หน้า:นิทานโบราณคดี - ดำรงราชานุภาพ - ๒๔๘๗.pdf/357

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
342

ไปค้นหาได้ เมื่อเปนเสนาบดีกะซวงมหาดไทย จึงไห้สืบถามหาตำบนตระพังกรุว่า หยู่ที่ไหน ได้ความว่า เดิมหยู่ไนเขตเมืองสุพรรนบุรี แต่เมื่อย้ายเมืองกาญจนบุรีจากเขาชนไก่มาตั้งที่ปากแพรกไนรัชกาลที่ 3 โอนตำบนตระพังกรุไปหยู่ไนเขตเมืองกาญจนบุรี แต่ไนเวลานั้น เมืองกาญจนบุรีก็ยังขึ้นหยู่ไนกะซวงกลาโหม ไม่กล้าไปค้น ต้องรอมาอีก 3 ปี จนโปรดไห้รวมหัวเมืองซึ่งเคยขึ้นกะซวงกลาโหมและกรมท่ามาขึ้นหยู่ไนกะซวงมหาดไทยแต่กะซวงเดียว มีโอกาสที่จะค้นหาพระเจดีย์ยุธหัตถี ฉันจึงสั่งพระยากาญจนบุรี (นุช) ซึ่งเคยรับราชการหยู่ไกล้ชิดกับฉัน เมื่อยังเปนที่หลวงจินดารักส์ ไห้หาเวลาว่างราชการออกไปยังบ้านตระพังกรุเอง สืบถามว่า พระเจดีย์ยุธหัตถีที่สมเด็ดพระนเรสวรฯ ซงส้างมีหยู่ไนตำบนนั้นหรือไม่ ถ้าพวกชาวบ้านไม่รู้ ก็ไห้พระยากาญจนบุรีฯ เที่ยวตรวดดูเองว่า มีพระเจดีย์โบรานที่ขนาดหรือรูปซงสันถานสมกับเปนของพระเจ้าแผ่นดินจะได้ซงส้าง มีหยู่ไนตำบนตระพังกรุบ้างหรือไม่ พระยากาญจนบุรีไปตรวดหยู่นาน แล้วบอกรายงานมาว่า บ้านตระพังกรุนั้นมีมาแต่โบราน เปนที่ดอน ต้องอาสัยไช้น้ำบ่อ มีบ่อน้ำกรุอิถข้างไน ซึ่งคำโบรานเรียกว่า "ตระพังกรุ" หยู่หลายบ่อ แต่ถามชาวบ้านถึงพระเจดีย์ที่สมเด็ดพระนเรสวรฯ ซงส้าง แม้คนแก่คนเถ้าก็ว่า ไม่เห็นมีไนตำบนนั้น พระยากาญจนบุรีไปเที่ยวตรวดดูเอง ก็เห็นมีแต่พระเจดีย์องค์เล็ก ๆ หย่างที่ชาวบ้านชอบส้างกันตามวัด ดูเปนของส้างไหม่ทั้งนั้น ไม่เห็นมีพระเจดีย์แปลกตาซึ่งสมควนจะเห็นว่า เปนของ