หน้า:นิทานโบราณคดี - ดำรงราชานุภาพ - ๒๔๘๗.pdf/287

หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
272

แรมที่ตำบนน้ำซวย แขวงจังหวัดหนองคาย ปรอทลงถึง 38 ดีกรีฟาเรนไฮต์ ยังอีก 6 ดีกรีก็จะถึงน้ำแข็ง ฉันไม่เคยพบหนาวที่ไหนไนเมืองไทยเหมือนวันนั้น แต่มาสบรึดูร้อนเมื่อขากลับไกล้จะถึงมนทลนครราชสีมา ก็ร้อนจัดเหลือทนจนต้องเปลี่ยนเวลาเดินทาง ออกเดินแต่ดึก 4 นาลิกา มีคนถือคบแซงสองข้างทางไปจนรุ่งสว่าง แล้วรับไปไห้ถึงที่พักแรมแต่ก่อน 9 นาลิกา กินอาหารแล้วก็เที่ยวหาร่มเงา ซุกตัวซ่อนแสงแดดไปจนเวลาเย็น จึงเดินเที่ยวเตร่ตรวดราชการต่าง ๆ แต่เดินทางด้วยไม่ประมาท ก็หามีไครที่ไปด้วยกันเจ็บไข้หย่างไดไม่ พรรนนาการเดินทางแล้ว แต่นี้จะกล่าวถึงฉเพาะสิ่งฉเพาะหย่างต่อไป

วินิจฉัยชื่อเมืองนครราชสีมา

เมืองนครราชสีมา มีชื่อเปน 2 ชื่อ แต่ก่อนมาคนทั้งหลายเรียกว่า "เมืองโคราช" ทั่วไป เรียกว่า "เมืองนครราชสีมา" แต่ไนทางราชการ ถึงเดี๋ยวนี้ราสดรก็ยังเรียกกันว่า เมืองโคราช เปนพื้น เหตุไฉนจึงมี 2 ชื่อเช่นนั้น ฉันเคยค้นเค้าเงื่อนแต่เมื่อขึ้นไปเมืองนครราชสีมาครั้งแรก เวลานั้นไปรถไฟได้เพียงตำบนทับกวางไนดงพญาไฟแล้วต้องขี่ม้าต่อไป เมื่อฉันไปพักแรมที่บ้านสูงเนิน เขาบอกว่าไนอำเพอนั้นมีเมืองโบรานหยู่ 2 เมือง ฉันจึงไห้เขาพาไปดูเห็นเปนเมืองย่อม ๆ ไม่สู้ไหญ่โตนัก แต่ก่อปราการด้วยสิลาและมีของโบรานหย่างอื่น แสดงฝีมือว่าเปนเมืองส้างครั้งสมัยขอมทั้ง 2 เมือง เมือง