หน้า:นิทานโบราณคดี - ดำรงราชานุภาพ - ๒๔๘๗.pdf/342

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
327

นั่นเอง เพราะหยู่ไนระหว่างเมืองทุ่งยั้งกับเมืองสรีสัชนาลัย และตัวเมืองก็ตั้งหยู่ริมลำน้ำยม เปนอันรู้แห่งเมืองทั้ง 8 เพิ่มขึ้นอีกเมืองหนึ่ง ยังขาดแต่เมืองชเลียงเมืองเดียว แต่ก็หมดสิ้นที่จะค้นหาต่อไป ต้องจำนนอีกครั้งหนึ่ง

ต่อนั้นมาไม่ช้านัก ฉันขึ้นไปเที่ยวมนทลพายัพ เมื่อพักหยู่ที่เมืองเชียงไหม่ บ่ายวันหนึ่ง ฉันไปเดินเที่ยวเล่น เมื่อผ่านคุ้มหลวงที่เจ้าเชียงไหม่แก้วเนาวรัถหยู่ เห็นผู้หยิงยืนหยู่ที่ประตูคุ้มคนหนึ่ง มันเห็นฉันก็นั่งลงด้วยความเคารพ ฉันจึงทักถามว่า "เจ้าหลวงหยู่ไหม" มันประนมมือไหว้ตอบว่า "มี, เจ้า." ฉันก็นึกขึ้นไนขนะนั้นว่า ได้ความรู้หย่างหนึ่ง ว่า ภาสาไทยเหนือเขาไช้คำ "มี" หมายความเหมือนหย่างไทยไต้ว่า "หยู่" ครั้นกลับลงมาถึงกรุงเทพฯ วันหนึ่ง ฉันรื้อคิดขึ้นถึงเรื่องค้นหาเมืองชเลียง นึกว่า ไนจารึกของพระเจ้ารามคำแหงว่า "สิลาจารึกอันหนึ่งมีไนเมืองชเลียง" คำ "มี" จะไช้หมายความหย่างไทยเหนือดอกกะมัง จึงเอาสำเนาจารึกมาพิจารนาอีกครั้งหนึ่ง แต่ก่อนฉันเคยตรวดแต่ตรงว่าด้วยสิลาจารึกหลักที่เมืองชเลียง ครั้งนี้ตรวดต่อนั้นไปอีก เห็นกล่าวถึงสิลาจารึกอีก 2 หลักแล้วจึงหมดวัคว่าด้วยสิลาจารึก รวมสำเนาทั้งวัคเปนดังนี้ "และเอามาจารึกอันหนึ่งมีไนเมืองชเลียง สถาปกไว้ด้วยพระสรีรัตนธาตุ จารึกอันหนึ่งมีไนถ้ำพระรามหยู่ฝั่งน้ำสำพาย จารึกอันหนึ่งมีไนถ้ำรัตนธาร" ดังนี้ ผเอินสิลาจารึกไนถ้ำพระรามนั้น พระยารามราชภักดี (ไหย่) ผู้ว่าราชการจังหวัด