หน้า:นิทานโบราณคดี - ดำรงราชานุภาพ - ๒๔๘๗.pdf/349

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
334

สเด็ดไปเมืองนั้นดังเล่าไนนิทานเรื่องอื่นแล้ว ฉันถามชาวเมืองสุพรรนถึงของโบรานต่าง ๆ ที่มีไนเขตเมืองนั้น เขาบอกว่า มีเมืองโบรานร้างหยู่ไนป่าทางทิสตะวันตกเฉียงไต้เมืองสุพรรนบุรีแห่งหนึ่ง เรียกกันว่า "เมืองท้าวอู่ทอง" ผู้หลักผู้ไหย่เล่ากันมาว่า พระเจ้าอู่ทองเสวยราชย์หยู่ที่เมืองนั้นก่อน หยู่มา ห่าลงกินเมือง พระเจ้าอู่ทองจึงพาผู้คนหนีห่าย้ายไปส้างกรุงสรีอยุธยาเปนราชธานี และเล่าต่อไปว่า เมื่อพระเจ้าอู่ทองหนีห่าครั้งนั้น พาผู้คนไปข้ามแม่น้ำสุพรรนตรงที่แห่งหนึ่ง ยังเรียกกันว่า "ท่าท้าวอู่ทอง" หยู่จนทุกวันนี้ ฉันได้ฟังก็เกิดหยากไปดูเมืองท้าวอู่ทอง แต่เขาว่า หยู่ไกลนัก ถ้าจะเดินบกไปจากเมืองสุพรรนฯ จะต้องแรมทางสัก 2 คืนจึงจะถึง ทางที่จะไปได้สดวกนั้นต้องไปเรือ เข้าคลองสองพี่น้องที่ไกล้กับแดนเมืองนครชัยสรี ไปทางคลองจนถึงบ้านสองพี่น้องที่หยู่ชายป่าแล้ว ขึ้นเดินบกต่อไปวันเดียวก็ถึง ฉันจึงไม่สามาถจะไปดูเมืองท้าวอู่ทองได้ไนคราวนั้น แต่ผูกไจไว้ว่า จะไปดูไห้ได้สักครั้งหนึ่ง

ต่อมาอีกสักสองสามปี จะเปนปีไดฉันจำไม่ได้ ฉันจะไปตรวดเมืองสุพรรนบุรีอีก ครั้งนี้ จะไปดูอำเภอสองพี่น้องอันเปนอำเภอไหย่ หยู่ข้างไต้เมืองสุพรรนบุรี ฉันนึกขึ้นถึงเมืองท้าวอู่ทอง จึงสั่งไห้เขาเตรียมพาหนะสำหรับเดินทางบก กับหาที่พักแรมไว้ที่เมืองท้าวอู่ทองด้วย เมื่อตรวดราชการที่อำเภอสองพี่น้องแล้ว ฉันก็ขี่ม้าเดินบกไป ทางที่ไปเปนป่าเปลี่ยว แต่มีไม้แก่นชนิดต่าง ๆ มาก ถึงมีหมู่บ้านตั้งหยู่ไนป่า