หน้า:นิทานโบราณคดี - ดำรงราชานุภาพ - ๒๔๘๗.pdf/40

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
25

เหมือนขลิบรอบทั้งไบ ไบไม้มีพิสพวกนั้นยังมีอีก 2 หย่าง เรียกว่า "ตะลังตังกวาง" หย่างหนึ่ง "สามแก้ว" หย่างหนึ่ง แต่รูปไบรีปลายมน เปนไม้ต่างพรรนกับตะลังตังช้าง เปนแต่ที่ครีบมีขนเช่นเดียวกัน และว่า พิสสงอ่อน ไม่ร้ายแรงถึงตะลังตังช้าง ได้ยินเขาว่าทางข้างเหนือที่เมืองลำพูน ต้นตะลังตังกวางก็มี แต่ฉันไม่ได้เห็นแก่ตาเหมือนที่แหลมมลายู

เมื่อไปถึงตำบน "บกอินทนิล" ไนแดนเมืองกระบุรี ซึ่งจัดเปนที่ประทับร้อน ไนวันที่ 2 ก็เห็นของประหลาดอีก ฉันได้ยินเสียงสัตว์ร้องหยู่ไนป่าที่ต้นเลียบไหญ่ไกล้ ๆ กับที่ประทับ ฟังเหมือนเสียงตุ๊กแก ไปดูก็เห็นตุ๊กแกมีหยู่ไนโพรงต้นเลียบนั้นหลายตัว ออกประหลาดไจ เพราะเคยสำคัญมาแต่ก่อนว่า ตุ๊กแกมีแต่ตามบ้านผู้เรือนคน เพิ่งไปรู้เมื่อครั้งนั้นว่า ตุ๊กแกป่าก็มี ต่อนั้นมาอีกหลายปี ฉันตามสเด็ดไปเมืองชวาเมื่อ พ.ส. 2439 ตอนสเด็ดไปทอดพระเนตรพูเขาไฟโบรโม ประทับแรมหยู่ที่บนเขาโตสารี ห้องที่ฉันหยู่ไนโฮเต็ลไกล้กับห้องของนักปราชญ์ฝรั่งผู้เชี่ยวชาญวิชาสัตวสาสตรคนหนึ่งซึ่งออกมาเที่ยวหาสัตว์แปลก ๆ ทางตะวันออกนี้ จะเปนเยอรมันหรือฮอลันดาหาซาบไม่ แต่ดูเปนคนแก่แล้ว พูดกันได้ไนภาสาอังกริด จึงชอบพูดจาสนทนากัน แกบอกว่า ที่ไนป่าเมืองชวา มีสัตว์ประหลาดหย่างหนึ่ง เวลาคนเดินทางนอนค้างหยู่ไนป่า มันมักลอบมาอมหัวแม่ตีนดูดเอาเลือดไปกิน คนนอนไม่รู้สึกตัว เปนแต่อ่อนเพลียไปจนถึงตายก็มี ฉันว่า สัตว์หย่างนั้นไนเมืองไทยก็มี เรียกว่า "โป่งค่าง" ฉันเคยได้ยินเขาเล่าว่า มันลอบดูดเลือดคนกินเช่น

4