หน้า:นิทานโบราณคดี - ดำรงราชานุภาพ - ๒๔๘๗.pdf/246

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
231

ข้าหลวง คนหนึ่งไห้ไปยังเมืองโอ๊วก๊วง ทำเปนทีว่าคุมของบำเหน็ดไปพระราชทานเต็งกุนตัด อีกคนหนึ่งไห้ไปยังวัดบนพูเขากุ้ยเล้ง ทำเปนทีว่าคุมเครื่องราชพลีมีสุราบานและสเบียงอาหารเปนต้นไปพระราชทานแก่พวกหลวงจีน 128 องค์ เมื่อข้าหลวงไปถึงเมืองโอ๊วก๊วง เต็งกุนตัดออกไปรับข้าหลวงถึงนอกเมืองหลวงตามประเพนี ข้าหลวงก็อ่านท้องตราว่า เต็งกุนตัดคิดกบดต้องโทสถึงประหารชีวิต แล้วจับตัวเต็งกุนตัดค่าเสีย ฝ่ายข้าหลวงที่ไปยังพูเขากุ้ยเล้ง พวกหลวงจีนก็ต้อนรับโดยมีการเลี้ยงรับที่วัด ข้าหลวงเอายาพิสเจือสุราของประทานไปตั้งเลี้ยง แต่หลวงจีนเจ้าวัดได้กลิ่นผิดสุราสามัญ เอากะบี่กายสิทธิ์สำหรับวัดมาจุ้มลงชันสูตร เกิดเปลวไฟพลุ่งขึ้น รู้ว่าเปนสุราเจือยาพิส ก็เอากะบี่ฟันข้าหลวงตาย แต่ขนะนั้น พวกของข้าหลวงที่ล้อมหยู่ข้างนอกพากันจุดไฟเผาวัดจนไหม้โซมหมด พวกหลวงจีน 128 องค์ตายไปไนไฟบ้าง ถูกพวกข้าหลวงค่าตายบ้าง หนีรอดไปได้แต่ 5 องค์ ชื่อ ฉอ องค์หนึ่ง บุง องค์หนึ่ง มะ องค์หนึ่ง โอ องค์หนึ่ง ลิ องค์หนึ่ง พากันไปซ่อนตัวหยู่ที่วัดแห่งหนึ่งไนแขวงเมืองโอ๊วก๊วงที่เต็งกุนตัดเคยเปนแม่ทัพหยู่แต่ก่อน

หยู่มาวันหนึ่ง หลวงจีน 5 องค์นั้นลงไปที่ริมลำธาร แลเห็นกะถางธูปรูปสามขามีหูสองข้างไบหนึ่งลอยมาไนน้ำ กำลังมีควันธูปขึ้นไปไนอากาส นึกหลากไจ จึงลงไปยกขึ้นมาบนบกพิจารนาดู เห็นมีตัวอักสรหยู่ที่ก้นกะถางธูปนั้น 4 ตัวว่า หวน เชง หก เหม็ง แปลว่า กำจัดเชง