูกที่อื่น ปล่อยไห้ดินพักเพิ่มโอชะเสีย 5 ปี 6 ปี จึงกลับไปปลูกที่เก่าอีก

ไนเรื่องที่เลื่องลือว่า ความไข้เมืองเพชรบูรน์ร้ายแรงนั้น เมื่อไปเห็นเมืองเพชรบูรน์ ก็พอได้เค้าเข้าไจว่า เปนเพราะเหตุได คงเปนเพราะเหตุที่เมืองเพชรบูรน์ตั้งหยู่ที่ลุ่มริมลำน้ำ มีเทือกเขาสูงกะหนาบหยู่ไกล้ ๆ ทั้งสองข้าง เทือกเขานั้นเปนหินปูน ถึงรึดูแล้ง ต้นไม้แห้ง ไม่มีไบ หินถูกแดดร้อนจัด ไอขึ้น ลมพัดมาแต่ทิสได ก็พัดพาเอาไอหินเข้ามาร้อนอบ