หน้า:นิทานโบราณคดี - ดำรงราชานุภาพ - ๒๔๘๗.pdf/158

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
143

เมื่อลงไปถึงเมืองวิเชียร อาการไข้กำเริบถึงจับไม่ส่าง แต่ต่อไปจะเปนหรือตายหาซาบไม่

ตัวเมืองเพชรบูรน์เปนเมืองมีป้อมปราการส้างมาแต่โบราน เห็นได้ว่า ตั้งเปนเมืองด่าน โดยเลือกที่ชัยภูมิตรงแนวพูเขาเข้ามาไกล้กับลำแม่น้ำสัก มีทางเดินทัพแคบกว่าแห่งอื่น ตั้งเมืองสกัดทาง ทำปราการทั้งสองฟาก เอาลำน้ำสักไว้กลางเมืองเหมือนเช่นเมืองพิสนุโลก สังเกตตามรอยที่ยังปรากต เห็นได้ว่า ส้างเปน 2 ครั้ง ครั้งแรกส้างเมื่อสมัยกรุงสุโขทัย แนวปราการขนาดราวด้านละ 20 เส้น เดิมเปนแต่ถมดินปักเสาระเนียดข้างบน มาส้างไหม่ไนที่อันเดียวกันเมื่อสมัยกรุงสรีอยุธยาอีกครั้งหนึ่ง ร่นแนวย่อมเข้ามาแต่ทำปราการก่อด้วยหินและมีป้อมรายรอบ สำหรับสู้ข้าสึกซึ่งจะยกมาแต่ลานช้าง ข้างไนเมืองมีวัดมหาธาตุกับพระปรางค์เปนสิ่งสำคันหยู่กลางเมือง ฉันได้ไปทำพิธีพุทธบูชาและถวายสังเวยพระบาทสมเด็ดพระพุทธยอดฟ้าจุลาโลกที่วัดมหาธาตุนั้น ที่ไนเมืองแต่ก่อนเห็นจะรกเรี้ยว เพิ่งมาถากถางทำถนนหนทางและปลูกเรือนสำหรับราชการต่าง ๆ เมื่อพระยาเพชรรัตนสงคราม (เฟื่อง) ขึ้นไปหยู่ ไปเห็นเข้าก็คิดถึง

(5)

ฉันเดินบกจากเมืองเพชรบูรน์ไปเมืองหล่มสัก ระยะทางที่ไปราว 1 ,200 เส้น ต้องค้างทางคืนหนึ่ง ทำเลที่เมืองหล่มสัก เปนแอ่งกับ