หน้า:นิทานโบราณคดี - ดำรงราชานุภาพ - ๒๔๘๗.pdf/257

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
242

ร้อนของพวกจีนขึ้นเสนอต่อรัถบาล เมื่อซงแก้ไขด้วยอุบาย 2 หย่างนั้น เหตุการน์เรื่องอั้งยี่ก็สงบเงียบมาได้หลายปี

แต่ถึงตอนปลายรัชกาลที่ 4 มีอั้งยี่เกิดขึ้นอีกด้วยเหตุหย่างอื่น เหตุที่เกิดอั้งยี่ตอนนี้เนื่องมาจากประเพนีจีนเข้าเมือง ด้วยจีนที่ทิ้งถิ่นไปทำมาหากินตามต่างประเทสล้วนเปนคนยากจน มักไปแต่ตัว แม้เงินค่าโดยสานเรือก็ไม่มีจะเสีย เมื่อเรือไปถึงเมืองไหน เช่น เมืองสิงคโปร์ก็ดี หรือมาถึงกรุงเทพฯ ก็ดี มีจีนไนเมืองนั้นที่เปนญาติหรือเปนเถ้าเก๋หาลูกจ้างไปรับเสียเงินค่าโดยสานและรองเงินล่วงหน้าไห้จีนที่เข้ามาไหม่ ไทยเรียกว่า "จีนไหม่" ทางเมืองสิงคโปร์เรียกว่า "Sing Keh" แล้วทำสัญญากันว่า เถ้าเก๋จะรับเลี้ยงไห้กินหยู่ ข้างฝ่ายจีนไหม่จะทำงานไห้เปล่าไม่เอาค่าจ้างปีหนึ่ง งานที่ทำนั้นเถ้าเก๋จะไช้เอง หรือจะไห้ไปทำงานไห้คนอื่น เถ้าเก๋เปนผู้ได้ค่าจ้าง หรือแม้เถ้าเก๋จะโอนสิทธิไนสัญญาไห้ผู้อื่นก็ได้ เมื่อครบปีหนึ่งแล้ว ก็สิ้นเขตที่เปนจีนไหม่พ้นหนี้สิน จะรับจ้างเถ้าเก๋ทำงานต่อไป หรือไปทำมาหากินที่อื่นโดยลำพังตนก็ได้ มีประเพนีหย่างนี้มาแต่เดิม ถึงรัชกาลที่ 4 ตั้งแต่ไทยทำหนังสือสัญญาค้าขายกับฝรั่งต่างชาติเมื่อ พ.ส. 2398 การค้าขายไนเมืองไทยจเรินขึ้นรวดเร็ว มีโรงจักรสีข้าวเลื่อยไม้และมีการขนลำเลียงสินค้าอันต้องการแรงงานมากขึ้น ทั้งเวลานั้นการคมนาคมกับเมืองจีนสดวกขึ้น ด้วยมีเรือกำปั่นไปมาบ่อย ๆ พวกจีนไหม่ที่เข้ามาหากินก็มากขึ้น จึงเปนเหตุไห้มีจีนไนกรุงเทพฯ คิดหาผลประโยชน์ด้วยการเปนเถ้าเก๋รับ