หน้า:นิทานโบราณคดี - ดำรงราชานุภาพ - ๒๔๘๗.pdf/255

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
240

ตามที่ลี้ลับไนหัวเมืองไกล้ ๆ กรุงเทพฯ ลอบขายฝิ่นเปนรายย่อยเข้ามายังพระนคร ข้าหลวงสืบรู้ออกไปจับ ถ้าซ่องไหนมีพัคพวกมาก ก็ต่อสู้จนถึงเกิดเหตุรบพุ่งกันหลายครั้ง มีปรากตไนหนังสือพงสาวดารว่า

เมื่อ พ.ส. 2385 เกิดอั้งยี่ที่ไนแขวงจังหวัดนครชัยสรีและจังหวัดสมุทสาคร แต่ปราบได้โดยไม่ต้องรบพุ่งครั้งหนึ่ง

ต่อนั้นมา 2 ปี ถึง พ.ส. 2387 พวกอั้งยี่ตั้งซ่องขายฝิ่นขึ้นที่ไนป่าแสมริมชายทเล นะ ตำบลแสมดำไนระหว่างปากน้ำบางปกงกับแขวงจังหวัดสมุทปราการ ต่อสู้เจ้าพนักงานจับฝิ่น ต้องไห้กรมทหานปากน้ำไปปราบ ยิงพวกอั้งยี่ตายหลายคน และจับตัวหัวหน้าได้ อั้งยี่จึงสงบอีกครั้งหนึ่ง

ต่อมาอีก 3 ปี ถึง พ.ส. 2390 พวกอั้งยี่ตั้งซ่องขายฝิ่นขึ้นอีกที่ตำบลลัดกรุด แขวงเมืองสมุทสาคร ครั้งนี้ พวกอั้งยี่มีพัคพวกมากกว่าแต่ก่อน พระยามหาเทพ (ปาน) ซึ่งเปนหัวหน้าพนักงานจับฝิ่น ออกไปจับเอง ถูกพวกอั้งยี่ยิงตาย จึงโปรดไห้สมเด็ดเจ้าพระยาบรมมหาประยุรวงส์ เมื่อยังเปนเจ้าพระยาพระคลัง คุมกำลังไปปราบ ค่าพวกอั้งยี่ตายประมาน 400 คน และจับตัวหัวหน้าได้ จึงสงบ

ปราบพวกอั้งยี่ที่ลัดกรุดได้ไม่ถึงเดือน พอเดือน 5 พ.ส. 2391 พวกอั้งยี่ก็กำเริบขึ้นที่เมืองฉเชิงเซา คราวนี้ถึงเปนกบด ค่าพระยาวิเสสลือชัย ผู้ว่าราชการจังหวัด ตาย แล้วพวกอั้งยี่เข้ายึดป้อมเมืองฉเชิงเซาไว้เปนที่มั่น โปรดไห้สมเด็ดเจ้าพระยาบรมมหาประยุรวงส์