หน้า:นิทานโบราณคดี - ดำรงราชานุภาพ - ๒๔๘๗.pdf/168

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
153

นครเดิด” แต่หยู่ไนดงทึบ ยังมีแต่เทือกเนินดินเปนแนวกำแพงและมีสะหยู่ไนเมืองสะหนึ่ง เรียกว่า “สะคงคา” บางคนได้เคยไปพบหัวยักส์ทำด้วยหิน พอเชื่อได้ว่า เปนเมืองพวกขอมส้างไว้ แต่ฉันไม่ได้ไปดู เขาบอกว่า มีเมืองโบรานอีกเมืองหนึ่งไหย่โตมาก ชื่อว่า “เมืองอภัยสาลี” หยู่ไกล้กับเมืองวิเชียรบุรี และหยู่ไนป่าแดง ไปถึงได้ไม่ยาก เมืองนั้นยังมีปรางค์ปราสาทเหลือหยู่ ฉันหยากดู จึงสั่งไห้เอาม้าลงมาคอยรับที่เมืองวิเชียร เมื่อฉันลงมาถึงเมืองวิเชียร ซาบว่า พระยาประเสิดสงคราม ผู้ว่าราชการจังหวัดซึ่งแก่ชราลาออกจากราชการนานมาแล้ว ยังมีชีวิตหยู่ แต่ทุพลภาพ ไม่สามาถจะมาหาได้ ฉันจึงไปเยี่ยมถึงบ้าน ถามถึงเรื่องเมืองสีเทพ ได้ความว่า คือเมืองวิเชียรนั้นเอง แต่โบรานเรียกชื่อเปน 2 หย่าง เมืองท่าโรงก็เรียก เมืองสีเทพก็เรียก ตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดเปนที่พระสรีถมอรัตน (ตามชื่อเขาแก้วซึ่งเปนสิ่งสำคันไนจังหวัดนั้น) มาจนถึงรัชกาลที่ 3 กรุงรัตนโกสินท์ เมื่อครั้งปราบกบดเวียงจันทน์ พระสรีถมอรัตนมีความชอบมาก จึงโปรดไห้ยกสักดิ์เมืองสีเทพขึ้นเปนเมืองตรี เปลี่ยนนามเปนเมืองวิเชียรบุรี (คงเอาชื่อเขาแก้วเปนนิมิต) และเปลี่ยนนามผู้ว่าราชการจังหวัดจากพระสรีถมอรัตนเปนพระยาประเสิดสงครามแต่นั้นมา ถามแกต่อไปถึงเรื่องเมืองอภัยสาลี แกบอกว่า มีเมืองโบรานไหย่โตจิง แต่ชื่อที่เรียกว่า เมืองอภัยสาลี นั้น เปนแต่คำพระธุดงค์บอก จะเอาเปนแน่ไม่ได้ เปนอันได้ความตามที่หยากรู้เรื่องตำนานเมืองสีเทพ ถ้าหากพระยาประเสิด

20