หน้า:นิทานโบราณคดี - ดำรงราชานุภาพ - ๒๔๘๗.pdf/28

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
13

วันนั้น ท่านกำลังจะมาหาฉัน ไม่มีเวลาล้างทอง จึงติดหน้าแข้งมาไห้ฉันเห็น ตั้งแต่รู้จักกันเมื่อวันนั้น ท่านพระครูวัดฉลองกับฉันก็เลยชอบกันมา ท่านเข้ามากรุงเทพฯ เมื่อได ก็มาหาฉันไม่ขาด เคยทำผ้าประเจียดมาไห้ฉัน ฝีมือเขียนงามดีมาก ฉันไปเมืองภูเก็ตเมื่อได ก็ไปเยี่ยมท่านถึงวัดฉลองทุกครั้ง

การที่คนปิดทองท่านพระครูวัดฉลองเปนแรกที่จะเกิดประเพนีปิดทองคนเปน ๆ เหมือนเช่นพระพุทธรูปหรือเทวรูปสักดิสิทธิ ก็เปนธัมดาที่กิตติสัพท์จะเลื่องลือระบือเกียรติคุนของท่านพระครูวัดฉลองแพร่หลายจนนับถือกันทั่วไปทุกหัวเมืองทางทเลตะวันตก ไช่แต่เท่านั้น แม้จนไนเมืองปีนังอันเปนอานาเขตของอังกริด คนก็พากันนับถือท่านพระครูวัดฉลอง เพราะที่เมืองปีนังพลเมืองมีไทยและจีนเชื้อสายไทย ผู้ชายเรียกกันว่า "บาบ๋า" ผู้หญิงเรียกกันว่า "ยอหยา" ล้วนถือพระพุทธสาสนาหยู่เปนอันมาก เขาช่วยกันส้างวัดและนิมนต์พระสงค์ไทยไปหยู่ก็หลายวัด แต่ไนเมืองปีนังยังไม่มีพระเถระ พวกชาวเมืองทั้งพระและครึหัถจึงสมมติว่า ท่านพระครูวัดฉลองไห้เปนมหาเถระสำหรับเมืองปีนัง ถ้าส้างโบดไหม่ ก็นิมนต์ไห้ไปผูกพัทธสีมา ถึงรึดูบวดนาคเมื่อก่อนเข้าพรรสา ก็นิมนต์ไห้ไปนั่งเปนอุปชาย์บวดนาค และที่สุด แม้พระสงฆ์เกิดอธิกรน์ ก็นิมนต์ไห้ไปไต่สวนพิพากสา ท่านพระครูพิพากสาว่าหย่างไร ก็เปนสิทธิขาด จึงเปนหย่างสังคปาโมขเมืองปีนังด้วยอีกเมืองหนึ่ง ผิดกับเมืองภูเก็ตเพียงเปนด้วยส่วนตัวท่านเอง