หน้า:นิทานโบราณคดี - ดำรงราชานุภาพ - ๒๔๘๗.pdf/268

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
253

ทั้งเมืองพูเก็ต มีแต่ที่บ้านฉลองแห่งเดียว ชาวบ้านได้สมภารวัดฉลองเปนหัวหน้าอาดต่อสู้ชนะพวกจีน (ดังได้เล่ามาไนนิทานที่ 2 เรื่อง พระครูวัดฉลอง) แม้พระยามนตรีฯ ก็มีกำลังเพียงจะรักสาสาลารัถบาล ยังไม่สามาถจะไปปราบพวกจีนกบดตามบ้านนอกได้

เมื่อรัถบาลไนกรุงเทพฯ ได้รับโทรเลขว่า เกิดกบดที่เมืองพูเก็ต จึงโปรดไห้พระยาประภากรวงส์ (ชาย บุนนาค) เมื่อยังเปนที่เจ้าหมื่นวัยวรนาถ หัวหมื่นมหาดเล็ก เปนข้าหลวงไหย่มีอำนาดบังคับบันชาการปราบอั้งยี่ได้สิธิขาด (เพราะพระยามนตรีฯ เปนลูกเขยพระยาวิชิตสงคราม เกรงจะบังคับการไม่ได้เด็ดขาด ต่อพายหลังจึงซาบว่า เพราะพระยามนตรีฯ ต่อสู้ จึงไม่เสียเมืองพูเก็ต) คุมเรือรบกับทหานและเครื่องสาตราวุธยุธภันท์เพิ่มเติมออกไป พระยาประภาฯ ไปถึงเมืองพูเก็ต ก็ไปร่วมมือกับพระยามนตรีฯ ช่วยกันรวบรวมรี้พลทั้งไทยและมลายูที่ไปจากหัวเมืองปักส์ไต้เข้าเปนกองทัพ และเรียกพวกเจ้าเมืองที่ไกล้เคียงไปประชุมปรึกสากันไห้ประกาสว่า จะเอาโทสแต่พวกที่ค่าคนและปล้นสดม พวกกัมกรที่ได้ประพรึติร้ายเช่นนั้น ถ้าลุแก่โทสต่อหัวหน้าต้นแซ่และกลับไปทำการเสียโดยดี จะไม่เอาโทส พวกจีนที่เปนแต่ชั้นสมพลก็พากันเข้าลุแก่โทสโดยมาก จับได้ตัวหัวโจกและที่ได้ประพรึติร้ายบ้าง แต่โดยมากพากันหลบหนีจากเมืองภูเก็ตไปตามเมืองไนแดนอังกริด การจลาจลที่เมืองพูเก็ตก็สงบ

ไนครั้งนั้น ซงพระกรุนาโปรดปูนบำเหน็ดไห้เจ้าหมื่นวัยวรนาถ