หน้า:นิทานโบราณคดี - ดำรงราชานุภาพ - ๒๔๘๗.pdf/302

หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
287

พอพวกเงี้ยวรู้ว่ามีกำลังเมืองสวรรคโลกยกขึ้นไปเมืองแพร่ทางข้างหลังอีกกองหนึ่ง ก็พากันถอยหนีจากเขาพรึงกลับไปเมืองแพร่ พระยาโพธิรบเงี้ยวป้องกันเมืองอุตรดิถไว้ได้ครั้งนั้น เปนแรกที่จะปรากตเกียรติคุน ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาพรน์ และเลื่อนบันดาสักดิ์จากที่พระสีหสงครามขึ้นเปน พระยาสรีสุริยราชวรานุวัติ เปนบำเหน็จความชอบ ต่อมาเมื่อเจ้าพระยาสุรสีห์ฯ ย้ายไปเปนสมุหเทสาพิบาลมนทลพายัพแล้ว พระยาโพธิได้เปนสมุหเทสาพิบาลมนทลพิสนุโลก แต่ไม่ช้าก็ย้ายไปเปนสมุหเทสาพิบาลมนทลอุดร ด้วยเปนที่สำคันกว่ามนทลพินุโลก เพราะหยู่ต่อแดนต่างประเทสและอานาเขตกว้างไหย่ ผู้คนพลเมืองมากกว่ามนทลพิสนุโลก นอกจากนั้น ฉันเห็นว่าเหมาะแก่คุนวิเสสฉเพาะตัวพระยาโพธิด้วย เพราะสังเกตมาตั้งแต่ยังเปนผู้ว่าราชการเมืองอุตรดิถ อันเปนที่ประชุมชนต่างชาติต่างพาสาไปมาค้าขายเปนอันมากหยู่เนืองนิจ เห็นว่าพระยาโพธิมีอัธยาสัยถนัดเข้ากับคนต่างชาติต่างพาสา สามาถวางตนไห้คนต่างจำพวกเคารพนับถือ เมื่อไปหยู่มนทลอุดรก็ปรากตคุนวิเสสเช่นว่ามา พึงเห็นเช่นพระยาเมืองชาวเวียงจันท์มาขอพึ่งดังเล่ามาแล้ว และยังมีเรื่องสำคันกว่านั้น จะเล่าไห้เห็นเปนตัวหย่างอีกเรื่องหนึ่ง เมื่อพายหลังฉันไปมนทลอุดรได้สักปีหนึ่ง วันหนึ่งราชทูตฝรั่งเสสไห้มาบอก ว่ากิจการทางชายแดนฝรั่งเสสกับไทยก็เรียบร้อยมานานแล้ว แต่เดี๋ยวนี้ได้ทราบว่าสมุหเทสาพิบาลมนทลอุดร รับญวนหัวหน้าพวกกบตที่หนีจากเมืองญวนเลี้ยงไว้คนหนึ่ง เหตุไดจึงทำ