หน้า:นิทานโบราณคดี - ดำรงราชานุภาพ - ๒๔๘๗.pdf/346

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
331

ร้างหยู่ทางฝั่งตะวันตกข้างไต้เมืองกำแพงเพชร จึงตั้งหยู่นะที่นั้น และส้างเมืองขึ้นเปนราชธานี ไห้ชื่อว่า "เมืองไตรตรึงส์" (หยู่ที่ตำบนวังพระธาตุ) แล้วเสวยราชย์สืบวงส์มา 3 ชั่ว ถึงรัชกาลพระเจ้าไตรตรึงส์องค์ที่ 3 มีชายทุคตะเข็นไจคนหนึ่ง รูปร่างวิกล เปนปมเปาไปทั่วทั้งตัว จนเรียกกันว่า "แสนปม" ตั้งทำไร่เลี้ยงชีพหยู่ที่เกาะอันหนึ่งข้างไต้เมืองไตรตรึงส์ ก็นายแสนปมนั้นมักไปถ่ายปัสสาวะที่โคนต้นมะเขือไนไร่ของตนเนือง ๆ ครั้นมะเขือออกลูก ผเอินมีผู้ได้ไปส่งทำเครื่องเสวยที่ไนวัง ราชธิดาองค์หนึ่งเสวยมะเขือนั้น ซงครรภ์ขึ้นมา โดยมิได้มีวี่แววว่า เคยคบชู้สู่ชาย แล้วคลอดบุตรเปนชาย พระเจ้าไตรตรึงส์ไคร่จะรู้ว่า ไครเปนบิดาของบุตรนั้น พอกุมารจเรินถึงขนาดรู้ความ ก็ประกาสสั่งไห้บันดาชายชาวเมืองไตรตรึงส์หาของมาถวายกุมารราชนัดดา และซงอธิถานว่า ถ้ากุมารเปนบุตรของผู้ได ขอไห้ชอบของผู้นั้น นายแสนปมถูกเรียกเข้าไปด้วย ไม่มีอะไรจะถวาย ได้แต่ข้าวสุกก้อนหนึ่งถือไป แต่กุมารฉเพาะชอบข้าวสุกของนายแสนปม เห็นประจักส์แก่ตาคนทั้งหลาย พระเจ้าไตรตรึงส์ได้ความอัปยสอดสู ก็ไห้เอากุมารหลานชายกับนางราชธิดาที่เปนมารดาลงแพปล่อยลอยน้ำไปเสียด้วยกันกับนายแสนปม แต่เมื่อแพลอยลงไปถึงไร่ของนายแสนปม พระอินท์จำแลงเปนลิงเอากลองสารพัดนึกลงมาไห้นายแสนปมไบหนึ่ง บอกว่า จะปราถนาสิ่งได ก็ไห้ตีกลองนั้น จะสำเหร็ดได้ดังปราถนา 3 ครั้ง นายแสนปมตีกลองครั้งแรก ปราถนาจะไห้ปมเปาที่ตัวหายไป ก็หาย