หน้า:นิทานโบราณคดี - ดำรงราชานุภาพ - ๒๔๘๗.pdf/304

หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
289

ยินดี ตั้งแต่ฉันเข้าเขตมนทลอุดร เดินทางผ่านตำบนไหน ก็เห็นราสดรชาวบ้านไนตำบนนั้นทั้งชายหญิงเด็กผู้ไหย่ พากันมานั่งคอยเคารพหยู่ที่ริมทางเปนหมู่ ๆ และมาก ๆ เวลาไปหยุดพักที่ไหน พวกราสดรก็พากันมานั่งห้อมล้อมรอบข้าง บางคนก็มาไหว้ด้วยมือเปล่า บางคนมีเครื่องสักการะมาด้วย บางคนก็ถึงเอาน้ำไส่ขันมาขอไห้ทำน้ำมนต์ และหยากเข้าไห้ไกล้ชิดทุกคน พวกหนึ่งเข้ามากราบไหว้แล้วถอยออกไป พวกไหม่ก็เข้ามาแทน มีกิจที่ต้องรับและปราสรัยไห้พรราสดรเพิ่มขึ้นตลอดทางที่ไปทุกแห่ง แต่ที่ไหนไม่เหมือนที่เมืองหนองคาย เวลาฉันพักหยู่ที่นั่นแต่พอเช้าก็มีพวกราสดรมาหาทุกวัน พวกไหนมาถึงก็เข้ามานั่งหยู่ที่หน้าพลับพลา คอยหยู่จนฉันออกไปปราสรัยแล้วจึงกลับไป พวกหนึ่งไปแล้วพวกอื่นก็มาอีก ถ้าไม่ได้พบฉันก็ไม่กลับ ต้อง "สเด็ดออก" ร่ำไปไม่รู้ว่าวันละกี่ครั้ง จนฉันออกปากว่าอ่อนไจ พวกกรมการเมืองหนองคายเขาจึงบอกไห้รู้ ว่าพวกราสดรที่มาหานั้น มิไช่แต่ชาวเมืองหนองคายเมืองเดียว พวกราสดรทางฝั่งซ้ายไนแดนฝรั่งเสสก็มามาก ฉันได้ฟังก็เกิดนำบากไจ ด้วยเดิมคิดไว้ว่าจะหาโอกาสไปดูเมืองเวียงจันท์ แต่นึกขึ้นว่าถ้าเวลาเมื่อฉันไป มีพวกราสดรไนเมืองเวียงจันท์พากันมาห้อมล้อมไหว้เจ้าตามประสาของเขาเหมือนหย่างทางฝั่งข้างนี้ ก็อาดจะกะเทือนไปถึงการเมือง จึงงดความประสงค์ เลยไม่ได้ไปเห็นเมืองเวียงจันท์ แต่ถึงกะนั้นก็ยังไม่พ้นลำบากได้ทีเดียว ด้วยเมื่อลงเรือไฟลาแครนเดียของฝรั่งเสสล่องลำแม่น้ำโขงลงไปจากเมืองหนองคาย ถึงเวลาบ่ายไน

37