หน้า:นิทานโบราณคดี - ดำรงราชานุภาพ - ๒๔๘๗.pdf/53

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
38

หยู่ที่ตำบนท่าพี่เลี้ยงก็ดี ที่ว่า ขุนช้างไปครองบ้านหมื่นแผ้ว พ่อตา หยู่ที่ตำบนบ้านรั้วไหย่ก็ดี ที่ว่า ขุนช้าง พลายแก้ว กับนางพิมพ์ เมื่อยังเปนเด็ก เคยไปเล่นด้วยกันที่สวนข้างวัดเขาไหย่ก็ดี ที่ว่า เนรแก้วหยู่วัดพระป่าเลไล แล้วหนีไปหยู่วัดแคก็ดี ตำบนบ้านและวัดเหล่านั้นยังหยู่จนทุกวันนี้ ฉันได้เคยไปถึงทุกแห่ง นอกจากนั้น ไนเรื่องขุนช้างขุนแผนตอนขุนแผนพานางวันทองหนี ออกชื่อตำบนต่าง ๆ ไนทางที่ไปว่า ออกทางประตูตาจอม ผ่านวัดตะล่มโปง โคกกำยาน นาแปลกแม่ ข้ามลำน้ำบ้านพลับ ถึงบ้านกล้วย ยุ้งทลาย ผ่านเขาถ้ำพระ ตำบนต่าง ๆ เหล่านี้ก็ยังมีหยู่ทั้งนั้น ไครเคยชอบอ่านเรื่องขุนช้างขุนแผน ไปถึงเมืองสุพรรน ก็ออกสนุกที่ได้ไปดูเมืองขุนช้างขุนแผนด้วยอีกหย่างหนึ่ง

ตั้งแต่ฉันไปเมืองสุพรรนครั้งนั้นแล้ว เจ้านายก็เริ่มสเด็ดไปเที่ยวเมืองสุพรรน แม้ตัวฉันเอง ต่อมาก็ชอบไปเมืองสุพรรน ได้ไปอีกหลายครั้ง เมื่อรัชกาลที่ 5 ฉันได้รับราชการเปนตำแหน่งผู้จัดการสเด็ดประพาสมาแต่ยังเปนอธิบดีกะซวงธัมการ เมื่อมาเปนเสนาบดีกะซวงมหาดไทย ได้บังคับบันชาการตามหัวเมือง หน้าที่นั้นก็ยิ่งสำคันขึ้น เพราะสมเด็ดพระพุทธเจ้าหลวงไคร่จะทอดพระเนตรการปกครองหัวเมืองที่จัดไหม่ ต้องคิดหาที่สเด็ดประพาสถวายทุกปี ปีหนึ่ง ฉันกราบทูนเชินสเด็ดประพาสเมืองสุพรรนบุรี ตรัดว่า "ฉันก็นึกอยากไป แต่ว่าไม่บ้านะ" ฉันกราบทูนว่า "ข้าพระพุทธเจ้าไปเมืองสุพรรนหลายปีแล้ว ก็ยังรับราชการสนองพระเดชพระคุนหยู่ได้" ซงพระสวน ตรัดว่า "ไปซิ"