หน้า:นิทานโบราณคดี - ดำรงราชานุภาพ - ๒๔๘๗.pdf/161

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
146

มาดเก๋ง 6 แจวขนาดย่อมขึ้นไปรับสำหรับตัวฉันจะมาเองลำหนึ่ง เรือสำหรับผู้อื่นจะมา ฉันไห้หาซื้อเรือพายม้า 2 แจวที่ไช้กันไนเมืองเพชรบูรน์ทำประทุนเปนที่อาสัยไห้มาลำละคนหนึ่งบ้างสองคนบ้างจนครบตัวกัน

(6)

ฉันลงเรือล่องจากเมืองเพชรบูรน์เมื่อวันที่ 1 1 กุมภาพันธ์ ลำน้ำที่เมืองเพชรบูรน์แคบกว่าตอนไต้ไนแขวงสระบุรีมาก ที่บางแห่งเมื่อเรือล่องลงมาถึงปลายกิ่ง ต้นตะไคร้น้ำที่ขึ้นหยู่กับหาดประเก๋งเรือทั้งสองข้าง น้ำก็ตื้น รึดูแล้งไช้เรือได้แต่ขนาดเรือพายม้า พอพ้นที่ตั้งเมืองลงมาทั้งสองฝั่งเปนป่าต้นไม้ไหย่ เช่น ต้นตะเคียน ต้นยาง และต้นสะตือ ขึ้นทึบบังแสงแดดร่มทั้งเวลาเช้าและบ่าย มีบ้านคนตั้งประปรายมาเพียงบ้านนายม ต่อนั้นก็เปนป่าเปลี่ยวลงมาทางหลายวัน ไนระยะที่เปลี่ยวนั้น ล่องเรือลำบาก ด้วยตามปรกติเมื่อถึงรึดูฝนน้ำหลาก สายน้ำแรง มักกัดตลิ่งพัง เปนเหตุไห้ต้นไม้ไหย่โค่นล้มลงไนลำน้ำกีดขวางทางเรือ บางต้นล้มข้ามลำน้ำเหมือนหย่างสะพาน เรือลอดมาได้ก็มี บางต้นล้มทอดหยู่ไนท้องน้ำ ต้องเข็นเรือข้ามมาก็มี บางต้นจะลอดหรือจะเข็นเรือข้ามไม่ได้ทั้ง 2 สถาน ต้องขุดดินหรือชายตลิ่งพอเปนช่องไห้เรือหลีกมาทางโคนต้นไม้ก็มี โดยปรกติไม่มีไครไปจับต้อง ทิ้งไว้จนสายน้ำหลากปีหลังพัดพาขอนไม้ไห้ลอยไป หรือทิ้งหยู่จนผุไปเอง เมื่อฉันไป พวกเมืองเพชรบูรน์เขาล่วงหน้าลงมาถากถางทางบ้างแล้ว